24 มกราคม 2566
557

ตลาดคาดไทยปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% วันพรุ่งนี้ ประเดิมนัดแรกปี 66

ตลาดคาดไทยปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% วันพรุ่งนี้ ประเดิมนัดแรกปี 66
Highlight

นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนัก เช่น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำนักวิจัย KKP และธนาคารกรุงศรี พากันฟันธงว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในวันพรุ่งนี้ เพราะเงินเฟ้อยังสูงอยู่ อีกทั้งเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้ามามากขึ้น การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในประเทศกำลังมา การเงินในประเทศจะสะพัด โดยในปีนี้ ดอกเบี้ยไทยน่าจะมีโอกาสปรับขึ้นอีก 1-2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐก็เป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประชุมนัดแรกของปี 2566 ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค. 66)  คาดูกันว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องจากปีก่อนอีกร้อยละ 0.25 

 

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า กนง. จะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 0.25 มาอยู่ที่ระดับ 1.50%

 

  • จากแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของ ธปท. ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศจีนที่เร็วกว่าคาด

 

  • เงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา เร่งสูงขึ้นที่ระดับ 5.89% YoY ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน ธ.ค. อยู่ในระดับใกล้เคียงกับในเดือนก่อนหน้า โดยอยู่ที่ระดับ 3.23% YoY สะท้อนแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง

 

  • ในด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลัง การท่องเที่ยวหนุน โดยเฉพาะหลังจีนเปิดประเทศ เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยม

 

  • อุปสงค์ในประเทศจีนทยอยกลับมาเป็นปกติ จะช่วยหนุนการส่งออกไทย แม้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะยังคงกดดันการส่งออกไทยอยู่

 

  • ในระยะข้างหน้า กนง. มีแนวโน้มสูงที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกเพียง 1 ครั้งที่ร้อยละ 0.25 ภายในไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ และอาจคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ไปจนตลอดทั้งปี 2566

 

  • คาดว่าเงินเฟ้อไทยจะค่อยๆ ปรับลดลงสู่กรอบเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1-3% ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างไม่เท่าเทียมหรือฟื้นตัวแบบรูปตัว K (K-shaped recovery)

 

  • โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการ มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ดี

 

  • อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการส่งออกมีแนวโน้มที่จะยังคงเปราะบางเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

  • ค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะเผชิญแรงกดดันลดลงและมีทิศทางแข็งค่าโดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปี

 

ในระยะข้างหน้า การปรับดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับปัจจัย ด้านข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไทยที่ออกมา รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นสำคัญ

 

  • หากเงินเฟ้อไทยยังคงอยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด และ Fed จำเป็นต้องยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างแข็งกร้าวอย่างต่อเนื่อง คงส่งผลให้ กนง. เผชิญแรงกดดันมากขึ้น และอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

  • KKP Research วิเคราะห์ว่า ดอกเบี้ยนโยบายไทยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น "อย่างค่อยเป็นค่อยไป" ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยยังถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ปรับดอกเบี้ยขึ้นช้าสุดในโลก และยังไม่ถึงระดับที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตามทฤษฎี หรืออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงอยู่ในแดนติดลบมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค

 

  • ด้วยระดับเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง KKP จึงคาดว่า ธปท. จะยังจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในปี 66 ครั้งละ 25 bps จนถึงระดับ 2.25% ในไตรมาส 3

 

  • ไทยจะถือเป็นประเทศท้าย ๆ ที่ยังคงต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นมากกว่าประเทศอื่น ๆ หลังจากทำได้ค่อนข้างช้า ในขณะที่ Fed น่าจะหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาสแรกของปีนี้เมื่ออัตรามาอยู่ที่ราว 5%

 

  • การปรับขึ้นดอกเบี้ยในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เป็นความท้าทายเชิงนโยบายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะแม้เศรษฐกิจไทยจะยังไม่ฟื้น แต่ด้วยเศรษฐกิจเปิดที่มีดขนาดเล็ก และตลาดการเงินเชื่อมโยงกับโลก

 

  • การขึ้นดอกเบี้ยจากต่างประเทศจะสร้างแรงกดดันให้ไทยต้องขึ้นดอกเบี้ยตามไปด้วย นับเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่เป็นความท้าทายอย่างมากของธนาคารกลางในการจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจ

 

  • ในปี 66 กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% จบไตรมาส 1/66 อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 1.75% และจะตรึงยาวไปเนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นช้ากว่าหลายประเทศ และอัตราเงินเฟ้อไม่ได้สะท้อนอุปสงค์ที่ขยายตัวอย่างร้อนแรง อีกทั้งมีประเด็นฉุดรั้งจากเศรษฐกิจโลกผ่านแนวโน้มการส่งออก น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ระบุ

 

  • การดำเนินนโยบายการเงินในปี 66 ของ กนง.จะยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มีความเหมาะสมกับบริบทของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของไทยเป็นหลัก





    ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

    🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
    🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
    🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
    🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC
ติดต่อโฆษณา!