19 มีนาคม 2565
11,231

รวม 15 ธุรกิจความเสี่ยงสูง โอกาสรอดน้อย ปี 2565

รวม 15 ธุรกิจความเสี่ยงสูง โอกาสรอดน้อย ปี 2565
Highlight

จากปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลายอย่างทั้งเทคโนโลยีที่เข้ามาแทน  การแพร่ระบาดของโควิดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป พบว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มี 15 ธุรกิจที่มีการหดตัวลงมากกว่า 30% ประกอบกับตอนนี้เงินเฟ้อสูงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้ทั้ง 15 ธุรกิจเหล่านี้ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงเยอะในปี 2565 นี้


คำว่าความเสี่ยงสูงโอกาสรอดน้อย ไม่ได้ฟันธงว่าทุกคนที่ทำธุรกิจเหล่านี้จะไปไม่รอด แต่เป็นการประเมินจากปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลายอย่างทั้งเทคโนโลยีที่เข้ามาแทน, การแพร่ระบาดของโควิด, พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

หากธุรกิจใดก็ตามปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้ โอกาสรอดก็มากขึ้น ทั้งนี้หากดูแนวทางเศรษฐกิจในปี 2565 คาดการณ์ว่าหลายธุรกิจจะพุ่งแรงและฟื้นตัวในขณะที่มีหลายธุรกิจยังคงมีความเสี่ยง เพราะพบว่าการหดตัวมากกว่า 30% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาติดต่อกัน ผนวกกับตอนนี้เงินเฟ้อสูงขึ้น ค่าครองชีพเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้ทั้ง 15 ธุรกิจเหล่านี้ถูกจัดว่ามีความเสี่ยงเยอะในปี 2565 นี้ 

ธุรกิจไหนบ้างมีความเสี่ยงในปี 2565 ไม่ว่าจะธุรกิจใดก็ล้วนแต่มีความเสี่ยงเพราะการแข่งขันในธุรกิจยุคใหม่นั้นสูงมาก ประกอบกับเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเข้ามามีบทบาท ซึ่ง 15 ธุรกิจดังต่อไปนี้ถือว่ามีความเสี่ยงเยอะที่สุดได้แก่

 1. ร้านขายของชำ

เริ่มตั้งแต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น แม้ร้านของชำจะมีข้อได้เปรียบร้านสะดวกซื้อทั่วไปตรงความสนิทความคุ้นเคยระหว่างเจ้าของร้านกับลูกค้าบางแห่งสามารถเอาของไป ก่อนจ่ายเงินทีหลัง แต่บางทีข้อดีเหล่านี้ก็เป็นข้อเสียไปพร้อมกันได้ ร้านของชำในปัจจุบันจึงลดน้อยลงชัดเจน และแทนที่ด้วยร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่ปรับตัวตามกระแสโลกยุคใหม่ได้ 

2. ร้านเกม / อินเตอร์เน็ตคาเฟ่

ย้อนกลับไปในยุค 90 ร้านเกม อินเตอร์เนตคาเฟ่ เฟื่องฟูมาก ผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด เป็นร้านขวัญใจวัยรุ่นที่มีอยู่แทบจะทุกหน้าโรงเรียน แต่หลังจากการเข้ามาของสมาร์ทโฟน และการพัฒนาของอินเตอร์เนต ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม การหาข้อมูล การแชตการสนทนา ทุกอย่างทำผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าร้านเกมและอินเตอร์เนตคาเฟ่าจะถูกลบหายไปหรือไว้แค่ตำนานแน่นอน 

3. ร้านถ่ายรูป

สมัยที่กล้องฟิล์มยังเฟื่องฟู บรรดาร้านถ่ายรูปก็เติบโตและมีลูกค้าใช้บริการจำนวนมาก มาถึงสมัยนี้การพัฒนาฟังก์ชั่นถ่ายรูปในสมาร์ทโฟนถือว่าตอบโจทย์อย่างมาก รวมถึงการมีแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ร้านถ่ายรูปตอนนี้ส่วนใหญ่จะเปิดบริการแค่ถ่ายรูปติดบัตร รับล้างรูป อัดกรอบรูป แต่ความนิยมก็ลดลงมาก เพราะบางคนลงทุนซื้อเครื่องปริ้นท์ที่มีประสิทธิภาพก็ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาร้านถ่ายรูปมากเท่าไหร่นัก
 
