12 มิถุนายน 2564
2,696

Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ในงาน WWDC21 มีอะไรน่าสนใจบ้าง

Apple เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ในงาน WWDC21 มีอะไรน่าสนใจบ้าง

         เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 Apple ได้จัดงาน WWDC21 (Worldwide Developers Conference) เปิดตัวซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ทุกตัว สำหรับผู้ใช้งาน Apple ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch และไฮไลต์สำคัญที่ทำสาวก iPhone ฮือฮา นั่นก็คือ ระบบ iOS 15 ที่บอกเลยว่า น่าสนใจมาก ๆ และวันนี้ “ทันข่าว Today” ได้สรุปข้อมูลของ iOS 15, iPadOS 15, macOS Monterey และ watchOS 8 มาไว้ให้แล้ว

        1. ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS15 

1_iOS15.jpg


        Facetime 

  • มีระบบเสียงตามตำแหน่ง ที่จะทำให้เสียงพูดขณะโทร FaceTime มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น พร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน
  • มีโหมดภาพถ่ายบุคคล ขณะ FaceTime สามารถเบลอฉากหลัง และโฟกัสตัวเอง
  • FaceTime แบบกลุ่ม ช่วยให้ผู้เข้าร่วมเห็นหน้าคนอื่น ๆ พร้อมกันได้มากขึ้น
  • SharePlay สามารถแชร์เพลง รายการทีวี ภาพยนตร์ บนระบบ Apple หรือแชร์หน้าจอ ให้คนอื่น ๆ ได้ ขณะ FaceTime
  • สามารถสร้างลิงก์ในการ Facetime จาก iPhone, iPad หรือ Mac ได้

เครื่องมือช่วยโฟกัส

เป็นเครื่องมือที่ช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิ สามารถโฟกัสสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้อย่างเต็มที่ โดยผู้ใช้ตั้งค่าแบ่งหมวดหมู่การแจ้งเตือนระหว่างวัน แยกชัดเจนระหว่างการทำงาน เวลาส่วนตัว เวลานอน และอื่น ๆ 

Live Text

  • สามารถดึงข้อความออกมาจากภาพได้เลย และใช้ค้นหาข้อมูลได้ทันที  
  • Spotlight ค้นหารูป ตามตำแหน่งที่ตั้ง  ผู้คน ลักษณะสภาพแวดล้อม หรือวัตถุ และสามารถค้นหารูปภาพบนเว็บได้ เรียกได้ว่ามีความครบเครื่องมากกว่าเดิม

Safari โฉมใหม่

  • ดีไซน์ใหม่ ควบคุมได้ด้วยมือเดียว
  • Tab Groups บันทึกแถบต่าง ๆ ไว้ กลับมาดูได้อย่างสะดวก
  • หน้าเริ่มต้นปรับแต่งได้
  • มีส่วนขยายเว็บของบริษัทอื่น

 Maps แบบใหม่

แผนที่ 3 มิติ บอกรายละเอียดในเมืองที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ระดับความสูง อาคาร สี ป้ายถนนใหม่ เลนเลี้ยว เกาะกลาง ช่องทางจักรยาน ทางคนข้าม แลนด์มาร์กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และ โหมดเวลากลางคืนใหม่

Apple Wallet

รองรับกุญแจหลายประเภทมากขึ้น ทำให้สามารถเข้าออกสถานที่ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ง่ายด้วยการแตะครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์, ห้องพัก, ประตูบ้าน, ออฟฟิศ และ บันทึกใบขับขี่

แอปสภาพอากาศ

มาพร้อมกราฟิกแสดงข้อมูลสภาพอากาศที่มีมากขึ้น มีภาพพื้นหลังเคลื่อนไหวที่ออกแบบขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ซึ่งจะแสดงตำแหน่งของดวงอาทิตย์รวมถึงปริมาณฝนได้แม่นยำยิ่งขึ้น และมีการแจ้งเตือน เมื่อฝนหรือหิมะเริ่มตก หรือหยุดตกด้วย

Note โฉมใหม่

โน้ต สามารถเพิ่มแท็กได้ และสามารถแชร์ และ กล่าวถึงคนอื่น ๆ ได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Siri, Shared with You, iCloud+, แอปสุขภาพ, ค้นหาของฉัน, แอปแปลภาษา รวมไปถึง ออกแบบการแจ้งเตือนใหม่ ทุกการแจ้งเตือน จะมีรูปของผู้ติดต่อขึ้นมาด้วย 

อุปกรณ์ไหนที่รองรับ iOS 15 ได้บ้าง?

