29 พฤษภาคม 2565
1,963

รัสเซียส่งออกน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ จีน-อินเดียลูกค้ารายใหญ่

รัสเซียส่งออกน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ จีน-อินเดียลูกค้ารายใหญ่
Highlight

เมื่อสหรัฐและยุโรปกดดันรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ไม่ซื้อก๊าซและน้ำมันจากรัสเซีย  รัสเซียจึงต้องหันมาเปิดตลาดการค้ากับเอเชียแทน โดยเฉพาะตลาดจีนและอินเดีย ปรากฎว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์และรัสเซียได้ตั้งระบบการชำระเงินขึ้นมาใหม่ เพื่อป้องกันการถูกระงับใช้แบบในอดีต แน่นอนว่า สหรัฐและยุโรปอาจเฝ้าดูความเคลื่อนไหวนี้อยู่ และต้องติดตามต่อไปว่ากลุ่มประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซียจะถูกกดดันและกีดกันทางการค้าจากชาติตะวันออกหรือไม่


สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ว่า ปริมาณส่งออกน้ำมันของรัสเซียสูงเป็นประวัติการณ์ โดยปริมาณน้ำมันที่ส่งออกนั้นมุ่งหน้าไปยังอินเดียและจีนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากประเทศอื่นๆ จำกัดการนำเข้าซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

บริษัทเคปเลอร์ (Kpler) กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันพันธมิตร (OPEC+) มีสต๊อกน้ำมันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 74-79 ล้านบาร์เรล ซึ่งมีปริมาณมากกว่า 2 เท่า ของ 27 ล้านบาร์เรล ก่อนที่รัสเซียจะเข้าบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยพบว่าภูมิภาคเอเชียแซงหน้ายุโรป ในฐานะผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนที่แล้ว และช่องว่างดังกล่าวขยายกว้างขึ้นในเดือนพฤษภาคม 

โดยปริมาณขนส่งน้ำมันทางทะเลของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตอกย้ำว่าการค้าพลังงานทั่วโลกได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายจากความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ โดยบริษัทในสหรัฐ สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรปหลายแห่งหันหลังให้กับสินค้า และบังคับให้รัสเซียมองหาผู้ซื้อในเอเชีย จีนและอินเดียได้ซื้อน้ำมันหลายล้านบาร์เรลจากรัสเซียเพื่อใช้ประโยชน์จากส่วนลดมากมาย

Jane Xie นักวิเคราะห์น้ำมันอาวุโสของ Kpler ในสิงคโปร์ กล่าวว่า "ผู้ซื้อที่สนใจบางส่วนในเอเชียมีแรงจูงใจจากเศรษฐกิจมากกว่าที่จะยืนหยัดทางการเมือง และมีความสนใจของสหรัฐในการซื้อน้ำมันรัสเซียของอินเดียเพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจมีความเสี่ยงด้านลบต่อกระแสการค้านี้ แม้ว่าในปัจจุบันไม่น่าจะมีการเว้าแหว่งมากนักก็ตาม”

โดยความเคลื่อนไหวของการส่งออกน้ำมันรัสเซียนั้น มุ่งหน้าไปสู่ผู้ซื้อ 2 อันดับแรกของเอเชีย ได้แก่ อินเดียและจีน พุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน โดยได้แรงหนุนหลักจากการซื้อที่เพิ่มขึ้นจากอินเดีย แม้ว่าการจัดส่งในเดือนนี้มีแนวโน้มที่ลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังต้องพ่ายแพ้ต่อสถิติของเดือนที่แล้วเท่านั้น 

“ปริมาณน้ำมันดิบในทะเลจะเพิ่มขึ้น 45-60 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการค้าทางทะเลของรัสเซียกับเอเชียที่เพิ่มขึ้นหากสหภาพยุโรปตกลงที่จะยุติการนำเข้าทั้งหมดจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้” FGE ที่ปรึกษาอุตสาหกรรม กล่าว

ทั้งนี้ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พบว่ามี Urals ประมาณ 57 ล้านบาร์เรลและน้ำมันดิบ ESPO ของรัสเซียฟาร์อีสท์ 7.3 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับ Urals 19 ล้านบาร์เรล และ ESPO 5.7 ล้านในปลายเดือนกุมภาพันธ์

อินเดีย ยังซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย ท่ามกลางการคว่ำบาตรชาติตะวันตก

สำนักข่าว The Business Times รายงานเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 อ้างอิงรอยเตอร์ว่า แหล่งข่าวระบุว่าอินเดียจะยังคงซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียต่อไป แต่ยังไม่ได้สรุปเงื่อนไขส่วนลด ราคาเฉลี่ยที่ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลกซื้อน้ำมันดิบอยู่ขณะนี้สูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้วยความกังวลว่าเส้นทางการชำระเงินแบบเดิมอาจถูกปิดกั้น เนื่องจากการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซีย รวมถึงธนาคาร  แต่การสั่งซื้อยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อจัดตั้งกลไกการค้ารูปีรูเบิลเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม แต่ทั้งนี้ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายและวิธีที่เป็นไปได้ทั้งหมดในการชำระค่าสินค้ายังอยู่ในระหว่างการหารือ

ขณะที่การส่งออกน้ำมันของรัสเซียภายใต้การคว่ำบาตรจากตะวันตก ผู้ค้าต่างประเทศบางรายหลีกเลี่ยงการซื้อถังน้ำมัน เนื่องจากระบบการชำระเงินและการขนส่งหยุดชะงัก แหล่งข่าวระบุว่าอินเดียกำลังเพิ่มการพึ่งพาถ่านหินเนื่องจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยถ่านหินอินเดียที่ดำเนินการโดยรัฐจะผลิตถ่านหินมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ปูติน ชี้กลุ่มประเทศที่กีดกันรัสเซีย มีแต่จะสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจตัวเอง

สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2565 ว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เผยว่ากลุ่มประเทศที่กำลังพยายามกีดกันรัสเซีย มีแต่จะสร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของตัวเองเท่านั้น

ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมเต็มคณะของการประชุมเศรษฐกิจยูเรเซีย ครั้งที่ 1 ว่าการกีดกันรัสเซียไม่สามารถเป็นไปได้เลย และ “บรรดาผู้ที่ปรารถนาทำเช่นนั้นจะทำร้ายตัวเองมากที่สุด”

ขณะเดียวกันปูตินตั้งข้อสังเกตว่าสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน บ่งชี้ว่ารัสเซียอยู่ในจุดที่ทำงานอย่างถูกต้องและสมเหตุสมผลแล้ว ตรงข้ามกับหลายประเทศที่พยายามดำเนินนโยบายไม่มองการณ์ไกล

ประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าเหล่านั้นกำลังประสบภาวะเงินเฟ้อรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี และการว่างงานที่เพิ่มสูง ขณะห่วงโซ่โลจิสติกส์กำลังพังทลาย และวิกฤตการณ์ทั่วโลกกำลังทวีความรุนแรงในหลายด้าน เช่น อาหาร ซึ่งถือเป็นปัญหาร้ายแรงที่กระทบต่อระบบความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองทั้งหมด

นอกจากนั้นปูตินเผยว่าการบังคับใช้สารพัดมาตรการคว่ำบาตรและข้อจำกัด ซึ่งมุ่งตีกรอบและทำให้ประเทศที่ต้องการดำเนินนโยบายอันเป็นอิสระอ่อนแอลง มีแต่จะไร้ประโยชน์ในท้ายที่สุด

“หลายประเทศต้องการและจะดำเนินนโยบายอันเป็นอิสระ และไม่มีตำรวจโลกคนใดสามารถหยุดยั้งกระบวนการระดับโลกนี้ได้ ไม่มีฝ่ายใดมีกำลังเพียงพอคัดค้านประเด็นนี้ และความปรารถนาเช่นนั้นจะเลือนหายไปเนื่องจากปัญหาภายในของประเทศเหล่านั้นเอง”

อ้างอิง : https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-05-26/russia-has-record-oil-volumes-at-sea-as-cargoes-shift-to-asia?srnd=markets-vp
https://www.xinhuathai.com/pol/285158_20220527
Infoquest

ติดต่อโฆษณา!