นิทรรศการภาพถ่าย “Hundred Years Between” ฉลองวาระครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-นอร์เวย์

Highlight
กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในฐานะผู้จัดงาน “Bangkok Design Week” จัดงานนิทรรศการภาพถ่าย “Hundred Years Between” ตามรอยเสด็จของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชนิพนธ์ ‘ไกลบ้าน’ สู่ประเทศนอร์เวย์ โดยได้รับเกียรติจากท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เป็นศิลปินรับเชิญพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-นอร์เวย์ ปี 2563

กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในฐานะผู้จัดงาน “Bangkok Design Week” The Cloud Dtac และบริษัทยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) จัดงานนิทรรศการภาพถ่าย “Hundred Years Between” โดยได้รับเกียรติจากท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เป็นศิลปินรับเชิญพิเศษ เนื่องในวาระครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-นอร์เวย์ ปี 2563 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 ณ โรงภาษีร้อยชักสาม (ศุลกสถาน)

"ตอนที่เดินทางไปนอร์เวย์ยังรู้สึกมีช่องว่างบางอย่างในมุมมอง เลยคิดว่าสิ่งที่ขาดไป คือ มุมมองของชาวนอร์เวย์ที่มารับเสด็จสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตอนเสด็จประพาส พยายามหาข้อมูลเพื่อมาเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป และยังมีช่องว่างในภาพรวม คือ สิ่งที่เชื่อมโยงทุกคนในฐานะที่เป็นมวลมนุษย์ ที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะมีความเป็นมนุษยชาติที่อยู่ในเรื่อง พยายามจะเอามุมมองความเป็นมนุษย์เข้าไปความเป็นตัวตนเข้าไปที่เชื่อมทุกอย่าง ก็คืออ่านเรื่องราวการเสด็จประพาสนอร์เวย์ของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ภาคภาษาอังกฤษ) อ่านไปก็สังเกตว่าจะมีประเด็นหลัก คือ เรื่องของธรรมชาติ เพราะท่านเองถ้าอ่านจากจดหมายจะเห็นชัดว่าท่านสนพระทัยอย่างยิ่งในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ท่านจะสังเกตว่านอร์เวย์จะมีความยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขาม และความน่ากลัวที่อยู่ในธรรมชาติ ที่น่าประทับใจ และเป็นสิ่งที่มีทั้งความน่ากลัวและความสวยงาม ถือเป็น 2 มิติ ในสิ่งเดียวกัน มาเป็นเรื่องเดียวกัน ในงานนี้จะเน้นในเรื่องของธรรมชาติเกือบทั้งหมด จะสังเกตว่าเป็นงานเกี่ยวกับธรรมชาติ ต้องการให้คนที่เข้ามาในงานรู้สึกว่าโอบล้อมด้วยธรรมชาติพยายามสร้างความรู้สึกที่ได้ตอนเดินทางไปนอร์เวย์ในเดือนสิงหาคม ก็พยายามที่จะทำคล้ายๆกัน ซึ่งทุกชั้นในงานนี้
จะเกี่ยวกับธรรมชาติ แต่จะเริ่มต้นจากไอเดียที่กว้าง เป็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ความสงบของธรรมชาติ ทำให้คนที่เดินเข้ามาในห้องตัวเล็ก แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ลึกลับ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าสงบ เพราะเป็นสิ่งที่ใหญ่ นุ่มนวล และอ่อนน้อม ทุกชั้นจะมีเป็นจดหมาย ซึ่งจะให้จดหมายเป็นแก่นของงานทั้งหมด เป็นจดหมายที่เราเขียนเองทั้งหมด จะเห็นว่าจดหมายจะคู่กับภาพถ่ายที่ได้ถ่ายเอง เป็นการเขียนเรื่องราวถึงรัชกาลที่ 5 ในฐานะที่เป็น
พระราชปนัดดาโดยสังเกตจากจดหมายของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงบันทึกไว้ ว่าท่านสงสัยแบบนี้ โดยพยายามที่จะสร้างความรู้จัก กับบรรพบุรุษ และพยายามที่จะหาวิธีที่จะเชื่อมทุกยุค ระหว่างยุคของรัชกาลที่ 5 กับยุคปัจจุบัน ทุกชั้นจะคล้ายๆกัน แต่จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนของท่าน จิตวิญาณคล้ายๆกัน แต่ผิวจะมีการปรับเปลี่ยน ชั้นที่สอง จะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของคนกับธรรมชาติ ชั้นสาม จะเห็นชัดเลยว่าจะกลับไปเรื่องของนอร์ทเคป เรียกว่าทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม กลับไปถึงยุคของรัชกาลที่ 5 ถ้าขึ้นไปแต่ละชั้นจะสังเกตว่าจะสร้างมาเป็นเรื่องราว ที่ทำแบบนี้เพื่อให้คนเข้าถึงในวิธีที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะหากเป็นเรื่องที่เป็นวิชาการเกินไปจะเข้าถึงยาก" ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน กล่าว

