11 มิถุนายน 2564
7,901

หุ้นเปิดเมืองจะกลับมา ครึ่งปีหลัง 5 หุ้นเด่นแนะนำ

Highlight

ถ้า “ไทย” ปูพรมฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ตามแผน และเริ่มกลับมาเปิดเมืองได้อีกครั้ง จะส่งผลดีกับกลุ่มธุรกิจ ที่เคยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะธุรกิจค้าปลีก , ขนส่ง , ท่องเที่ยว และธุรกิจโรงแรม จะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน

ปี 2564 ในครึ่งปีแรก ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงมาก ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2564 ในครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไรนั้น สยาม ติยานนท์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) มีคำตอบผ่าน “ทันข่าว Today” ให้คุณรู้ไว้ ไม่ตกเทรนด์การลงทุน

 

ปัจจัยที่ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2564 ครึ่งปีหลังดีขึ้น

1. การกระจายวัคซีนโควิด-19 ที่เห็นชัดมากขึ้น
2. เริ่มมีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เพิ่มขึ้น
3. การเกิด Curve Community ผ่อนคลายล็อกดาวน์ และเปิดประเทศได้ ถ้ารัฐบาลนำเข้าวัคซีนภายใน

สิ้นปี 2564 ได้ 100 ล้านโดส ตามเป้าหมาย  

4. การท่องเที่ยวภายในประเทศ
5. การเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาได้

5.1 ถ้า 1 กรกฎาคม 2564 ยังคงเปิดประเทศได้ตามโมเดล Phuket Sandbox และสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี เดือนตุลาคม 2564 ก็มีโอกาสที่จะเปิดอีก 9 เมือง รวมทั้งหมดเป็น 10 เมือง น่าได้จะเห็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

5.2 หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น ตามแผนของรัฐบาล วันที่ 1 มกราคม 2565 จะเปิดประเทศได้เต็มรูปแบบ

 
20210611-b-03.jpeg

กลุ่มธุรกิจที่จะฟื้นตัว จากการเปิดเมือง และเปิดประเทศ

1. ธุรกิจค้าปลีก
2. ธุรกิจขนส่ง
3. ธุรกิจท่องเที่ยว
4. ธุรกิจโรงแรม

 
20210611-b-01.jpeg

5 หุ้นเด่นแนะนำ

1. หุ้น MINT เป็นหุ้นกลุ่มใหญ่ในธุรกิจโรงแรมและอาหาร ถ้ามีมาตรการผ่อนคลาย และการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นไปด้วยดี มองว่าธุรกิจจะมีการฟื้นตัวลำดับต้น ๆ หลังจากที่ได้รับผลกระทบมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการฟื้นตัวในต่างประเทศ เพราะมีธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในต่างประเทศด้วย


2. หุ้น CRC
หรือ Central Retail เป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล , โรบินสัน , ไทวัสดุ ช่วงการแพร่ระบาด ยอดผู้ซื้อน้อยลง ก็ส่งผลกระทบต่อยอดขาย เมื่อ Traffic เริ่มกลับมา ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้ามีการเติบโตมากขึ้น และฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ของปี 2564


3. หุ้น CPN
เป็นกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ในการให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า ในช่วงที่ผ่านมาต้องให้ส่วนลดในการเช่าพื้นที่กับผู้ค้า เนื่องจาก Traffic ที่ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก ซึ่งถ้ามีคนกลับมาจับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้ามากขึ้น ยอดขายของผู้ค้ามากขึ้น การให้ส่วนลดต่างๆ ก็จะลดลง นำมาซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้น


4. หุ้น
BEM เป็นผู้ให้บริการขนส่งมวลชนรายใหญ่ เช่นเดียวกับ BTS สำหรับหุ้น BEM เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่ให้บริการทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วน การ Re-Opening ทำให้การ Work From Home น้อยลง ทุกคนจะเริ่มกลับมาเดินทางเพิ่มขึ้น ดังนั้น น่าจะเห็นรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าและทางด่วนฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจทางด่วนน่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่า เพราะประชาชนจะป้องกันตัวเองจากโควิด-19 โดยการเดินทางด้วยรถส่วนตัว


5. หุ้น
AOT เนื่องจากเป็นสนามบินหลักของประเทศไทย มองว่า สนามบินน่าจะได้รับประโยชน์เต็มที่ หากการท่องเที่ยวฟื้นตัวก็จะส่งผลให้การเดินทางภายในประเทศกลับมาดีขึ้น และหากมีการเปิดประเทศได้ตามแผน เช่น Phuket Sandbox หรือการเปิดประเทศอีก 9 จังหวัด ในเดือนตุลาคม 2564 และเดือนมกราคม 2565 จะส่งผลให้ผลประกอบการของ AOT น่าจะฟื้นตัวได้โดดเด่น

 

ผอ.ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำว่า หุ้นหลายตัว Upside จากราคาพื้นฐาน แนะนำให้หาจังหวะทยอยซื้อ เพราะดูจากราคาหุ้น แม้ผลประกอบการจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว

 

ปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ

1. การบริหารจัดการการฉีดวัคซีน จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่
2. วัคซีนที่จะนำเข้ามา จะมาทันตามรัฐบาลกำหนดหรือไม่

 

ปัจจัยเสี่ยงภายนอกประเทศ

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศขนาดใหญ่ เช่น การลดขนาด QE การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่ต้องติดตาม

 
20210611-b-02.jpeg

4 ช่องทางการติดตามข้อมูล ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป

1. Facebook PhillipResearch
2. Telegram PhillipResearch
3. Line OA : @phillipcapital
4. www.poems.in.th (งานสัมมนาออนไลน์)
ติดต่อโฆษณา!