บริษัทจดทะเบียนประกาศงบไตรมาส 2 กำไรส่วนใหญ่ดีกว่าคาด

HighLight

ผ่านพ้นช่วงประกาศงบไตรมาสสองไปเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทจดทะเบียนไทย ประกาศกำไรรวมกันกว่า 2.76 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 119.4% จากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด และเพิ่มจากไตรมาสแรกราว 6% อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่าครึ่งหลังของปี ผลประกอบการมีแนวโน้มปรับลดลงหนัก จากผลของโควิด ทันข่าวToday นำข้อมมูลมาฝาก

Q2 กำไรรวมกันกว่า 2.76 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 119.4%

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ทั้ง 566 บริษัท มีกำไรสุทธิรวม 276,082 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 119.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 125,829 ล้านบาท เพราะฐานต่ำ และยังคงเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งกำไรโดยรวมมากกว่าตลาดคาด 8.7%

ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 64 พบว่า มีกำไรสุทธิรวม 549,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 223,345 ล้านบาท
       
สำหรับในไตรมาส 2/64 กลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่รายงานกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน(YoY) มีเพียงกลุ่มประกัน กลุ่มบรรจุภัณฑ์ และกลุ่ม ICT ที่รายงานกำไรอ่อนตัวลง โดยสัดส่วนบริษัทที่รายงานกำไรมากกว่ามีถึง 46% ซึ่งเพิ่มจาก 45% ในไตรมาส 1/64
       
อย่างไรก็ตาม การปรับประมาณการขึ้นของกำไรบจ. (SET EPS) เริ่มชะลอลง แต่ก็ยังไม่เห็นการปรับกำไรลง ดังนั้นเป้า SET ปีนี้ยังคงอยู่ที่ 1,605 จุด และ ปีหน้า 1,784 จุด ยังไม่เปลี่ยนแปลง
 

แนวโน้มช่วงครึ่งปีฟลังไม่สดใส กำไรมีโอกาสลดลงหนัก   
        
บล.เอเซียพลัส (ASPS) เปิดเผยว่า หากประเมินผลกระทบ กำไรบจ. หลังจากที่ Q2/64 บจ. รายงานผลประกอบการมาแล้ว 501 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วนมาร์เก็ตแคป 96%) โดยภาพรวมถือว่าดูดี เติบโต 116% yoy และ 4%qoq ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากกำไรจากรายการพิเศษรวมเข้ามาหนุนพอดี อาทิ PTTGC, BAY เป็นต้น
        
ทั้งนี้ หากแบ่งแยกการเติบโตของกำไรออกเป็นรายกลุ่มพบว่า หลายกลุ่มยังทำกำไรได้ดี และส่วนใหญ่จะเติบโต yoy จากฐานที่ต่ำปีที่แล้วเนื่องจากมีการ Lockdown ส่วนกลุ่มที่เติบโตเด่นทั้ง qoq และ yoy ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มหุ้นที่ฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจโลก อย่าง PETRO, CONMAT, FOOD, ETRON และหุ้นที่มีปัจจัยบวก เฉพาะตัว HELTH, MEDIA ในทางกลับกันมีกลุ่มที่ขาดทุนมากขึ้น คือ TOURISM
        
ฝ่ายวิจัย ASPS ประเมินกำไรบจ.ปี 64 อยู่ที่ 8.45 แสนล้านบาท คิดเป็น EPS ปี 64 73.60 บาท/หุ้น หากคำนวณระดับ Market Earning Yield Gap. (คิดตามมูลค่าเวลา) เทียบกับดัชนี ณ ปัจจุบัน จะอยู่ที่ 3.8% (ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต)

แต่เบื้องต้นคาดว่า ยังกดดันดัชนีให้ขึ้นได้ยากจาก 2 ปัจจัย คือ

1. EPS ปี 64 ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินที่ 73.60 บาท/หุ้น ถือว่ายัง Conservative เมื่อเทียบกับ Bloomberg Consensus มาก โดยล่าสุดอยู่ที่ 85.43 บาท/หุ้น

2. กำไรช่วงครึ่งปีแรก 64 ทำได้ 5.3 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 62.7% ของประมาณการทั้งปี แสดงว่าช่วงครึ่งปีหลัง 64 กำไรบริษัทจดทะเบียนมีโอกาสลดลงถึง 40.5%        
สรุป คือ ภาพรวมกำไรบริษัทจดทะเบียน Q2/64 ถือว่าดูดี แต่หลังจากนี้น่าจะมีอุปสรรคมากขึ้น จากภาพรวมหลายๆ โบรกเกอร์ที่ทยอยปรับลดประมาณการกำไรลงจากพิษโควิดระลอกใหม่ อีกทั้งกำไรช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสลดลงไม่น้อยกว่า 40% หากตัวเลขผู้ติดเชื้อมีโอกาสยืนเหนือระดับ 2 หมื่นรายต่อวัน ไปจนถึงช่วงท้ายของปี