สามารถอัปเดต iOS 15 ได้ทุกรุ่นที่ใช้งาน iOS 14 ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6s, 6s Plus ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 

ได้แก่ iPhone 12, iPhone 12 mini, iPhone 12 Pro, iPhone 12 Pro Max, iPhone SE (รุ่นที่ 2), iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max, iPhone XS, iPhone XS Max, iPhone XR, iPhone X, iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone 7, iPhone 7 Plus, iPhone SE (รุ่นที่ 1), iPhone 6s, iPhone 6s Plus, iPod touch (รุ่นที่ 7)

อัปเดต iOS 15 ได้เมื่อไร ?

เวอร์ชั่นทดสอบสำหรับบุคคลทั่วไป จะปล่อยในเดือน กรกฎาคม 2021 ส่วนเวอร์ชั่นอย่างเป็นทางการ จะเปิดให้ใช้งาน ช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2021 พร้อมกันทั่วโลก สำหรับนักพัฒนา สามารถอัปเดตได้ที่ developer.apple.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

       2. ฟีเจอร์ใหม่ iPadOS 15

 2_iPadOS15.jpg

MultiTasking

ช่วยให้ทำงานพร้อมกันหลาย ๆ อย่าง ง่ายกว่าเดิม เข้าใช้งาน Split View หรือ Slide Over ได้เพียงแค่แตะครั้งเดียว แสดงผลได้หลากหลายจอ เปิดได้ถึง 4 โปรแกรมสลับไปมา 

Widget

ขนาดใหญ่ขึ้น สามารถวางวิดเจ็ตระหว่างแอปได้แล้วบนหน้าจอโฮม ทำให้สามารถมองเห็นข้อมูลได้มากขึ้น

Quick Note 

การจดโน้ตบน iPad ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้จดบันทึกและเรียบเรียงความคิดได้อย่างง่ายดายขึ้น มี Tag Browser และ Smart Folder ที่จัดระเบียบตามแท็ก สามารถแชร์การทำงานในโน้ตร่วมกับผู้อื่นได้

FaceTime

การโทร FaceTime ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น พร้อม SharePlay ในการทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงใน Apple Music ดูรายการทีวีหรือภาพยนตร์บน Apple TV+ หรือบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ ไปพร้อมกัน หรือการแชร์หน้าจอเพื่อดูแอปต่างๆ 

เครื่องมือช่วยโฟกัส

ช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิ สามารถโฟกัสสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้อย่างเต็มที่ โดยผู้ใช้ตั้งค่าแบ่งหมวดหมู่การแจ้งเตือนระหว่างวัน แยกชัดเจนระหว่างการทำงาน เวลาส่วนตัว เวลานอน และอื่น ๆ 

Live Text


  • สามารถดึงข้อความออกมาจากภาพได้เลย และใช้ค้นหาข้อมูลได้ทันที  
  • Spotlight ค้นหารูป ตามตำแหน่งที่ตั้ง  ผู้คน ลักษณะสภาพแวดล้อม หรือวัตถุ และสามารถค้นหารูปภาพบนเว็บได้ เรียกได้ว่ามีความครบเครื่องมากกว่าเดิม

แปลภาษา

ระบบการแปลอัตโนมัติ ตรวจจับภาษาต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องแตะปุ่มไมโครโฟน และสามารถใช้งานร่วมกับ Live Text แปลข้อความจากรูปภาพ หรือข้อความที่เขียนด้วยมือได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมี Swift Playground ให้สร้าง Apps ได้เอง มี Universal Control ช่วยให้สลับใช้เมาส์และคีย์บอร์ดเดียวทั้งบน iPad และ Mac ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ รวมไปถึง Shared with You, แอปรูปภาพลุคใหม่, Maps ที่ละเอียดขึ้น , ความเป็นส่วนตัว ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น, iCloud+ พรีเมียม และอื่น ๆ 

       3. macOS Monterey 


3_macOS-Monterey.jpg

Safari โฉมใหม่

ทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น มี Tab Groups ที่ช่วยบันทึก และจัดการกับแถบเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงสามารถซิงค์กันทั้งบน Mac, iPhone และ iPad ได้

มีแอปคำสั่งลัด

ให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้แบบอัตโนมัติด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

Quick Note

ผู้ใช้สามารถจดโน้ตลงในแอปหรือเว็บไซต์ทั้งระบบ เพิ่มลิงก์ได้ มีการจัดหมวดหมู่โน้ตด้วยแท็กเพื่อให้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายใน Tag Browser และ Smart Folders ที่จัดกลุ่มตามแท็ก

เครื่องมือช่วยโฟกัส

ช่วยให้ผู้ใช้ Mac จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ได้เต็มที่ โดยกรองการแจ้งเตือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ทำอยู่ในขณะนั้น

FaceTime

มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เสียงชัดเจน มีระบบตัดเสียงรบกวน มีโหมดถ่ายภาพบุคคล เบลอพื้นหลัง ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์วิดีโอที่สวยงาม 

