06 พฤศจิกายน 2566

บาทแข็งค่าทะลุ 35.53 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดคาด Fed ลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น

โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในกรอบ 35.41 - 35.76 บาทต่อดอลลาร์) ในวันนี้ (6 พ.ย. 66) เปิดตลาดมาแข็งค่าต่อเนื่องที่ 35.53 บาทต่อดอลลาร์

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ระบุว่าปัจจัยสำคัญมาจากทำให้เงินบาทแข็งค่ารวดเร็วและผันผวนในช่วงนี้มาจาก

1. ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในเดือนต.ค. ต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 150,000 ตำแหน่งจากที่คาดไว้ 188,000 ตำแหน่ง และดัชนี ISM Services PMI ล่าสุดออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าอย่างหนัก

2. อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.9% จากคาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

3. ตลาดเริ่มมองว่า Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น และอาจจะลดดอกเบี้ยลงได้ราว 1 % จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเชื่อว่า Fed ได้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว และอาจเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือน พ.ค. ปีหน้า

4. การปรับตัวลดลงของ Bond Yield สหรัฐ 10 ปี หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำ ซึ่งธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

5. ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) คาดว่า Fed จะคงดอกเบี้ย ในการประชุมเดือนธ.ค. นี้

6. ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนควรรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลัก โดยเฉพาะ Fed พร้อมติดตามรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และสถานการณ์สงครามอิสราเอล - กลุ่มฮามาสและพันธมิตร

7. ttb คาดว่า กรอบค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในช่วง 35.30 – 35.70 บาทต่อดอลลาร์

8. ttb แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยง และผู้ส่งออก แนะนำขายเงินตราต่างประเทศที่เหนือระดับ 35.70 บาทต่อดอลลาร์

9.สัญญาณดี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 478 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 574.82 ล้านบาท