22 สิงหาคม 2564
1,402

Global Industry Vision (GIV) : อัปเดต 10 เทรนด์ฮอต พร้อมคาดการณ์อนาคตของอุตสาหกรรมทั่วโลกถึงปี 2568 เราอาจต้องทำงานเคียงข้างไปกับหุ่นยนต์ ใน 4 ปีข้างหน้านี้ !!

Global Industry Vision (GIV) : อัปเดต 10 เทรนด์ฮอต พร้อมคาดการณ์อนาคตของอุตสาหกรรมทั่วโลกถึงปี 2568 เราอาจต้องทำงานเคียงข้างไปกับหุ่นยนต์ ใน 4 ปีข้างหน้านี้ !!
Highlight :

รายงานวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมทั่วโลกในอนาคตโดย  Global Industry Vision – GIV เป็นเทรนด์ที่ทุกภาคส่วนและทุกอุตสาหกรรมจับตามอง โดยล่าสุดนี้ GIV มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2568 (ค.ศ. 2025) หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม จะทำงานเคียงข้างมนุษย์ในภาคการผลิต โดยจะมีหุ่นยนต์ 103 ตัว ทุกๆ พนักงาน 10,000 คน 


ในอนาคตอันใกล้นี้ เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งในภาคการผลิตอุตสาหกรรมและในชีวิตประจำวัน ในเมื่อทิศทางในอนาคตถูกคาดการณ์ไว้แบบนี้ เราควรจะต้องเตรียมตัวและเติมทักษะเพื่อตอบโจทย์การทำงานในอนาคตตั้งแต่ตอนนี้ เพราะใน GIV ชี้ให้เห็น 10 เมกะเทรนด์ที่ส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานของเราในปัจจุบัน รวมถึงคาดการณ์เทรนด์กับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมที่จะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568

ทั้งนี้เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีอิทธิพลและกำหนดทิศทางอุตหกรรมในอนาคต เช่น อัตราการครอบคลุมของเครือข่าย 5G, การใช้งาน AI (ปัญญาประดิษฐ์), การใช้งานหุ่นยนต์ในบ้าน การใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ (Smart Assistant) ส่วนหุ่นยนต์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมนั้น เป็นหนึ่งในการคาดการณ์ซึ่งสะท้อนความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและมูลค่าที่จะเกิดขึ้นมหาศาลในอนาคต  เมกะเทรนด์สุดฮอตจะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย…

1.ใช้ชีวิตกับหุ่นยนต์ (Living with Bots)

ความก้าวหน้าทางด้านวัสดุศาสตร์ การเรียนรู้ของเอไอและเทคโนโลยีเครือข่าย จะส่งเสริมให้มีการใช้งานหุ่นยนต์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการเป็นผู้ช่วยในบ้านและผู้ช่วยส่วนตัว โดยรายงาน GIV คาดการณ์ว่า ทั่วโลกจะมีอัตราการใช้งานหุ่นยนต์ตามบ้านร้อยละ 14

2. ซูเปอร์ไซต์(Super Sight)

การผนวกรวม 5G, VR/AR, Machine Learning และเทคโนโลใหม่อื่นๆ จะช่วยให้เรามองข้ามระยะทาง การผิดสัดส่วน พื้นผิว และก้าวไปไกลกว่าที่เคย เปิดมุมมองการมองเห็นของผู้คน ธุรกิจ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า จำนวนบริษัทที่ใช้ AR/VR จะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 และจะมีผู้ใช้งาน VR/AR มากถึง 337 ล้านคนทั่วโลก

3. ซีโรเสิร์ช(Zero Search)

เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ดีไวซ์ที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้าและมีเซนเซอร์ เริ่มมีความสามารถในการคาดการณ์สิ่งที่เราต้องการ คำตอบจะปรากฏให้เห็นโดยไม่ต้องถามเลยด้วยซ้ำ การค้นหาในอนาคตก็จะไม่มีปุ่มกด เครือข่ายสังคมส่วนบุคคลจะสามารถสร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย และอุตสาหกรรมก็จะได้ประโยชน์จาก การบำรุงรักษาโดยไม่ต้องค้นหา หรือที่เรียกว่า Zero-SearchMaintenance โดยรายงาน GIV คาดว่า เจ้าของสมาร์ทดีไวซ์ร้อยละ  90 จะใช้ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ

