ชาวจีนแห่เที่ยวกระจายช่วงตรุษจีน เงินสะพัดกว่าก่อน COVID-19

หลังจากรัฐบาลจีนได้ยกเลิกนโยบาย Zero COVID ในช่วงต้นปี 2023 การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนไม่ได้เติบโตอย่างที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ ทางการกรุงปักกิ่งพยายามออกนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเรียกความเชื่อมั่น แต่ก็ดูจะยังไม่ช่วยอะไรมากนัก การใช้จ่ายของผู้บริโภคภายในประเทศดูเหมือนจะยังถูกกดดันจากหลายปัจจัยเสี่ยง

สำหรับปี 2024 หลังจากเปิดศักราชรับปีมังกร รัฐบาลจีนได้เข็นมาตรการกระตุ้นการลงทุนและนโยบายเรียกความเชื่อมั่นออกมาขนานใหญ่ น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฟื้นความเชื่อมั่นของชาวจีน สะท้อนจากตัวเลขภาคท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวตรุษจีนเป็นเวลา 8 วัน ที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงในวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามปกติแล้ว วันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือที่เรียกว่าเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ คือช่วงเวลาที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนจะเดินกลับภูมิลำเนาเพื่อพบปะกับสมาชิกในครอบครัวหรืออกเดินทางท่อง้ที่ยวกันในวันหยุดยาว

ล่าสุดสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการแสดงให้รายได้จากภาคท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 47.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งก็ต้องขอบคุณการเดินทางภายในประเทศที่คึกคัก เพราะตัวเลขที่ออกมาล่าสุดก็สามารถแซงหน้าระดับก่อนเกิดการระบาดของ COVID19 ไปได้แล้ว

ข้อมูลที่ออกมานั้น อาจทำให้ฝั่งรัฐบาลมีเวลาพักหายใจสักระยะหนึ่ง เพราะในมุมของผู้กำหนดนโยบายเอง สถานการณ์ทางเศรษฐในช่วงที่ผ่านก็สร้างความหนักใจให้การกำหนดนโยบายไม่น้อย เนื่องจากเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกําลังเผชิญกับความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดท่ามกลางความต้องการของผู้บริโภคที่อ่อนแอ 

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการที่กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน สรุปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) พบว่า

• การใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น 47.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว เป็น 632,700 ล้านหยวน หรือ 3.2 ล้านล้านบาท) และเมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิด COVID19 การใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 7.7% 

• จํานวนการเดินทางภายในประเทศในช่วงวันหยุดปีนี้เพิ่มขึ้น 34.3% จากปีที่แล้ว ขยับขึ้นมาเป็น 474 ล้านเที่ยว ซึ่งเกินระดับก่อนเกิด COVID19  ถึง 19% 

• การใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการเดินทางอยู่ที่ 1,335 หยวน หรือ ประมาณ 6,780 บาทเทียบกับตัวเลขการใช้จ่ายต่อการเดินทางในปี 2019 ที่อยู่ที่ 1,238 หยวน หรือ 6,276 บาทเท่านั้น

• การเดินทางระหว่างประเทศนั้น ตัวเลขการเดินทางขาเข้าและขาออกอยู่ที่ประมาณ 13.52 ล้านครั้งในช่วงวันหยุด เพิ่มขึ้น 2.8 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนกําลังต่อสู้กับความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความย่ำแย่ในภาคอสังหาริมทรัพย์และความต้องการบริโภคที่ซบเซาตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้ให้ผู้กําหนดนโยบายมีความจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่ทางการกําลังลงมือสร้างสมดุลให้กับเศรษฐกิจผ่านการดำเนินนโยบายที่เหมาะสมกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป