28 มิถุนายน 2565
1,613

MAKE IT HAPPEN ด้วยนวัตกรรมจาก “พลังงาน” สู่ “สุขภาพ”

Highlight

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขยายการลงทุนโดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านพลังงานสู่ธุรกิจ Health Care ผ่าน Innobic (Asia) Co., Ltd บริษัทในเครือที่จัดตั้งขึ้น นับเป็นอีกก้าว ของ ปตท.ในการลงทุนในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนต์ของโลก โดยได้ร่วมลงทุนใน Lotus Pharmaceutical Co., Ltd บริษัทผลิตยาที่ไต้หวัน และบริษัท บริษัทนำวิวัฒน์การช่าง (1992) จำกัด ซึ่งผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งโครงการโรงงานยารักษามะเร็งร่วมกับองค์การเภสัชกรรม และในอนาคตเตรียมลงทุนด้าน R&D อย่างต่อเนื่อง


นวัตกรรมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ประกอบการ

ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ Innobic (Asia) Co., Ltd พร้อมเป็นเรือธงให้ประเทศไทยรุกธุรกิจด้าน Life Science 

นำประเทศไทสู่การเป็นผู้นำด้านการแพทย์ในภูมิภาคและผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการต่อยอดพลังงานมาสู่นวัตกรรมด้านสุขภาพเมกะเทรนด์ที่ต้องจับตา 

ปตท.เริ่มลงทุนด้าน Health Care มาราวหนึ่งปีเศษผ่าน Innobic Asia และได้เริ่มลงทุนเดินตามภารกิจ milestone ไปได้ค่อนข้างมาก คุณบุรณิน กล่าว

“วันนี้เราเป็นเจ้าของบริษัทยาระดับโลกชื่อว่า Lotus Pharmaceutical Co., Ltd ตั้งอยู่ที่ประเทศไต้หวัน จากเดิมลงทุน 6% กว่า ปัจจุบันถือหุ้นกว่า 30% เป็นบริษัทที่ผลิตยาชื่อสามัญที่มี Innovation หรือ นวัตกรรม บริษัทนี้ผลิตยาขายไปที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีฐานการผลิตที่ไต้หวันและเกาหลี และได้ร่วมมือกับ Innobic (Asia) พอสมควร ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นฐานการผลิตยาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” 

การที่ Innobic (Asia) Co,. Ltd ถือหุ้นในบริษัทยาต่างประเทศ จะส่งผลดีต่อประเทศไทยอย่างไร?

สำหรับในการที่บริษัทไทยได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทยาระดับโลกนั้น ผลดีก็คือ 

1. การที่มีเครือข่ายบริษัทยาหรือเครือข่ายโรงงานผลิตยา หากเกิดภาวะวิกฤต สามารถนำเข้ายาได้ 

2. การมีองค์ความรู้และฐานความรู้ในการพัฒนายาสู่ตลาดโลกได้

20220627-a-02.jpg

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในบริษัทผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น ลงทุนในบริษัทนำวิวัฒน์การช่าง (1992) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมีการใช้เทคโนโลยีของ Sterile ระบบฆ่าเชื้อ และเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดพอสมควรในเรื่องระบบฆ่าเชื้อที่โรงพยาบาล ดังนั้นการลงทุนด้านนี้ ก็สามารถต่อยอดกับธุรกิจยากับอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ 

นอกจากนี้ Innobic Asia ได้ทำโครงการร่วมกับองค์การเภสัขกรรม คือ “โรงงานยามะเร็ง” ซึ่งจะมีการนำเทคโนโลยีการผลิตที่เรียกว่า Biosimilars ซึ่งผู้ถือหุ้นคือ  Lotus Pharmaceutical Co., Ltd มีเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ ปัจจุบันมีฐานการผลิตอยู่ที่ไอร์แลนด์และที่ประเทศจีน ในอนาคตอาจจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตร่วมได้ด้วย 

ต้นทุน “ธุรกิจพลังงาน” กับ “ธุรกิจ Health Care” ต่างกันอย่างไร?

