01 มีนาคม 2567
386

กระแสรถ EV มาแรง ! ปตท. เตรียมลงสนามขายแน่ Q2/67

กระแสรถ EV มาแรง ! ปตท. เตรียมลงสนามขายแน่ Q2/67


20240301-b-01.jpg

ปตท. เดินหน้าธุรกิจเมกะเทรนด์ ยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ล่าสุดประกาศเตรียมขายรถไฟฟ้า หรือ EV โดยเตรียมเปิดตัวพร้อมขายในไตรมาส 2/2567 นี้

บริษัทอรุณ พลัส ซึ่งเป็นบริษัทลูก ปตท. จับมือกับ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ร่วมจัดตั้ง บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ลุยธุรกิจจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร

ทั้งนี้ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จะดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรในประเทศไทย เช่น บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า บริการประกันภัย บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง สินเชื่อรีไฟแนนซ์และการเงินอย่างครบวงจร บริการให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้า บริการหลังการขาย ศูนย์เช็กระยะ เปลี่ยนอะไหล่ ตลอดจนซ่อมสีและตัวถัง เป็นต้น 

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MGC-ASIA ระบุว่า การร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ อย่างเช่น อรุณพลัส ในเครือบริษัท ปตท. เป็นการอาศัยความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนงานของทั้งสององค์กร เพื่อสร้างระบบนิเวศธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

ขณะที่นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ ตัวแทนกลุ่มอรุณ พลัส กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะส่งเสริมให้ EV Ecosystem ของทั้งสองกลุ่มบริษัทมีความสมบูรณ์มากขึ้นในทุกมิติ สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ผู้บริโภคได้หลากหลายมากขึ้น

สำหรับ บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด มีแผนเปิดตัวและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าภายในไตรมาส 2 ปี 2567 ให้แก่กลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มองค์กรธุรกิจต่าง ๆ และมีแผนจัดตั้งโชว์รูมยานยนต์ไฟฟ้า ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงการวางเครือข่ายการให้บริการหลังการขาย ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายทางธุรกิจของ MGC-ASIA และกลุ่มอรุณ พลัส

ทางด้านอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สันดาปส่งออก เผยยอดส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในปีนี้ขยายตัวในทิศทางที่มีแนวโน้มลดลงเหลือเพียง 1 - 2% จากปี 66 โดยในปี 66 มีมูลค่าราว 2.5 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนหน้า

“ออเดอร์เริ่มหดหายไป แต่ผลกระทบยังไม่เยอะ แม้ปีนี้โตน้อยลงกว่า,” นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าว

ปัจจุบัน มีปริมาณยานยนต์สันดาปที่ใช้อยู่ทั่วโลก 2,016 ล้านคัน ซึ่งคาดว่าความต้องการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์สันดาปจะยังมีอยู่ต่อไปอีก 18 ปี เนื่องจากการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถเข้ามาใช้งานทดแทนยานยนต์สันดาปได้ทั้งหมด โดยเฉพาะรถกระบะ

ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ภาครัฐเปิดตลาดชิ้นส่วนยานยนต์สันดาปเพิ่มเติม ภาคเอกชนจึงอยากเสนอให้ภาครัฐกำหนดไว้เป็นเงื่อนไขในหลักเกณฑ์ส่งเสริมการลงทุนด้วย ซึ่งภาคเอกชนได้เสนอแผนงานรองรับผลกระทบ 3 ระยะให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว นายสมพล ระบุ
ติดต่อโฆษณา!