ประเทศไทยและราชอาณาจักรนอร์เวย์มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและยาวนาน งานนิทรรศการภาพถ่ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวัฒนธรรมเชิงวิชาการที่มุ่งสืบสานความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ 

นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ อธิบดีกรมยุโรป กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยกับนอร์เวย์ก็คงต้องเริ่มจากความสัมพันธ์ทางการทูต เริ่มมีความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่พ.ศ. 2448 มาถึงปีนี้ก็ 115 ปีพอดี ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่มีพื้นฐานมั่นคง แข็งแรง ประการหนึ่งก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ ดูจากนิทรรศการวันนี้เราจะเห็นได้ว่าสืบเนื่องมาจากการเสด็จประพาสยุโรปและการเสด็จนอร์เวย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 ซึ่งความสัมพันธ์นี้ก็สืบสานมาจนปัจจุบัน แต่ว่าในปัจจุบันนี้ผมอยากจะเพิ่มอีกหนึ่งประเด็นคือความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนที่มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นมากขึ้นทุกวัน ตัวอย่างนึงที่อยากจะยกให้เห็นก็คือว่า ประเทศนอร์เวย์มีประชากรทั้งหมด 5 ล้านคนเศษ ในแต่ละปีจะมีคนนอร์เวย์ 1 แสนกว่าคนที่มาเที่ยวประเทศไทย ถ้าดูสัดส่วนของจำนวนประชากรแล้วถือว่าเป็นเปอร์เซนที่เยอะพอสมควร ในทางกลับกันปัจจุบันมีคนไทยพำนักอยู่ในนอร์เวย์เป็นหลักหมื่นคน และมีคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวนอร์เวย์จำนวนไม่น้อย การที่มีนิทรรศการแบบนี้ที่นำเอาประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับนอร์เวย์มาให้คนไทยรับทราบ ได้รับรู้ และมีวิธีการนำเสนอในลักษณะของท่านผู้หญิงเองซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะเข้าถึงเยาวชนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ของไทย – นอร์เวย์ในอนาคต เรื่องอื่นๆที่ร่วมมือที่มีความสัมพันธ์กันอยู่ทั้งเรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ มีการพบปะหารือกันเป็นประจำระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของนอร์เวย์และรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย มีการค้าการลงทุนระหว่างกัน บริษัทของนอร์เวย์มาลงทุนในไทยก็มากมายหรือบริษัทไทยก็ไปลงทุนในนอร์เวย์เช่นกัน เพราะฉะนั้นมันสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทีเป็นสองทางคือเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นผลประโยชน์ซึ่งกันแหละกัน และยังมีความร่วมมือด้านวิชาการนอร์เวย์เป็นประเทศที่เก่งในหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับทะเล ความรู้เกี่ยวกับทะเล การทำประมงที่ยั่งยืนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ในปัจจุบันนี้เราเรียนรู้จากนอร์เวย์มากมาย การแพทย์ทางทะเล หรือแม้กระทั่งเรื่องพลังงานหมุนเวียนเราก็มีร่วมมือกับนอร์เวย์ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ต่อเนื่องและเราก็คงจะทำต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคต

ภาพถ่ายที่จัดแสดงในงานถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก และการตีความผ่านมุมมองของท่านผู้หญิงจากการเดินทาง
ตามรอยเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่สะท้อนความเชื่อมโยงของมิติแห่งกาลเวลาและเรื่องราว
ในอดีตของพระบรมอรรคราชบรรพบุรุษกับบริบทปัจจุบันอย่างมีชีวิต แม้ว่าการเดินทางจะเกิดขึ้นห่างกันเกินศตวรรษก็ตาม