10 สิงหาคม 2564
8,241

จับตาการประชุม Jackson Hole 26-28 ส.ค. จะส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในครึ่งปีหลัง

จับตาการประชุม Jackson Hole 26-28 ส.ค. จะส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในครึ่งปีหลัง
HighLight

บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Federal Reserve (Fed) จะส่งสัญญาณการผ่อนคลาย
และลดการกระตุ้นเศรษฐกิจลงในการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้


การประชุมประจำปี Jackson Hole ที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Federal Reserve (Fed) จะจัดขึ้นทุกปีที่เมือง Wyoming ทุกปีจะมีวาระการประชุมที่น่าสนใจติดตาม และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน
 
บริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส คาดว่า Fed จะส่งสัญญาณการผ่อนคลายและลดการกระตุ้นเศรษฐกิจลง โดยการประชุม Jackson Hole ในครั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 สิงหาคม 2564 นี้

และไม่ว่าผลการประชุมจะเป็นอย่างไร ย่อมส่งผลต่อทิศทางการลงทุน ทั้งในตลาดหุ้นและตลาดเงินในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่า Fed จะส่งสัญญาณการลดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจลง หลังจากที่ตัวเลขต่างๆ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น และอัตราการว่างงานลดลง
 
Jackson Hole economic symposium meeting คือการประชุมสัมมนาวิชาการประจำปีซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Fed สาขา Kansas City  ตั้งแต่ปี 1978 และจัดขึ้นที่ Jackson Hole, Wyoming ตั้งแต่ปี 1981
 
การประชุมสัมมนามุ่งเน้นไปที่ปัญหาทางเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลก ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วยนายธนาคารกลางที่โดดเด่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงนักวิชาการชั้นนำและนักลงทุนในตลาดการเงินชั้นนำจากทั่วโลก
 
ดังนั้นการประชุมทางวิชาการประจำ Jackson Hole จึงเป็นที่ตับตามองทุกปี เนื่องจากผลการประชุม ตลอดจนนโยบายทางการเงินการคลังของ Fed อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ตลาดเงินรวมถึงทิศทางดอกเบี้ย และตลาดตราสารหนี้
 
อย่างไรก็ดี ได้มีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ทั่วโลกมาบ้างแล้วในช่วงก่อนหน้านี้  ในประเด็นที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะส่งสัญญาณการลด  QE Tapering ลงซึ่งหมายถึง ประกาศลดการอัดฉีดเงินเข้าระบบ จากปัจจุบันทำอยู่เดือนละ 120,000 ล้านดอลล่าร์ลงมา
 
และถ้าเป็นไปตามการคาดการณ์ ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เงินทุนออกจากตลาดหุ้นไทย ในขณะที่ตลาดเงิน และตลาดบอนด์ผันผวนสูงไปตามกระแสและทิศทางดอกเบี้ยไปจนถึงปลายเดือนกันยายน ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ Fed  อีกครั้ง
 
จากสถิติในอดีต ในปี 2013 ที่ Fed เริ่มส่งสัญญนาณ ลด QE ครั้งแรกพบว่าตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยปรับฐานลงแรงในระยะสั้น, fundf-flow จะไหลออกจากตลาดหุ้นไทย, bond yield  อายุสั้นและยาวแต่ละประเทศจะปรับขึ้น,  ค่าเงิน Dollar จะแข็งค่า และเงินบาทจะอ่อนค่า.
 
“ดังนั้นในช่วงนี้ ความเคลื่อนไหวของ Fed จะเป็นประเด็นสำคัญต่อทิศทางการลงทุนและ fund-flow และเป็นปัจจัยที่สร้างความกดดันให้กับการลงทุนให้กับการลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดเงิน” นักวิเคราะห์จากเอเชียพลัสกล่าว
 
ที่มา : บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส, scbam.com

ติดต่อโฆษณา!