“วันนี้เราอยู่ในกระแส “Deep Technology” ฉะนั้น เรื่องของพลังงานเองก็มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่คิดเรื่องราคาพลังงานที่สูงขึ้นจากวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน พลังงานเองก็กำลังจะเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาด ตอบรับกระแส Net Zero Carbon” คุณบุรณิน กล่าว

พลังงานฟอสซิลก็กำลังจะเปลี่ยนไปเป็นพลังงานทดแทนมากขึ้น ในอดีตอาจจะพูดถึงพลังงานทดแทนเพียง 10% ปัจจุบันบางธุรกิจพูดถึงพลังงานทดแทน 100% ไปแล้ว ฉะนั้นตัวพลังงานเองก็ต้องหาวิธีเปลี่ยนแปลงโดยหาเทคโนโลยีที่ให้พลังงานได้ โดยไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปสู่ชั้นบรรยากาศ 

“ส่วนที่มากระทบกับ Health Care มากๆ คือเรื่อง Biotechnology จะสังเกตว่าเมื่อเกิดการระบาดโควิด-19 เทคโนโลยีชีวภาพจะเข้ามาในระบบการรักษาเพิ่มขึ้นมาก รวมไปถึงเรื่องของการที่เราบอกว่ามี DMA หรือ mRNA  ซึ่งเป็นเรื่องสารพันธุกรรม” คุณบุรณิน กล่าว 

ดังนั้นเรื่อง Health Care ก็จะมุ่งไปสู่การทำที่เป็นเฉพาะเจาะจง การใช้ระบบภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงการใช้ภูมิคุ้มกันของตัวเอง ในการต่อสู้กับ DNA หรือ Gene ที่ไม่ดี 

วันนี้ทางการแพทย์ไม่ได้พูดถึงการรักษาจากแพทย์เพียงอย่างเดียว  แต่พูดถึงการใช้ระบบตรวจวินิจฉัย ระบบเสริมภูมิคุ้มกันและระบบบริโภคในเชิงป้องกัน ดังนั้นองค์ประกอบโดยรวมเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ตลอดจนความร่วมมือของเอกชนและประชาชน

20220627-a-01.jpg

ธุรกิจในอนาคตจะเดินหน้าอย่างไร?

Innobic (Asia) Co,. Ltd จะเป็นเรือธงของประเทศไทยที่จะรุกธุรกิจ Life Science เพราะธุรกิจพลังงานของ ปตท. เอง ก็ยังคงไว้ซึ่งธุรกิจหลักด้านพลังงาน และมุ่งสู่การสร้างพลังงานสะอาดไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และคนไทยเข้าถึงได้  ตามวิสัยทัศน์ “Make it with Future Energy and Beyond” 

Innobic เพิ่งสร้างมาได้เพียงปีเศษ และการสร้างระบบนิเวศน์วิทยาทางด้านนี้ แต่ละประเทศใช้เวลาเป็น 10 ปี ก็ยังมีโอกาสว่าทำได้สำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ได้ แต่การที่เราเติบโตมาในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่ง การใช้กลยุทธในการเสาะแสวงหาพันธมิตร ทั้งภาควิจัย ภาคผลิตเอกชนและภาคราชการ ซึ่งถือว่าเริ่มต้นได้ดี ประกอบกับกระแสสุขภาพและความรู้ของประชาชนสูงขึ้น จากวิกฤตโรคโควิดระบาด เป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นผู้นำด้านการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในภูมิภาคนี้ และ Innobic (Asia) จะเป็นแค่ฟันเฟืองหนึ่งในการสร้างประเทศไทยให้ครบวงจรด้าน “Life Science”

ผลตอบแทนของธุรกิจจะเป็นอย่างไร?

การลงทุนในลักษณะนี้ เป็นการลงทุนที่สูง มีความเสี่ยง ถ้าจะหวังว่ากำไรจะพุ่งสูงในทันทีอาจจะไม่ใช่ แต่จะมีวินัยในการลงทุน ซึ่งเชื่อว่าการทำธุรกิจนี้เป็นการวิ่งมาราธอน ผลตอบแทนจะไม่กลับมาเร็ว แต่ก็มีผลตอบแทนในระดับเหมาะสมเพื่อต่อยอดการลงทุน 

โดยกลยุทธ์ที่นำมาใช้ ก็ทำไปทีละ Step เรื่องความร่วมมือ การลงทุนใดที่ทำในช่วงระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เชื่อว่ามีผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละช่วง เพื่อความต่อเนื่อง และที่สำคัญถ้ามีเงินกำไร ก็จะนำไปลงทุนใน R&D หรือการวิจัยและพัฒนาต่อไป

ติดต่อโฆษณา!