12 มิถุนายน 2564
2,601

10 เรื่อง รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ EURO 2020

10 เรื่อง รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ EURO 2020
HighLight

ศึกฟุตบอล EURO 2020 เปิดฉากขึ้นแล้ว หลังจาก “เลื่อน” เป็นระยะเวลาถึง 1 ปีเต็ม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และใช้สนามเจ้าภาพจัดการแข่งขันมากถึง 11 เมือง เป็น “ครั้งแรก” ในประวัติศาสตร์การแข่งขัน

         ศึกฟุตบอล EURO 2020 (ยูโร 2020) มหกรรมลูกหนังแห่งทวีปยุโรป ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ระดับโลก โคจรมาฟาดแข้ง ให้แฟนบอลได้ชมกัน 1 เดือนเต็ม ! หลังจากต้อง “เลื่อน” ยาวนานถึง 1 ปี !

        ไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมไหน ? หรือทีมรักของคุณจะติดอยู่ใน 24 ทีมนี้ หรือไม่ ? แต่ความพิเศษของการแข่งขันรายการนี้ มี 10 เรื่องราว ที่ “ทันข่าว Today” จะพาคุณไปติดตามให้รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์

 

10 เรื่อง รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ EURO 2020

       1. ชื่อ UEFA EURO 2020 แต่เลื่อนมาจัดปี 2021 เพราะโควิด-19 ระบาด

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ที่ปัจจุบันเรียกว่า UEFA EURO จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1960 และจัดทุก ๆ 4 ปี สำหรับ 2020 European Football Championships หรือ UEFA EURO 2020 คือชื่อรายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 16 เดิมกำหนดจัดระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน – 12 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 (ตามเวลาทวีปยุโรป) แต่ต้องเลื่อนออกมาถึง 1 ปีเต็ม ซึ่งปีนี้ จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน – 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2021 (ตามเวลาทวีปยุโรป) เนื่องจากปีที่แล้ว ต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และถึงแม้การแข่งขันจะเปิดฉากขึ้นมาได้สำเร็จ มีแฟนบอลเชียร์ในสนามได้ ก็ยังไม่สามารถเข้าไปชมได้เต็มความจุอัฒจันทร์

       2.สนามเมืองเจ้าภาพมากถึง 11 เมือง ทั่วยุโรปเป็น “ครั้งแรก”

การใช้สนามเจ้าภาพมากถึง 11 เมือง ทั่วทั้งทวีปยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การแข่งขันนั้น เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี ตามแนวคิดของ “มิเชล พลาตินี” อดีตประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA)

สำหรับ 11 สนามเมืองเจ้าภาพ EURO 2020 ประกอบด้วย

  1. Olimpico in Rome กรุงโรม ประเทศอิตาลี
  2. Baku Olympic Stadium กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน
  3. Saint Petersburg Stadium นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
  4. Parken Stadium กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
  5. Johan Cruijff ArenA กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
  6. National Arena Bucharest กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย
  7. Wembley Stadium กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
  8. Hampden Park เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์
  9. La Cartuja Stadium Seville เมืองเซบีญา ประเทศสเปน
  10. Football Arena Munich นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี
  11. Puskás Aréna กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

        3. ชาติยุโรป 24 ทีม ที่เข้ารอบสุดท้าย มี 2 ทีมน้องใหม่ คือ ฟินแลนด์ – มาซิโดเนียเหนือ

     24 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่

           กลุ่ม A : ตุรกี , อิตาลี , เวลส์ และสวิตเซอร์แลนด์

           กลุ่ม B : เดนมาร์ก , ฟินแลนด์ , เบลเยียม และรัสเซีย

           กลุ่ม C : เนเธอร์แลนด์ , ยูเครน , ออสเตรีย และมาซิโดเนียเหนือ

           กลุ่ม D : อังกฤษ , โครเอเชีย , สกอตแลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก

           กลุ่ม E : สเปน , สวีเดน , โปแลนด์ และสโลวะเกีย

           กลุ่ม F: ฮังการี , โปรตุเกส , ฝรั่งเศส และเยอรมนี


        4. ลุ้น “เยอรมนี” หรือ “สเปน” ทำสถิติแชมป์สูงสุดสมัยที่ 4

         ทีมชาติเยอรมนี เป็นทีมที่ผ่านเข้ารอบมากที่สุดถึง 10 ครั้ง และเคยเป็นแชมป์มากที่สุดถึง 3 ครั้ง เท่ากับทีมชาติสเปน


        5. “โปรตุเกส” แชมป์ล่าสุด ศึก UEFA EURO 2016

          ต้องมาลุ้นกันว่า “คริสเตียโน โรนัลโด” จะพาทีมชาติโปรตุเกส ป้องกันแชมป์อีกสมัยได้หรือไม่ ?

