“ร้านสะดวกซัก” ธุรกิจพุ่งแรงของสังคมคนเมือง

Highlight

• ประเทศไทยเทียบกับประเทศในย่านอาเซียน เช่น มาเลเซียที่มีประชากรราว ๆ 32-33 ล้านคน มีร้านสะดวกซักมากกว่า 2 พันแห่ง สำหรับประเทศไทยมีประชากรประมาณ 66-67 ล้านคน ในปี 2562 มีเพียง 400-500 แห่ง
  
  
• จากการคาดการณ์เชื่อว่าสิ้นปี 2564 “ร้านสะดวกซัก" มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า จากปี 2563 ซึ่งมีอยู่ราว 1,000 สาขา
  
  
• ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าวิเคราะห์ว่าธุรกิจให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ นับเป็นธุรกิจที่มีอัตราขยายตัวโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธุรกิจบริการ

ธุรกิจ “ร้านสะดวกซัก” นับเป็นหนึ่งธุรกิจที่มาแรงในช่วงนี้ อัตราการเติบโตนับเป็นเท่าตัว และยังมีโอกาสที่รุ่งโรจน์ไปได้อีกหลายปี ท่ามกลางการเติบโตของสังคมคนเมือง
 
ธุรกิจ “ร้านสะดวกซัก” ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากสำหรับสังคมคนเมืองของประเทศไทย แม้ว่าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาอาจจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ มีแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดให้นักลงทุนเลือกได้อย่างมากมาย แต่สำหรับประเทศไทยแล้วถือว่ายังมีช่องว่างของการเติบโตอีกมาก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในย่านอาเซียนด้วยกัน ตัวอย่างเช่น ในมาเลเซียที่มีประชากรราว ๆ 32-33 ล้านคน แต่มีร้านสะดวกซักมากกว่า 2 พันแห่ง สำหรับประเทศไทยมีประชากรประมาณ 66-67 ล้านคน แต่มีเพียงประมาณ 400-500 แห่งในปี 2562
 
สำหรับปี 2564 คาดว่า ตลาด “ร้านสะดวกซัก" มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่า หรือมีสาขารวมทุกแบรนด์ประมาณ 2,000 สาขา จากปี 2563 มีจำนวน 1,000 สาขา
 
“ทันข่าว Today” คอลัมน์ “SME Talk” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณนิมิต ตั้งวรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออเบิ้นเวย์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก “Trendy Wash” เล่าถึงโอกาสการทำธุรกิจ ตลอดจนเงื่อนไขการร่วมลงทุนเป็นแฟรนไชส์ซี “Trendy Wash”


 
แนวคิดในการทำธุรกิจร้านสะดวกซักของท่านเป็นอย่างไร

จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จำเป็นต้องซักผ้าเป็นประจำ แต่การอยู่ในชุมชนที่หนาแน่น อยู่ในพื้นที่จำกัด เช่น อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ไม่สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ ตลอดจนชีวิตประจำวันที่เร่งรีบมากขึ้น ทางบริษัทจึงเห็นโอกาสประกอบกับบริษัทมีความเชี่ยวชาญกับธุรกิจร้านสะดวกซักมาก่อนหน้านี้หลายปี เพราะเป็นผู้มีสิทธิติดตั้งร้านสะดวกซักของคอนโดมิเนียมในเครือแสนสิริ จึงได้พัฒนาการให้บริการแบบ Digital Trendy เป็นการติดตั้งเทคโนโลยี Innovation Hardware ซึ่งเป็นระบบฮาร์ดแวร์ปฏิบัติการอยู่บน IoT ที่จดสิทธิบัตรแล้ว ระบบปฏิบัติการดังกล่าวจะควบคุมการทำงานของเครื่องซัก เครื่องอบ ในร้านสะดวกซักภายใต้แบรนด์ “Trendy Wash” ลูกบ้านที่ใช้บริการสามารถรู้ได้ว่าเครื่องไหนว่าง และรับแจ้งเตือนเมื่อเครื่องทำงานเสร็จ จะได้ลงมาใช้บริการโดยไม่ต้องมานั่งรอ ง่ายต่อการควบคุมของเจ้าของหรือนักลงทุน ตลอดจนช่วยยกระดับการให้บริการให้ทันสมัยและเท่าทันกับเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
 
โมเดลการทำธุรกิจของท่านเป็นอย่างไร

ลักษณะการทำธรุกิจของ “Trendy Wash” เป็นการลงทุนแบบซื้อแฟรนไชส์ในขนาดต่าง ๆ ตามขีดความสามารถของนักลงทุน ประเภทของการทำรายได้เป็น Passive income ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องเข้ามาบริหารจัดการกิจการ ธุรกิจสามารถเดินได้ด้วยตัวเองผ่านระบบการปฏิบัติต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป ผ่านเว็บไซต์หรือ Application ที่สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวแบบ Real time ผ่านทางมือถือ ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีจัดการแทนคน สามารถสร้างกำไรในระยะยาว นอกจากนี้เจ้าของร้านสามารถออกแบบกิจกรรมการตลาด รูปแบบการโปรโมชั่นให้กับแต่ละร้านสะดวกซักได้ด้วยตนเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในบริเวณนั้น และทันต่อการแข่งขันในแต่ละพื้นที่ ส่วนทางเจ้าของแบรนด์หรือแฟรนไชส์ซอร์จะให้บริการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การตรวจเช็กแก้ไขสภาพการทำงานของเครื่องหากเกิดปัญหา การพัฒนาด้านการจัดการ Application ให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา


