03 กรกฎาคม 2566
680

โอกาสหุ้นพลังงานกับสัญญาณการฟื้นตัว

การลงทุนหุ้นพลังงานในไทยจะมีแนวโน้มอย่างไร หุ้นตัวไหนที่ถือต่อและลงทุนได้ คุณสุวัจน์ สินสาฎก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจลูกค้าสถาบันบริษัท หลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ไว้ดังนี้

ล่าสุดจะมีการลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกแล้ว คุณสุวัจน์ กล่าวว่าตอนนี้ตลาดพลังงานไม่ค่อยขึ้นกับฝั่ง Supply สักเท่าไหร่ มาดูฝั่งดีมานด์ดีกว่าและคิดว่าราคาน้ำมันน่าจะ Bottom แล้ว 

เดือนกรกฎาคมไปแล้วมีลุ้นราคาขึ้นอย่างชัดเจน ราคาน้ำมัน ค่าการกลั่น รวมถึงมีดีมานด์ค่อนข้างมาก ราคาอาจจะขึ้นต่อ 

20230703-a-01.jpg

ถ้าดูตัวเลขเศรษฐกิจจีน มีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบและมีการเปิดเมือง ไทยมีโอกาสได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนจำนวนมาก น่าสนใจหากดูจำนวนที่นั่งเที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากต้นปี ที่ 200,000 ที่นั่งมาเป็น 800,000 ที่นั่ง เกือบเท่าก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีจำนวนที่นั่งเที่ยวบินถึง 1 ล้านที่นั่ง 

ดังนั้นเราจะเห็นการท่องเที่ยวเดือนมิถุนายนนี้เพิ่มขึ้นมาก และเมืองไทยเป็นอันดับหนึ่งของต่างประเทศที่คนจีนบินมามากที่สุด ดังนั้นจากเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้นมากจากการท่องเที่ยวที่เติบโต

นอกจากนี้ การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Fed ส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยจะขึ้นอีกสองครั้ง เพราะเศรษฐกิจเติบโตดีกว่าที่คาด สหรัฐฯ เพิ่มการคาดการณ์เศรษฐกิจจากเติบโตจากเดิม 0.4% เป็น 1% ในปีนี้

ที่น่าสนใจคือในไตรมาสแรกของสหรัฐฯ ตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.1% ทำให้คนมองว่าในไตรมาสที่ 2-3 ตัวเลขจะติดลบเยอะ และไปมองถึง Recession 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Fed บอกว่าทั้งปีจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1% ดังนั้นอีก 3 ไตรมาส จะเป็นตัวเลขอะไร ดังนั้นสรุปได้ว่า 2 ปัจจัยนี้เป็น Demand pull 

20230703-a-02.jpg

แนะนำการลงทุนใน Sector พลังงานอย่างไร ?

ธุรกิจโรงกลั่นขณะนี้อยู่ที่ต่ำ กำไรแย่ใน 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมา แต่มีสิ่งที่น่าสนใจคือจากจุดที่ต่ำ แต่ตอนนี้ตลาดน้ำมันไม่ได้คึกคักมากและตลาดซาอุดิอาระเบียเอง ก็ลดกำลังการผลิต

โดยสรุปแล้วค่าการกลั่นจะลดลงอย่างชัดเจนจากต้นทุนการผลิต และการกลั่นจากฟื้นตัวจากดีมานด์ โดยเฉพาะน้ำมันเครื่องบิน แต่ในวันนี้น้ำมันเครื่องบินยังไม่ได้กลับไปสู่ระดับก่อนโควิด-19 และในกลุ่มโรงกลั่นมีการเคลื่อนไหว หลังจากบริษัทบางจาก (BCP) ซื้อบริษัทเอสโซ่ ซึ่งทั้งคู่มีทั้งโรงกลั่นและปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีจำนวนผู้เล่นน้อยลง การแข่งขันราคาก็น้อยลง

จึงเป็นบทสรุปว่าเดือน 7-8-9 ธุรกิจโรงกลั่นจะมาก่อน ตามมาด้วยผู้ผลิตน้ำมัน เช่น PTTEP และ PTT ผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ที่หลับไหลมาหลายปี

ตอนนี้ PTT ได้ประกาศแผนการสร้างโรงงานแบตเตอรี 2-3 แห่ง สร้างโรงงานผลิตรถ EV และ สร้าง Ecosystemในระบบทั้งหมด ดังนั้น PTT มีโอกาสกลับมาเป็นยักษ์ใหญ่อีกครั้งจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันแต่เป็นธุรกิจ EV 

โดยสรุปธุรกิจโรงกลั่นจะมาก่อน ตามมาด้วยธุรกิจต้นน้ำคือ PTTEP และ PTT

สำหรับธุรกิจพลังงานขนาดกลาง แนะนำ BAFS ซึ่งเป็นผู้เติมน้ำมันเครื่องบิน ถ้าเที่ยวบินมาเยอะ ปริมาณการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น BAFS ต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ราคา BAFS เคยอยู่ที่ 40 บาท ขณะที่ตอนนี้อยู่ในช่วง 30 บาทต้น ๆ ดังนั้นราคาจึงมีโอกาสฟื้นตัวไวขึ้น 

กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของการใช้พลังงานคือกลุ่มท่องเที่ยว โดยเฉพาะ AOT ซึ่งน่าจะเติบโต ได้ดีในสองเดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานที่น่าสนใจ เช่นธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ราคาลงไปเยอะ เช่น หุ้น PTG SUSCO 

20230703-a-03.jpg
สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบหรือกลุ่มที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น ก็จะเป็นพวกที่ผลิตสินค้า อย่างเช่น ธุรกิจซีเมนต์เช่น SCG  ซึ่งจัดเป็น “out of trend”  

กลุ่มที่ 2 ที่ค่อนข้างเสียเปรียบ คือกลุ่ม Logistic ที่ปรับตัวขึ้นไปสูงมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา แต่ในขณะนี้ราคาปรับลดลงมา เพราะจากที่เคยได้พรีเมี่ยมเยอะ ๆ เหมือนช่วงโควิดนั้นไม่มีแล้ว และต้นทุนก็ปรับเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มเรือเทกอง เป็นต้น 

โดยสรุป ถ้าเราจะลงทุนก็ควรจะไปลงทุนกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งแนะนำระยะเวลาลงทุน ประมาณ 3 เดือน โดยหุ้นกลุ่ม Community ไม่ควรจะถือนาน คุณสุวัจน์ กล่าว

ติดต่อโฆษณา!