15 กุมภาพันธ์ 2567
279

บลจ.กรุงศรี เปิด 5 ธีมการลงทุนปี 67 รับเทรนด์ดอกเบี้ยลด

บลจ.กรุงศรี เปิด 5 ธีมการลงทุนปี 67 รับเทรนด์ดอกเบี้ยลด นางสุภาพร  ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด(บลจ.กรุงศรี) เผยหลัก ๆ ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้นประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย เวียดนาม และหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว โดยกองทุนต่างประเทศยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง 
.
▪️ ธีมการลงทุนที่น่าสนใจในปี 2567 ได้แก่

1. การลงทุนในตราสารหนี้เพราะได้ประโยชน์จากการที่ดอกเบี้ยสหรัฐกลับตัวเป็นขาลง  โดยมีกองทุนแนะนำ คือ KFTRB และ KF-CSINCOM  

2. การลงทุนในตลาดประเทศกำลังพัฒนาซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว  โดยมีกองทุนแนะนำ คือ KF-EM, KFINDIA และ KFVIET  

3. การลงทุนหุ้นคุณภาพสูงที่มีหนี้อยู่ในระดับต่ำ มีอัตราการทำกำไรสูง มีกระแสเงินสดดี และมีความทนทานในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ดี  โดยมีกองทุนแนะนำ คือ KFGBRAND  

4. การลงทุนในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกโดดเด่นเฉพาะตัว เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตได้สูงกว่าตลาดโดยรวม รวมถึงปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์และการฟื้นตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ โดยมีกองทุนแนะนำ คือ KFHTECH  

5. การลงทุนในหุ้นไทยที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดี
             
สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนในปี 2567 นั้น นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์เพื่อลดความผันผวนและเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ  และลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้   
.
แนะนำให้นักลงทุนสร้างพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) ด้วยกองทุนกรุงศรี The One ทางเลือกที่ตอบทุกเป้าหมายผลตอบแทน โดดเด่นด้วยการผสานจุดแข็งของกลุ่มกรุงศรีและพันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก มีการคัดสรรกองทุนเด่นที่มีผลงานดีเข้ามาอยู่ในพอร์ตการลงทุน มีการกระจายการลงทุนทั่วโลก ปรับพอร์ตอย่างรวดเร็ว  
.
โดยกรุงศรี The One มี 3 กองทุนให้เลือกลงทุนตามเป้าหมายผลตอบแทนที่ต้องการและระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ มีตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง ได้แก่ KF1MILD ที่มีเป้าหมายผลตอบแทนในการชนะเงินเฟ้อ  KF1MEAN  เน้นรักษาสมดุลของผลตอบแทนและความเสี่ยงและ KF1MAX ที่เน้นโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น  ทั้งนี้ การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายและลงทุนตามธีมที่โดดเด่นจะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างการเติบโตที่ดีของพอร์ตการลงทุนในระยะยาวได้” นายศิระ กล่าว
.
นางสุภาพร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2566 ที่ผ่านมานั้น กองทุนรวมยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 73% ของ AUM รวม  
.
ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมาได้รับประโยชน์จากเงินลงทุนที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องมูลค่ารวมกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท  โดยเฉพาะเงินลงทุนในกองทุน Term fund  กองทุน FIF และกลุ่มกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี  
.
ทั้งนี้ กองทุนรวมของ บลจ.กรุงศรี มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของอุตสาหกรรม มีอัตราการเติบโตที่ 6%  (อุตสาหกรรม 5.46%)  โดยมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 4 หมื่นบัญชี คิดเป็น 9% ของฐานลูกค้าในปีก่อน  
ติดต่อโฆษณา!