 
ผู้สนใจร่วมลงทุนกับ “Trendy Wash” ควรมีคุณสมบัติอย่างไร

นักลงทุนที่ต้องการทำธุรกิจแฟรนไชน์กับ “Trendy Wash” จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้

1. มีเงินทุนตามขนาดของธุรกิจที่ทาง “Trendy Wash”กำหนด
2. มีพนักงานมาให้บริการทำความสะอาดในบริเวณพื้นที่การให้บริการอย่างสม่ำเสมอ เพราะหน้าร้านที่สะอาดจะเป็นจุดดึงดูดการเข้าใช้บริการของลูกค้า
3. สามารถทำคู่กับงานประจำได้ เพราะลักษณะของการทำรายได้เป็น Passive income อย่างไรก็ตามเจ้าของกิจการควรมีใจรักบริการ เพราะหากเกิดปัญหาก็พร้อมที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
 
แพ็คเกจร้านสะดวกซักของ ท่านมีกี่ประเภท และต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่

ธุรกิจร้านสะดวกซัก “Trendy Wash” มีโมเดลการลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และขีดความสามารถด้านเงินทุนของแฟรนไชส์ซอร์

• ระบบ Mini เป็นการให้บริการในพื้นที่ที่จำกัด โดยทางร้านอาจมีกิจการอื่นอยู่แล้ว การให้บริการ “Trendy Wash” เป็นการให้บริการเสริมเข้ามาอีกอย่างหนึ่ง เงินลงทุนเริ่มต้นที่ราคา 24,500บาท ประกอบด้วยเครื่องซัก 1 เครื่อง ค่าบริการต่อครั้ง 30 บาท
• ระบบ Standard ให้บริการในพื้นที่คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ หอพัก ที่มีจำนวนห้องพักไม่น้อยกว่า 400 ยูนิต เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 550,000บาท ประกอบด้วยเครื่องอบ 4 เครื่อง เครื่องซักผ้า 4 เครื่อง สามารถเลือกได้ทั้งเครื่องซักขนาดปกติหรือขนาดอุตสาหกรรมขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสถานที่ติดตั้งและความสามารถของเงินลงทุน ค่าบริการต่อครั้ง 40 บาท
• ระบบการให้บริการในชุมชนขนาดใหญ่ เงินลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาทขึ้นไป ประกอบด้วยเครื่องอบ 4 เครื่อง เครื่องซักผ้า 4 เครื่อง เป็นอย่างน้อย เครื่องที่นำมาติดตั้งเป็นเครื่องระบบอุตสาหกรรม และมีขนาดความจุของผ้ามากกว่าการลงทุนที่ติดตั้งในคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ ราคาบริการต่อครั้งเริ่มต้นที่ 50 บาท

เงินลงทุนที่แจ้งมานี้รวมค่าเครื่องพร้อมติดตั้งระบบปฏิบัติการ Application ของ “Trendy Wash” ส่วนงานตกแต่งพื้นที่ขึ้นอยู่กับประเภทของแพ็คเกจ (ราคานี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ส่วนจุดคุ้มทุนจะอยู่ระหว่าง 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับทำเล และค่าเช่าที่
 
“Trendy Wash” ทำสัญญากับแฟรนไชส์ซอร์ทุก 3 ปื ต่อสัญญาใหม่จ่ายเงินค่าธรรมเนียมเครื่องละ 5,000 บาท การบริการซ่อมหรือดูแลเครื่องจ่าย 500 บาท ส่วนค่าอะไหล่จ่ายตามจริงที่เสียหาย



สิ่งที่ท่านจะให้ความช่วยเหลือคู่ค้าหรือแฟรนไชส์ซีของท่าน

“Trendy Wash” มีบริการ 4 Trendy service คอยอำนวยความสะดวกแก่เจ้าของร้านดังต่อไปนี้

1. Trendy Application ที่สามารถรู้รายรับแบบ real time เช็กสถานะเครื่องซักผ้า อบผ้าว่าทำงานปกติหรือไม่ รวมถึงเช็กพฤติกรรมลูกค้าที่เข้ามาใช้งาน เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนการตลาด การโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่

2. Trendy Promotion เจ้าของร้านสามารถออกแบบโปรโมชั่นได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลดราคาตามช่วงเวลา สะสมจำนวนครั้งการใช้งาน สะสมคะแนนแลกของรางวัล และอื่นๆอีกมากมาย

3. Trendy Support ทางเจ้าของแบรนด์มีบริการทีมช่วยเหลือ call center เป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาอย่างเชี่ยวชาญ ตลอด24ชั่วโมง