Universal Control

ผู้ใช้ทำงานโดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ดเดียว และย้ายไปมาระหว่าง Mac และ iPad ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ ลากแล้ววางคอนเทนต์ไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้เลย ซึ่งเหมาะกับการสเก็ตช์ภาพด้วย Apple Pencil บน iPad แล้วลากไปวางในสไลด์ Keynote บน Mac

AirPlay to Mac

ผู้ใช้สามารถเล่น นำเสนอ และแชร์ได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เกม รูปถ่าย งานนำเสนอ จาก iPhone หรือ iPad มายังจอภาพ Retina ของ Mac โดยตรง นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงคุณภาพสูง ที่ใช้เป็นลำโพง AirPlay ได้อีกด้วย ผู้ใช้จึงสามารถเล่นเพลง หรือ Podcast บน Mac หรือใช้ Mac เป็นลำโพงตัวชุดรองสำหรับการเล่นเสียงแบบหลายห้อง

นอกจากนี้ยังมี Shortcut, SharePlay, Shared with You, Live Text, iCloud+ พรีเมียม รวมถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น

        4. watchOS 8 

4_watchOS-8.jpg

Wallet บน Apple Watch

Apple Watch มาพร้อมกับ แอป Wallet ช่วยให้ชำระเงินได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงมี กุญแจดิจิทัลที่หลากหลาย ทั้ง รถยนต์ บ้าน ที่ทำงาน และโรงแรม รวมถึงใบขับขี่หรือบัตรประจำตัวของรัฐ โดยจะเริ่มต้นจากรัฐที่เข้าร่วมในสหรัฐอเมริกาก่อน ลูกค้าจะเริ่มใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลได้ที่แรก ณ จุดตรวจ TSA บางจุด

แอปบ้านโฉมใหม่

ผู้ใช้เข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์เสริมได้สะดวกยิ่งขึ้น ผู้ใช้ที่มีกล้อง ที่รองรับ HomeKit สามารถดูจากข้อมือได้เลยว่าใครอยู่ที่หน้าประตู สั่งปลดล็อกได้ หรือจะสั่ง Apple TV ให้เปิดไฟในบ้านได้ด้วย

เพิ่มการออกกำลังกายแบบใหม่

มาพร้อมการออกกำลังกาย ไทเก็ก และ พิลาทิส เข้าไปด้วย พร้อมค่าวัดที่แม่นยำ

แนวทางใหม่ในการฝึกสมาธิ

มีแอปหายใจ ช่วยฝึกสมาธิอยู่กับลมหายใจสั้น ๆ 1 นาที เพื่อให้ผู้ใช้มีสมาธิมากขึ้นในแต่ละวัน

อัตราการหายใจขณะนอนหลับ

มีระบบกำหนดกิจวัตรก่อนเข้านอน และติดตามค่าวัดต่างๆ เช่น เวลานอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจ และออกซิเจนในเลือด บอกข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น ติดตามอัตราการหายใจขณะนอนหลับ จำนวนครั้งที่หายใจต่อนาที

หน้าปัด "ภาพถ่ายบุคคล" และ "รูปภาพ"

สามารถดู และมีส่วนร่วมกับรูปภาพจากข้อมือได้โดยตรง ตรวจจับใบหน้าได้ ครอปตัดได้ สามารถซิงค์กับ Apple Watch ได้ และ แชร์รูปภาพผ่านแอปข้อความและเมลด้วยคุณสมบัติ Share Sheet ใหม่ได้อีกด้วย

คุณสมบัติ Focus

ช่วยลดสิ่งรบกวนและช่วยให้ผู้ใช้มีสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ ด้วยการคัดกรองการแจ้งเตือน  ให้เป็นไปตามที่ตั้งค่าไว้

นอกจากนี้ ยังมี แอปแผนที่ แอปสภาพอากาศ โทรศัพท์ เพลง Podcast นาฬิกาจับเวลา นาฬิกานับถอยหลัง ปฏิทิน อีเมล เสียงบันทึก มี AssistiveTouch รองรับการใช้งาน Apple Watch ด้วยมือเดียว โดยการตรวจจับท่าทางง่าย ๆ ที่ตำแหน่งมือเพื่อการโต้ตอบโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ

มีแอป Find Items ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งของที่ติดตามผ่านเครือข่ายค้นหาของฉันได้ และแอป Find Devices ใหม่จะช่วยระบุตำแหน่งอุปกรณ์ Apple ที่สูญหายซึ่งมีการลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน รวมไปถึง เพิ่มความเป็นส่วนตัว ที่มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

อ้างอิงข้อมูลจาก : Apple (Thailand)

ติดต่อโฆษณา!