 

        6. ลุ้น “คริสเตียโน โรนัลโด” ดาวยิงโปรตุเกส ทำสถิติใหม่

         คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงโปรตุเกส มีลุ้นทำลายสถิติดาวซัลโวศึกยูโร ที่เคยทำไว้ 9 ประตู เท่ากับมิเชล พลาตินี อดีตทีมชาติฝรั่งเศส และโรนัลโด ทำประตูในนามทีมชาติไปแล้ว 104 ประตู ลุ้นโค่นสถิติทำประตูในนามทีมชาติมากที่สุดในโลก ที่อาลี ดาอี ทีมชาติอิหร่าน ทำไว้ 109 ประตู

       7. “ทีมแชมป์” ลุ้นเงินรางวัลสะสมสูงสุด 34 ล้านยูโร (ราว ๆ 1,300 ล้านบาท) ถ้าชนะ 7 นัดรวด

       24 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ ได้เงินรางวัลทีมละ 9,250,000 ยูโร    

            รอบแบ่งกลุ่ม (แข่งขัน 3 นัด)

            - ชนะ  เงินรางวัลเพิ่มอีกนัดละ 1,500,000 ยูโร

            - เสมอ เงินรางวัลเพิ่มอีกนัดละ    750,000 ยูโร

            รอบ 16 ทีม ได้เงินรางวัลอีก ทีมละ 2,000,000 ยูโร

            รอบก่อนรองชนะเลิศ (รอบ 8 ทีม) ได้เงินรางวัลอีก ทีมละ 3,250,000 ยูโร

            รอบรองชนะเลิศ (รอบ 4 ทีม)        ได้เงินรางวัลอีก ทีมละ 5,000,000 ยูโร

            รอบชิงชนะเลิศ

           - ทีมรองชนะเลิศ ได้เงินรางวัลเพิ่มอีก     7,000,000 ยูโร

           - ทีมชนะเลิศ       ได้เงินรางวัลเพิ่มอีก   10,000,000 ยูโร

       8. Uniforia เป็นชื่อลูกบอลยี่ห้อ Adidas ที่ใช้ครั้งนี้  (ที่มา : Unity + Euphoria)

        คำว่า Unity หมายถึง ความเป็นเอกภาพ , ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และคำว่า Euphoria หมายถึง ความสนุกสนานเบิกบานใจ


       9. Skillzy คือชื่อตัวนำโชค (Mascot) ประจำการแข่งขัน EURO 2020

       Skillzy ซึ่งเป็นชื่อตัวนำโชค (Mascot) ประจำการแข่งขัน EURO 2020 ไม่ใช่รูปสัตว์ แต่เป็นมนุษย์ที่มีรูปลักษณ์ของนักบอลฟรีสไตล์สุดแนว

      10. We Are The People คือเพลงประจำการแข่งขัน EURO 2020

       เพลง We Are The People เป็นเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นโดย Martin Garrix ที่ร่วมงานกับ Bono และ The Edge จากวงดนตรีชื่อดัง U2


แฟนบอลชาวไทย สามารถชมการถ่ายทอดสดการแข่งขัน รอบแบ่งกลุ่ม ได้ทางช่อง NBT2HD


ตารางการแข่งขัน (ตามวัน - เวลาทวีปยุโรป) 👉🏻 https://editorial.uefa.com/resources/0269-1235cbcf229a-a665bdf96d2c-1000/euro_match_schedule.pdf

แหล่งที่มา :

https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/

https://www.uefa.com/uefaeuro/history/rankings/

https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/news/0253-0d821e1e8162-10cd98c8ea8a-1000--euro-2020-mascot-revealed-now-it-s-your-move/?referrer=%2Fuefaeuro-2020%2Fnews%2Fnewsid%3D2596712

https://www.uefa.com/insideuefa/mediaservices/news/0242-0f8e5ddc5f35-3e31a33b54df-1000/

https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/news/025e-0fc6971c8220-0ceba795a115-1000--every-euro-match-ball/?fbclid=IwAR1OX0XwhJ-FGuilKbH4_B1J8OwaA6anTQs-_nJLLH0Kefdnm0PRcmVnj7g

#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว






ติดต่อโฆษณา!