30 ตุลาคม 2563
1,854

รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 7 ตอน ลดภาษีด้วยกองทุน SSF-RMF ตัวท็อป กับ Phillip Fund SuperMart

Highlight

อีกเพียง 2 เดือน ก็เข้าโค้งสุดท้ายของปี 2020 แล้ว ในปีนี้เรามีกองทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้ ก็คือ ‘SSF และ RMF’ #Phillip มาแชร์ 4 เคล็ดลับจัดพอร์ตลงทุน กองทุน SSF-RMF พร้อมเปิดลิสต์สุดยอดกองทุนแนะนำให้เลือกส่องก่อนตัดสินใจ และสำหรับใครที่พอร์ตลงทุน อย่าง RMF และ LTF เดิม ขาดทุน ถึงจังหวะที่ต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนยังไงกันบ้าง คุณ สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาบริหารเงินลงทุน บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) มีคำแนะนำมาบอก


อีกเพียง 2 เดือน ก็เข้าสู่โค้งสุดท้ายปลายปีกันอีกแล้วในปีนี้เรามีกองทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษีได้ ก็คือ ‘SSF และ RMF’

ซึ่งถือว่ามีทางเลือกสินทรัพย์ให้ลงทุนหลากหลาย…อย่างหุ้นต่างประเทศตอนนี้ก็น่าสนใจ (ไม่ต้องกระจุกตัวอยู่แต่ในหุ้นไทยอย่างเดียว) เพราะการกระจายการลงทุนด้วยการจัด Portfolio จะช่วยบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น

“เมื่อก่อนที่เป็น LTF ต้องลงทุนกระจุกตัวเฉพาะในหุ้นไทย แต่กองทุน SSF-RMF สามารถกระจายการลงทุนได้หลายสินทรัพย์” ความเห็นของ คุณ สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาบริหารเงินลงทุน บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย)

🔹 4 เคล็ดลับจัดพอร์ตลงทุน กองทุน SSF-RMF
▪️ การเลือกกองทุนต้องมองระยะยาว กองทุน SSF ต้องลงทุนอย่างน้อย 10 ปี
▪️ นักลงทุนต้องมองภาพใหญ่ ว่าเรานำเงินไปลงทุนอะไรและมีความเสี่ยงที่เหมาะสมหรือไม่
▪️ เลือกสินทรัพย์ให้เหมาะสมกับสไตล์ของตัวเอง บางสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความเสี่ยงมาก ต้องบริหารทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยงให้ดีจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับตัวเอง
▪️ การเลือกสินทรัพย์ลงทุน ต้องมองไปข้างหน้าว่าระยะยาวต้องสามารถเติบโตอยู่

🔹 เลือกลงทุน SSF หรือ RMF ลงทุนอะไรดีกว่า ?

คุณ สานุพงศ์ แนะนำเทคนิคการเลือก SSF กับ RMF ว่า ตัดสินใจเลือกได้ด้วยการใช้ “ช่วงอายุ”
▪️ ถ้าอายุน้อยกว่า 45 ปี แนะนำให้ลงทุนใน SSF ก่อนก็ได้
▪️ อายุมากกว่า 45 ปี แนะนำลงทุนใน RMF เพราะเราไม่ต้องลงทุนถึง 10 ปี แบบ SSF เพียงลงทุน RMF 5 ปีต่อเนื่อง โดยสามารถขายคืนได้เมื่ออายุครบ 55 ปี มีความคล่องตัวในเรื่องของ Features มากกว่า

แต่มีข้อที่ต้องทราบ หรือเป็นอีกหนึ่ง Checklist เพื่อการตัดสินใจ นั้นก็คือ
“RMF ต้องซื้อทุกปี” ถ้ามั่นใจว่ามีรายได้ต่อเนื่องและต้องการลดหย่อนภาษีไปเรื่อยๆ การซื้อ RMF จะตอบโจทย์มากกว่า ส่วน SSF เหมาะกับนักลงทุนที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ เเละไม่ได้ต้องการลดหย่อนภาษีทุกปี

🔹 เลือกลงทุนในอะไรดีที่ “ใช่” กับทางเลือกที่มากมาย

▪️แนะนำจัดพอร์ตแบบกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์อย่าลงทุนกระจุกตัวในสินทรัพย์ประเภทเดียวทั้งหมด

เช่น ถ้าลงทุนในหุ้น ควรลงทุนแบบกระจายตัวไม่ใช่กระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือแค่ธีมเดียว (เพราะธีมการลงทุนแต่ละธีมก็มีวัฏจักรของตัวเอง)



นอกจากนี้ ยังมีเมกะเทรนด์ที่น่าสนใจ คือ Technology ถ้าถามว่าแพงไปมั้ย ตอบว่า ถ้ามองไปอีก 10 ปีข้างหน้ายังมีโอกาสทำ New High



แต่อย่าลืมที่จะแบ่งสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม เพราะกลุ่ม Technology มีการแกว่งตัวค่อนข้างแรง

🔹 ทางออกสำหรับใครที่พอร์ตกองทุนขาดทุน (สาหัส) แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

▪️ สำหรับคนที่ลงทุนใน LTF แล้วขาดทุนหากครบอายุการลงทุนแล้วให้ขายออกมาจัดพอร์ตใหม่
▪️ ถ้ายังไม่ครบกำหนดระยะเวลา อาจลดความเสี่ยงด้วยการปรับไปกอง LTF ที่มีหุ้นไทย 70 : 30 แทน

แต่กองทุน RMF ปรับการลงทุนได้คล่องตัวกว่าเพราะมีทางเลือกที่หลากหลายไม่แนะนำให้เปลี่ยนกอง RMF บ่อยเกินไปควรเปลี่ยนเมื่อผลตอบเเทนไม่ดีจริง หรือจัดพอร์ตไม่เหมาะสม

เพราะข้อเสียของการเปลี่ยนกอง RMF คือ เรื่องของค่าใช้จ่าย และจะติดเงื่อนไขในตอนขายคืน

Phillip มีที่ปรึกษาให้คำเเนะนำ อาจไม่ต้องเปลี่ยนกอง RMFแนะนำให้ซื้อใหม่มารวมกันให้เหมาะสมกับพอร์ตขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และการลงทุนตอนนั้นเป็นอย่างไร

สนใจ หรือกำลังมองหากองทุน SSF หรือ RMF สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติม Phillip Fund SuperMart โทร 02-635-1718

ติดต่อโฆษณา!