Art Toy บุกตลาดของเล่นโลก กล่องสุ่มทัชใจนักสะสมดันตลาดพุ่ง

กระแสความนิยมในสินค้าประเภท Art Toy มาแรงอย่างมากในปี 2024 โดยเหล่าบรรดานักสะสมก็ยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อให้ได้ครอบครองสินค้ารุ่นลิมิเต็ดที่มีจำนวนจำกัดและหายาก ซึ่งพ่อค้าแม่ค้านำมาอัพราคารีเซลกันได้หลายๆ เท่า จากข้อมูลของ HTF Market Intelligence ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ แสดงให้เห็นว่า ในปี 2566 มูลค่าตลาดรวมของสินค้าประเภท Art Toy ของโลกอยู่ที่ 8,517.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 4.26% จนมีทำให้มูลค่าตลาดเติบโตไปถึง 10,938.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งตลาด Art Toy ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ ภูมิภาคเอเชีย ตามมาด้วยอเมริกาเหนือและยุโรป

ประเทศในภูมิภาคเอเชียที่เป็นศูนย์กลางของการผลิตและสะสม Art Toy ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยเฉพาะจีนที่มีตลาดและฐานการผลิต Art Toy ใหญ่ที่สุดในโลก เห็นได้จาก บริษัท ป๊อปมาร์ท (POP MART) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายArt Toy ชั้นนำของจีน ได้มีการขยายร้านค้าปลีกมากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน และกระจายสาขาไปกว่า 100 แห่งทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มากกว่า 80% ของ สินค้าประเภท Art Toy ทั่วโลกถูกผลิตขึ้นในประเทศจีน โดยหนึ่งในสามของสินค้าทั้งหมดถูกผลิตขึ้นในเมืองตงก่วน มณฑลกวางตุ้ง ในปี 2565 มีบริษัทขนาดใหญ่กว่า 87 แห่งในเมืองตงก่วน ผลิตของเล่นประเภท Art Toy และสร้างมูลค่าผลผลิตทางอุตสาหกรรมกว่า 16,660 ล้านหยวน (2,479 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขยายตัวจากปีก่อนหน้าได้ถึง 29.80% โดยในปี 2566 ตลาดโลกมีความต้องการนำเข้ารวมเป็นมูลค่า 50,044.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับประเทศไทย มีมูลค่าการนำเข้า  Art Toy 128.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 11.79% จากปีที่ผ่านมา ที่มีมูลค่า 114.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยนำเข้าของเล่น (รวม Art Toy ) สูงสุดจาก 3 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม ขณะเดียวกัน ไทยเองก็มีการส่งออกสินค้าประเภท Art Toy ด้วยเช่นกัน โดยมีมูลค่าการส่งออกที่ 251.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2566 ลดลง 9.87% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 278.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ประเทศที่ไทยส่งออกของเล่น (รวมArt Toy ) ไปสูงสุด 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ จากข้อมูลของบริษัท ป๊อปมาร์ท ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายArt Toy ที่มีชื่อเสียงของจีน มีการคาดการณ์ว่าไทยจะเป็นตลาดศักยภาพที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มสินค้าArt Toy จากกลุ่มผู้ซื้อที่มีจำนวนมากขึ้น อีกทั้งยังมีพฤติกรรมการซื้อแบบสะสมครบทุกเซต ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ซื้อเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น

ทั้งนี้ ศิลปินและนักออกแบบ Art Toy ของไทยหลายคนมีผลงานสร้างชื่อเสียงระดับโลก อาทิ น.ส.นิศา ศรีคำดี หรือ Molly ศิลปินผู้ออกแบบ "CRYBABY" นายพัชรพล แตงรื่น หรือ Alex Face ผู้สร้างสรรค์ "Mardi" และน.ส.ศิรินญา ปึงสุวรรณ หรือ Poriin ศิลปินผู้สร้าง "Fenni"