4. Trendy Maintenance เรามีทีมช่างมากประสบการณ์ ที่พร้อมแก้ปัญหาหน้างาน ภายใน 24-48 ชม. และยังเข้าตรวจเช็กสภาพเครื่องทุก 4 เดือน
นอกจากนั้นยังมีระบบ Smart shop กล้องวงจรปิด และระบบเปิดปิดไฟในร้านจากระยะไกลไว้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุนอีกด้วย

แพ็คเกจร้านสะดวกซักมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือไม่ และมีค่าส่วนแบ่งรายได้ระหว่าการทำการธุรกิจหรือไม่

จากที่กล่าวมา “Trendy Wash” ไม่มีค่าแฟรนไชส์เหมือนแบรนด์อื่น มีแต่ค่าติดตั้งระบบในระยะตั้งต้นของกิจการ แต่ทางแบรนด์จะมีการเรียกค่าดูแลระบบ Application 5% จากยอดขายรายเดือน


 
ท่านมีคู่แข่งหรือไม่ และแนวทางการทำตลาดของท่านที่แตกต่างจากคู่แข่ง

คู่แข่งในตลาดมีผู้เล่นมากกว่า 30 แบรนด์ จุดเด่นของเราคือเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ลดเวลาการจัดการของนักลงทุนลงมาจนสามารถตรวจสอบจากภายนอกได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาบริหารจัดการร้านทุกวัน ในมุมทางด้านการตลาดและความช่วยเหลือจากส่วนกลางคือ การพัฒนา Application ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหน้าร้านมีความสะดวก สบาย ตั้งแต่สามารถเช็กได้ว่าเครื่องว่างหรือยัง ค่อยมาใช้บริการ ไม่จำเป็นต้องมานั่งรอคิว รวมถึงรับแจ้งเตือนเมื่อเครื่องทำงานเสร็จ ไม่ต้องเสียเวลารอผ้าหน้าเครื่องอีกต่อไป ส่วนด้านการบริการการจ่ายเงิน หรือ Payment System ลูกค้าก็สามารถเลือกจ่ายได้หลายช่องทาง เช่น จ่ายด้วยระบบเหรียญ QR Code ระบบบัญชีธนาคาร และผ่านแอปของ “Trendy Wash”
 
ปัจจุบันนี้ท่านมีกี่สาขา และมีเป้าหมายที่จะขยายกี่สาขา

จากประสบการณ์กว่า 15 ปีในการทำธุรกิจด้านนี้ ขณะนี้“Trendy Wash”มีสาขาที่ดูแลมากกว่า 150 สาขา และ เพิ่มขึ้นเป็น 200 สาขาภายในสิ้นปีนี้
 
ท่านมีแนวทางอย่างไรที่จะสนับสนุนคู่ค้าของท่านอย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้นักลงทุนจะได้คืนทุนให้เร็วที่สุด “Trendy Wash” จึงวางนโยบายดูแลช่วยเหลือผู้ลงทุนทุกคนให้สร้างกำไรระยะยาวให้มากที่สุด ทางแบรนด์ให้การสนับสนุนทั้งทางด้านการตลาดการโปรโมทร้าน บริการช่วยเหลือที่รวดเร็วทันใจ และการให้คำปรึกษาด้านการดูแลร้านอยู่ตลอด เพราะหน้าที่ของเราคือทำให้ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จอย่างครบวงจร ไม่ใช่แค่ขายเครื่องซักผ้าเพียงอย่างเดียว
 
นอกเหนือจาก แพ็คเกจร้านสะดวกซัก ท่านมีบริการอื่นหรือไม่ อะไรบ้าง

เราพัฒนาแพลตฟอร์ม “Trendy Wash” อยู่ตลอดเวลา จากที่เริ่มต้นลูกค้าสามารถจ่ายเงินได้ผ่านเหรียญเท่านั้น ต่อมาเราพัฒนาให้สามารถจ่ายเงินผ่าน Application ของ “Trendy Wash” ได้ และล่าสุดเราพัฒนาให้สามารถจ่ายเงินด้วย QR Code หรือจ่ายผ่านธนาคารที่หน้าเครื่องได้ จะเห็นได้ว่าเราไม่เคยหยุดพัฒนาเพื่อให้ตอบสนองความสะดวกสบายของทั้งผู้ลงทุนและลูกค้าหน้าร้านให้มากที่สุด และสิ้นปีนี้ยังจะมีบริการเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติมตามมาอีก
 
นับว่าธุรกิจร้านสะดวกซัก เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจท่ามกลางการเติบโตของสังคมเมือง ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า เมื่อต้นปี 2563 มีบริษัทผู้ให้บริการธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญประมาณ 252 ราย ยอดทุนจดทะเบียนราว 1,214 ล้านบาท นับเป็นธุรกิจที่มีอัตราขยายตัวโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธุรกิจบริการ โดยช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 มียอดจัดตั้งบริษัท 10 ราย เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9 เท่า มูลค่าทุนจดทะเบียน 21 ล้านบาท ขยายตัว 6 เท่าตัว โอกาสของธุรกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในทำเลที่มีคอนโดมิเนียมและชุมชนเมืองที่มีประชากรอยู่กันหนาแน่น