23 กรกฎาคม 2564
3,425

ตกงานกะทันหัน อย่าลืมยื่นขอสิทธิชดเชยการว่างงาน

ตกงานกะทันหัน อย่าลืมยื่นขอสิทธิชดเชยการว่างงาน
HighLight

ในภาวะโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ เชื่อว่าแทบทุกอาชีพมีความสุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ลูกจ้างหรือพนักงานเงินเดือน นอกเหนือจากข้าราชการแล้ว น่าจะเรียกได้ว่าทุกอาชีพมีความเสี่ยงหมด แต่อย่างน้อยที่สุด หากเราเป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยหรือโดนเลิกจ้าง เรายังมีสิทธิได้รับสวัสดิการชดเชย #ทันข่าวลงทุน รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์ หยิบเอาเรื่องนี้มานำเสนอ คลิกอ่านได้เลย


หากคุณเป็นผู้ประกันตนแล้วต้องตกงาน จะด้วยการถูกเลิกจ้าง หรือโดนพักงานจากโควิด หรือแม้กระทั่งต้องลาออกด้วยความจำเป็นใด ๆ ก็ตาม เรามีสิทธิได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน โดยต้องมีเงื่อนไขดังนี้

1. จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงานกับนายจ้างรายสุดท้าย หรือกรณีผู้ประกันตนว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัย

2. มีระยะเวลาการว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป

3. ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th) ของสำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลาออกหรือถูกเลิกจ้าง หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างจึงจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานนับแต่วันที่ 8 ของการว่างงาน

4. ต้องรายงานตัวตามกำหนดนัดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th) ของสำนักงานจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง

5. เป็นผู้มีความสามารถในการทำงาน และพร้อมที่จะทำงานที่เหมาะสมตามที่จัดให้

6. ต้องไม่ปฏิเสธการฝึกงาน

7. ผู้ที่ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณี มีดังนี้

7.1 ทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
7.2 จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
7.3 ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณี ร้ายแรง
7.4 ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร
7.5 ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
7.6 ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา
7.7 ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ


สิทธิที่ท่านจะได้รับประโยชน์ทดแทน เงินทดแทนในระหว่างการว่างงาน ดังนี้  

* กรณีถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงาน ปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย ไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 5,000 บาท

* กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 3,000 บาท

* ในกรณียื่นคำขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงานเพราะเหตุถูกเลิกจ้าง หรือเหตุถูกเลิกจ้างและลาออกหรือ สิ้นสุดสัญญาจ้างเกินกว่า 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนทุกครั้ง รวมกันไม่เกิน 180 วัน แต่ในกรณียื่นขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเพราะเหตุลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง เกินกว่า 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนรวมกันไม่เกิน 90 วัน


หลักฐานที่ต้องใช้เพื่อขอรับประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน

1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7)

2. หนังสือรับรองการออกจากงานหรือสำเนาแบบแจ้งการลาออกจากงานของผู้ประกันตนออกจากงานของผู้ประกันตน (สปส. 6 -09) กรณีที่ไม่มีสำเนา สปส.6-09 ก็สามารถไปขึ้นทะเบียนกรณีว่างงานได้

3. หนังสือหรือคำสั่งของนายจ้างให้ออกจากงาน (ถ้ามี)

4. หนังสือรับรองการขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน เนื่องจากเหตุสุดวิสัยกรณีเป็นผู้ประกันตนกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

5. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน ดังนี้          
5.1 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)          
5.2 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)           
5.3 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)          
5.4 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)           
5.5 ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)           
5.6 ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)          
5.7 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)           
5.8 ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)           
5.9 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย          
5.10 ธนาคารออมสิน         
5.11 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  
  

สถานที่ยื่นเรื่อง 

1. ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานและรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (เว็บไซต์ www.empui.doc.go.th) ของสำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง และรายงานตัวตามกำหนดนัด เพื่อมิให้เสียสิทธิในการรับเงินทดแทน   

2. ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) ได้ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน 1694 ในวันและเวลาราชการ 08.30-16.30 น. 

#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว

ติดต่อโฆษณา!