10 มีนาคม 2566
660

Asia Plus คัด 10 หุ้นเด่นเดือนมี.ค. ตลาดยังคงผันผวนสูง จัดพอร์ตหุ้นไทย 30% หุ้นนอก 30%

Asia Plus คัด 10 หุ้นเด่นเดือนมี.ค. ตลาดยังคงผันผวนสูง จัดพอร์ตหุ้นไทย 30% หุ้นนอก 30%
Highlight

ช่วงนี้ตลาดหุ้นอ่อนแรงจากหลายปัจจัยลบ ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยขยับขึ้นแรงเนื่องจากตัวเลขการฟื้นตัวของการจ้างงานสหรัฐฯ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทย Q4/65 ที่ต่ำผิดคาด รวมทั้งปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มร้อนแรงขึ้น บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัสวิเคราะห์สถานการณ์ว่า การเลือกตั้ง และการชะลอขึ้นดอกเบี้ยในประเทศ อาจจะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นบ้าง โดยแนะนำการลงทุนในหุ้นที่ฟื้นตัวใน Q1/66

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส คงน้ําหนักพอร์ตหุ้นไทย 30% ของพอร์ต (Neutral) โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ไว้ที่ 1,600 – 1,670 จุด โดยตลาดหุ้นไทย มี Downside ของประมาณการ ท้ังด้าน GDP Growth และ EPS 66F หลังกําไรบริษัทจดทะเบียนงวด 4Q65 ต่ำกว่าคาด และ GDP งวด 4Q65 ออกมา -1.5%QoQ

ดังน้ันกลยุทธ์ยังคงให้ทยอยสะสมหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว Earning momentum โตต่อเนื่อง คือ IVL, BGRIM, CRC, CBG, BLA, JMT, AP

ความร้อนแรงเชิงภูมิรัฐศาสตร์กลับมาอีกครั้งทั้งรัสเซีย-ยูเครน,สหรัฐฯ-จีน ที่มีโอกาสทวีความ รุนแรงและอาจขยายวงกว้างมากขึ้น บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด

20230310-b-02.jpg

โดยฝ่าย วิจัยฯ คงน้ำหนักการลงทุนต่างประเทศไว้ที่ 30% ของพอร์ตการลงทุน (Neutral) แต่แบ่งเป็น น้ำหนักหุ้นต่างประเทศ 20% และตราสารหนี้ต่างประเทศ 10%

โดยกลยุทธ์เน้นหุ้นพื้นฐาน แข็งแกร่งและธุรกิจมีการเติบโตอิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคตเป็นหลักอย่าง HSBC Bank (HSBC LN) และ Health Care Select Sector SPDR (XLV US)

นักลงทุนคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.75% ซึ่งจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ย 5 ครั้งติดต่อกัน ทําให้ตราสารหนี้ระยะสั้นปรับตัวขึ้นตาม ตั้งแต่อายุ 1ปี – 3ปี กลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ ให้น้ำหนักการลงทุนที่ 20% ของพอร์ตรวม Top picks คือ CPFTH252A, CPALL286A

เดือน มี.ค. 66 ปัจจัยภายนอกที่นักลงทุนยังให้น้ำหนักคือตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (เดือน ก.พ. 66) ที่จะประกาศในวันที่ 14 มี.ค. 66 รวมถึงแนวทางการรับมือเงินเฟ้อของ Fed หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด และยังมีความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ทวีความรุนแรงมากข้ึน เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรในการกําหนดทิศทางนโยบายการเงิน

ในการประชุม ณ วันที่ 29 มี.ค. 66 ปัจจุบันตลาดคาดว่า Fed จะข้ึนดอกเบี้ยนโยบายรอบนี้อีก 0.25% อย่างไรก็ตามในสัปดาห์ที่ป่านมาตลาดเริ่มให้น้ำหนักจะเป็น 0.5% มาอยู่ที่ 5%-5.25%

20230310-b-01.jpg

ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทย เดือน มี.ค. ยังคงเผชิญกับ 3 กับดัก คือ

  1. เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าที่คาด โดย GDP Growth งวด 4Q65 ของไทยขยายตัวเพียง +1.4%YoY ซึ่งเติบโตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ฟิลิปปินส์ +7.6%YoY, อินโดนีเซยี +5.3%YoY และ GDP ไทยยังหดตัว -1.5%QoQ ส่งผลให้มูลค่า GDP ไทยพลิกกลับมาต่ำกว่าช่วงก่อนเกิด COVID-19 ซึ่งหากติดลบอีก 1 ไตรมาสจะเข้าสู่ภาวะ Technical Recession

  2. ตลาดหุ้นไทย รายงานงบ 4Q65 ออกมา 538 บริษัท คิดเป็นสัดส่วน Market Cap. 92% ลดลง 35%QoQ และ 45%YoY และเป็นการลดลงแรงจาก 13 Sector โดยเฉพาะ Sector ที่ขาดทุน คือ PETRO, STEEL, ICT, CONS อีกทั้งกําไรยังต่ำกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดถึง -40% นําไปสู่การปรับลดประมาณการกําไรปี 2566 ลงต่อเนื่องในช่วงเดือนน้ี

  3. ล่าสุดฝ่ายวิจัย ASPS ปรับลดประมาณการกําไรปี 2566 ลงจาก 1.27 ล้านล้านบาท เป็น 1.12 ล้านล้านบาท และ EPS66F ลดลงจาก 99.2 บาท/หุ้น เหลือ 91.8 บาท/หุ้น เมื่อคูณกับ P/E 17.54 เท่า (ท่ีคํานวณจาก MEYG 4.2% ภายใต้ดอกเบี้ยนโยบาย 1.5%) ได้ดัชนีเป้าหมายอยู่ท่ี 1610 จุด

 

ปัจจัยท้ังหมดนี้ถือเป็นเชื้อไฟทําให้ต่างชาติพลิกกลับมาขาย สุทธิหุ้นไทยหนักในเดือน ก.พ. 66 ถึง 1.2 พันล้านเหรียญ หรือ 4.3 หมื่นล้านบาทซึ่งเป็นการขายสุทธิสูงสุดในภูมิภาคและยังเป็นเดือนท่ีต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 63 หรือช่วงเกิด COVID-19 ในช่วงแรก ๆ

อย่างไรก็ตามในเดือนมี.ค. 66 เชื่อว่า Fund Flow มีโอกาสชะลอการไหลออกหากมีประเด็นบวก เข้ามาเสริมเช่นความมีเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง กนง. ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือเลื่อนกำหนดเวลาขึ้นดอกเบี้ย ในวันที่ 29 มี.ค. 66 ออกไปรวมถึง Downside ของ SET Index ตามประมาณการใหม่มีจํากัด 

สําหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือน มี.ค. ภายใต้ Valuation ตลาดหุ้นไทย ที่เริ่มตึงมากขึ้น รวมถึง Fund Flow ชะลอการไหลเข้า การเลือกหุ้นลงทุนจําเป็นจะต้องพิถีพิถันมากขึ้น แนะนําสะสมหุ้นกําไรงวด 4Q65 ผ่านจุดเลวร้าย (BottomOut) และฟื้นตัวต่อในช่วง1Q66 อย่าง IVL, BGRIM, BLA, JMT รวมถึงหุ้นอิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีกําไรฟื้นตัวต่อเนื่อง เช่น CRC, CBG, AP



ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!