4. ถนนที่มีรูปแบบเฉพาะ(Tailored Streets)

ระบบการเดินทางอัจฉริยะต่างๆ จะเชื่อมโยงผู้คน ยานพาหนะ และสาธารณูปโภค ทำให้การจราจรไม่แออัด สนองตอบต่อเหตุฉุกเฉินได้รวดเร็ว พร้อมฟังก์ชันอื่นๆ ที่จะทำให้ชีวิตราบรื่นยิ่งขึ้น โดย GIVคาดการณ์ว่า ยานพาหนะร้อยละ 15 จะมีเทคโนโลยี CellularVehicle-to-Everything

5. ทำงานกับหุ่นยนต์(Working with Bots)

หลังจากที่ได้พลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรมจำนวนมากไปแล้ว ระบบ Smart Automation จะเข้ามาช่วยงานที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง การทำงานซ้ำๆ และงานที่อันตรายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการผลิต โดยในรายงาน GIV คาดการณ์ว่าในอุตสาหกรรมจะมีหุ่นยนต์ 103 ตัว ต่อพนักงานทุก ๆ 10,000 คน

6. ความคิดสร้างสรรค์แต่งเสริม(Augmented Creativity)

เอไอคลาวด์จะช่วยลดต้นทุนและอุปสรรคในการเข้าถึงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และศิลปะ เปิดขุมทองแห่งโอกาสการสร้างสรรค์ สำหรับทุกคน ซึ่งในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า ร้อยละ 97 ของบริษัทขนาดใหญ่จะมีการใช้งานเอไอ

7. การสื่อสารแบบต่อเนื่อง(Frictionless Communication)

เอไอและระบบการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าจะสร้างการสื่อสารที่ไร้รอยต่อระหว่างบริษัทและลูกค้ารวมถึงทลายกำแพงทางภาษาความเที่ยงตรง ความเข้าใจ และความเชื่อใจ ซึ่งจะกลายเป็นรากฐานของการสื่อสารในอนาคต โดย GIV คาดการณ์ว่า ร้อยละ 86 ขององค์กรจะใช้ประโยชน์จากดาต้าของตัวเองอย่างเต็มที่

8. เศรษฐกิจการอยู่ร่วมกัน(Symbiotic Economy)

บริษัททั่วโลกกำลังนำเทคโนโลยีดิจิทัลและแอปพลิเคชันอัจฉริยะบนแพลตฟอร์มการเข้าถึงแบบเดียวกันมาปรับใช้ การใช้ระบบเดียวกันนี้จะทำให้เกิดความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น เกิดการแบ่งปันทรัพยากร มีอีโคซิสเต็มระดับโลกที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนผลิตผลที่สูงขึ้น โดยในรายงาน GIV คาดการณ์ว่า ทุกบริษัททั่วโลกจะใช้เทคโนโลยีคลาวด์ และแอปพลิเคชันทางธุรกิจร้อยละ 85 จะอยู่บนคลาวด์

9. การติดตั้งใช้งาน5G อย่างรวดเร็ว

5G มาแล้ว และเริ่มมีการติดตั้งใช้งานรวดเร็วกว่าเทคโนโลยีไร้สายยุคก่อนๆ มาก นำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่ทั้งสำหรับบุคคล ธุรกิจ และสังคม รายงาน GIV ได้คาดการณ์ว่า ร้อยละ 58 ของประชากรทั่วโลกจะสามารถเข้าถึง 5G ได้

10. การกำกับดูแลด้านดิจิทัลทั่วโลก

ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต้องมีการถ่วงดุลด้วยมาตรฐานการจัดการข้อมูลที่ใช้ร่วมกันและหลักการใช้งานดาต้า ซึ่ง GIV คาดการณ์ว่าปริมาณดาต้าทั่วโลกในหนึ่งปีจะสูงถึง 180 ZB (1 ZB เท่ากับ 1 ล้านล้านกิกะไบต์)

ที่มา : https://www.salika.co/2019/08/18/giv-global-industry-vision-2019-2025/ 

www.huawei.com 

20210822-a-01.png

 #รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว 

ติดต่อโฆษณา!