4. ธุรกิจสิ่งพิมพ์ / โรงพิมพ์

หนังสือพิมพ์ , การ์ตูน ,นิยายอีกหน่อยคงจะกลายเป็นแค่ตำนานเช่นกัน ทุกวันนี้สำนักพิมพ์หลายแห่งยังต้องปรับตัวหันมาทำออนไลน์ เพราะคนส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากกว่า เมื่อก่อนโรงพิมพ์จะเฟื่องฟูและมีลูกค้ามาก แต่เดี๋ยวนี้โรงพิมพ์ส่วนใหญ่จะรับงานพวกแผ่นผับ โปรชัวร์ ต่างๆ เป็นหลัก เพราะการพิมพ์หนังสือ หรือวารสารต่างๆ ถูกแทนที่ด้วยคำว่าออนไลน์ทำให้ธุรกิจนี้จะหายไปในอนาคตด้วย

5. ร้านขายของเล่นเด็ก

เด็กในยุคนี้โตมากับสมาร์ทโฟน ดังนั้นของเล่นส่วนใหญ่ก็คือเกมในโทรศัพท์ ต่างจากเด็กสมัยก่อนที่นิยมซื้อของเล่นตามร้าน หรือการพัฒนาของสินค้าออนไลน์ที่ทำให้ของเล่นเด็กทั้งหลายไม่จำเป็นต้องขายผ่านหน้าร้าน แต่พ่อแม่ผู้ปกครองนิยมสั่งผ่านออนไลน์ ซึ่งมีสินค้ามากมายให้เลือกหลายแบบ หลายราคา แถมยังจัดส่งให้ถึงบ้าน ดังนั้น ร้านขายของเล่นจึงถือว่ามีความเสี่ยงเยอะมากในยุคนี้ 

6. ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ / ต่างประเทศ

ก่อนการแพร่ระบาดโควิดธุรกิจนำเที่ยวมีอัตราการเติบโตชัดเจน แต่ผลกระทบจากโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทำให้บริษัทนำเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งการจองตั๋วที่พัก จองโรงแรม ต่างได้รับผบกระทบชัดเจน และแม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดอาจจะดีขึ้นในอีกไม่ช้า แต่พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปสิ้นเชิง คนส่วนใหญ่กังวลเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น การท่องเที่ยวก็จะมีความเข้มงวดมากขึ้นในการเดินทางแต่ละประเทศ ดังนั้นธุรกิจนำเที่ยวจึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการเป็นสำคัญว่าจะลดความเสี่ยงได้มากแค่ไหน จะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้ใจในการทำธุรกิจได้อย่างไร 

7. การตลาดทางโทรศัพท์ (Telemarketing)

มีข้อมูลระบุไว้ในบทความของ The Guardian เผยแพร่ไว้ว่ามีโอกาสประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ ที่อีกประมาณ 15 ปีข้างหน้า การตลาดทางโทรศัพท์จะไม่มีตัวตนอีกต่อไปและจะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่พยายามค้นหาคำตอบและซื้อของด้วยตัวเองแล้ว สถิติที่น่าสนใจคือ โอกาสปิดการขายในการขายสินค้าทางโทรศัพท์มีน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ 

8. ร้านขายหนังสือ 

ประมาณ 10 กว่าปีก่อนร้านขายหนังสือเป็นจุดศูนย์รวมของคนรักการอ่านอย่างแท้จริง เราจะเห็นคนที่ติดตามการ์ตูนเฝ้าตามร้านขายหนังสือเพื่อรอการ์ตูนเล่มไหนออกวางแผง เราจะเห็นทุกเช้าต้องมีคนมาซื้อหนังสือพิมพ์จากร้านขายหนังสือเหล่านี้ แต่ทุกวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปสิ้นเชิง ร้านหนังสือหลายแห่งเลิกกิจการ แม้แต่สำนักพิมพ์ทั้งหลายเองก็หันมาขายหนังสือในระบบออนไลน์แทนด้วย

9. โรงภาพยนตร์

ธุรกิจด้านความบันเทิงอย่างโรงภาพยนตร์ก็คาดว่าจะมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะทุกวันนี้คนส่วนใหญ่สามารถติดตามภาพยนตร์หรือหนังได้จากช่องทางออนไลน์ต่างๆ เสน่ห์ของการเข้าชมในโรงภาพยนตร์แม้จะได้ในเรื่องอรรถรสและความสมจริง แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปก็ทำให้โรงภาพยนตร์เองหากจะยืนหยัดในธุรกิจนี้ได้ก็ต้องมีการพัฒนาตัวเองให้ก้าวตามความต้องการของลูกค้าด้วย 

10. ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์

นับแต่มีการแพร่ระบาดโควิดและกระแสของ AI ล้วนแต่เป็นปัจจัยให้ธุรกิจคอลเซ็นเตอร์ได้รับผลกระทบหนักมาก ยกตัวอย่างสมาคมบริษัท outsource ในฟิลิปปินส์ (BIEN) ระบุว่าการแพร่ระบาดโควิดทำให้มีการพักงานของคอลเซ็นเตอร์จำนวนมากและยังวิเคราะห์ว่า วิกฤตครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจ outsource กลุ่มงาน call center รวมถึงกลุ่มงานที่เกี่ยวกับข้อมูลต่างๆ เช่น การวิจัย เก็บข้อมูลทางการตลาด ทั้ง Outsource แบบในประเทศและต่างประเทศหายไปจำนวนมากด้วย 

11. ธุรกิจบ้านเช่า

คำว่าบ้านเช่าคือบ้านเป็นหลังๆ ที่สมัยก่อนได้รับความนิยมส่วนใหญ่มาอยู่ร่วมกัน 2-3 คน แชร์ค่าเช่ากัน แต่สมัยนี้ถูกแทนที่ด้วย “ห้องเช่า” ราคาถูก หรือบางคนก็เลือกซื้อห้องชุด หรืออพาร์ทเม้นแทนการเช่าบ้าน เพราะสะดวกสบายและประหยัดมากกว่า 

12. ธุรกิจห้องอัดเสียง/ห้องซ้อมดนตรี

การเติบโตของเทคโนโลยีทำให้คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องอัดเสียง ไม่จำเป็นต้องมีห้องซ้อม ในสื่อโซเชี่ยลเราจะเห็นคนส่วนใหญ่ปล่อยเพลง หรือปล่อย MV ที่ทำขึ้นมาเอง ผ่านโปรแกรมต่างๆ ที่มีให้เลือกใช้จำนวนมาก แตกต่างจากสมัยก่อนที่การจะทำเพลงเป็นเรื่องที่ยากมาก 

13. ธุรกิจร้านคาราโอเกะ

ทุกวันนี้ยังมีร้านคาราโอเกะอยู่แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโควิดก็ส่งผลให้ธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ร้านคาราโอเกะต้องมีการพัฒนาตัวเอง ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้น่าสนใจมากขึ้น และยิ่งการเติบโตของเทคโนโลยีด้วยโปรแกรมร้องเพลงคาราโอเกะที่มีให้เลือกใช้ได้เอง ก็ทำให้ร้านคาราโอเกะมีความเสี่ยงในยุคนี้มาก

14. ธุรกิจสิ่งทอ

จำนวนพนักงานที่ลดน้อยลงในอุตสาหกรรมสิ่งทอไม่ได้เกิดจากการขาดความต้องการผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเพราะวิธีการผลิต ด้วยเครื่องจักรสามารถทำงานด้านการผลิตได้จำนวนมาก ทำให้คนงานสิ่งทอมีโอกาสทำงานน้อยลง ในทางกลับกันก็หมายความว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงน้อยลงเช่นกัน ดังนั้นธุรกิจสิ่งทอจึงมีความเสี่ยงเช่นกัน 

15. ร้านค้าปลีกอัญมณี (Retail Jeweller)

จากรายงานของ Jewelers Board of Trade อุตสาหกรรมอัญมณีหดตัวลง 4% โดยร้านค้าอัญมณีหลายร้อยแห่งเลิกกิจการในสหรัฐฯ เพราะดูเหมือนว่าคนรุ่นใหม่จะไม่ค่อยมีแนวโน้มที่จะลงทุนในเครื่องประดับราคาแพง เนื่องจากรายได้ที่น้อยลง สิ่งนี้อาจส่งสัญญาณอันตรายถึงธุรกิจอัญมณีเพราะผู้บริโภคเปลี่ยนไปโฟกัสที่สิ่งอื่นแทน ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิดที่ต่อจากนี้พฤติกรรมผู้บริโภคจะแตกต่างจากเดิมสิ้นเชิง ธุรกิจในยุคจึงมีความเสี่ยงมาก หากไม่รู้จักปรับตัวให้ก้าวตามกระแสของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

อ้างอิง: Thai SME Center

ติดต่อโฆษณา!