21 มิถุนายน 2565
1,943

ส่องหุ้นเช่าซื้อตัวไหนรับผลกระทบ หลังมีข่าว สคบ.เตรียมคุมเพดานดอกเบี้ย 22 มิ.ย.

ส่องหุ้นเช่าซื้อตัวไหนรับผลกระทบ หลังมีข่าว สคบ.เตรียมคุมเพดานดอกเบี้ย 22 มิ.ย.
Highlight

รอติดตามอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตรียมประชุมในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าจะกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ที่ 15% รถยนต์ใช้แล้ว 20% ส่วนรถจักรยานยนต์ยังเห็นแตกต่างกัน โดย สคบ.ต้องการที่ 20% ต่อปี แต่ทางผู้ประกอบการต้องการที่ 30% รอเคาะกันอีกครั้ง ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อโดยเฉพาะรถมือสองค่อนข้างสูง หลายรายคิดในอัตรา 35-40% ต่อปี


บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะห์กรณีมีข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะประชุมเพื่อกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อใหม่ ในวันที่ 22 มิ.ย. 2565 โดยเดิม สคบ.ต้องการกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 20% (แต่ผู้ประกอบการต้องการที่ 30%) 

จะกระทบต่อหุ้น TK, S11 และ NCAP เป็นหลัก ส่วนผู้ประกอบการจำนำทะเบียนรถจะกระทบบ้าง ได้แก่ SAWAD และ MTC โดยแนะนำซื้อ TIDLOR ให้ราคาเป้าหมายที่ 42 บาทต่อหุ้น จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2565 คาดว่าเติบโต 23% จากแนวโน้มสินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง 

นักวิเคราะห์ มองกลุ่มสินเชื่อรถจักรยานยนต์ มีโอกาสถูกกระทบมากสุด

จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เตรียมประชุมในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ เพื่อกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อใหม่อีกรอบ จากก่อนหน้านี้ มีความเห็นตรงกันในการกำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ที่ 15% รถยนต์ใช้แล้ว 20% ส่วนรถจักรยานยนต์ยังเห็นแตกต่างกัน โดย สคบ.ต้องการที่ 20% ต่อปี แต่ทางผู้ประกอบการต้องการที่ 30%

ฝ่ายวิจัยเอเชียพลัส ประเมินว่าหากสคบ. กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 20% จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เป็นหลัก อาทิ TK  S11 และ NCAP เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบันคิดอัตราดอกเบี้ยที่ราว 25-35% สูงกว่าเพดานที่สคบ. ต้องการกำหนดที่ 20% อยู่มาก 

ขณะที่ผู้ประกอบการในกลุ่มจำนำทะเบียน อาทิ SAWAD และ MTC จะได้รับผลกระทบบ้าง ยกเว้น TIDLOR ไม่กระทบ เพราะไม่มีสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์) เนื่องจากมีสัดส่วนสินเชื่อจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักยานยนต์ไม่มาก

โดย SAWAD มีสัดส่วนสินเชื่อจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ราว 12% ของสินเชื่อสุทธิและคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อเฉลี่ยราว 30% โดยฝ่ายวิจัยได้ทำ Sensitivity หากเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อลดลงมาที่ 20% โดยสมมติฐานอื่นไม่เปลี่ยนแปลง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2566 ของ SAWAD ราว 10% จากประมาณการปัจจุบัน

ขณะที่ MTC มีสัดส่วนสินเชื่อจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพียง 3% ของสินเชื่อสุทธิและคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อเฉลี่ยราว 23% โดยฝ่ายวิจัยได้ทำ Sensitivity หากเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อลดลงมาที่ 20% โดยสมมติฐานอื่นไม่เปลี่ยนแปลง จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2566 ของ MTC ราว 2% จากประมาณการปัจจุบัน

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยประเมินว่า SAWAD และ MTC สามารถปรับกลยุทธ์ โดยการปรับเพิ่มเงินดาวน์จากลูกค้าหรือสามารถปรับกลยุทธ์มาใช้สัญญาสินเชื่อบุคคล (เพดานอัตราดอกเบี้ย25%) หรือนาโน (เพดานอัตราดอกเบี้ย 33%) ควบคู่กันไปด้วยได้

ฝ่ายวิจัยคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มเช่าซื้อ เท่าตลาด โดยเลือก TIDLOR เป็น Top pick จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2565 จะเติบโต 23% yoy จากแนวโน้มสินเชื่อและรายได้ค่านายหน้าประกันภัยเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่คาดกำไรสุทธิงวด ไตรมาส 2/65 จะเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 

สำหรับปัญหาดอกเบี้ยเช่าซื้อ กลายเป็นประเด็นที่หลายหน่วยงานต้องเข้ามากำกับดูแล เพราะเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก 

ธุรกิจไฟแนนซ์กระโดดเข้ามาทำธุรกิจนี้จำนวนมากเพราะดอกเบี้ยสูงและไม่มีเพดานดอกเบี้ยมากำหนด  ด้านลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยการผ่อนจำนวนเงินที่น้อย 

เมื่อเกี่ยวข้องกับผู้มีรายได้น้อย ที่ขาดวินัยทางการเงิน อาจจะด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก เมื่อค้างชำระก็เป็นหนี้ก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ การก่อหนี้เกินตัว  ทำให้หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง การตามติดตามหนี้ทวงหนี้โหด  ดังนั้นธุรกิจนี้จึงถูกกำกับดูแลครั้งใหญ่เพื่อให้เกิดมาตรการที่เป็นธรรมทั้งลูกค้าและผู้ประกอบการ

สคบ. รับลูกเข้ามาดูแลด้านดอกเบี้ย และกระทรวงมหาดไทยดูแลการดำเนินการกฎหมายทวงหนี้  ในส่วนของ สคบ. มีการรับฟังความคิดเป็น 2 ครั้งในช่วง เดือน ต.ค. และ ธ.ค. 2564 และเพื่อให้ภาคธุรกิจมีเวลาปรับตัว จึงมีการกำหนดประชุมอีกครั้ง 22 มิ.ย.นี้เพื่อเคาะอัตราสินเชื่อที่ผ่านการพิจารณาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ ระบุว่าในปัจจุบันยังไม่ได้สรุปเรื่องเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง สคบ.ขอให้เพดานอยู่ที่ 15% ต่อปี สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อใหม่ ครอบคลุม รถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตร และ 20% สำหรับรถยนต์มือสองและรถจักรยานยนต์

บริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ เร่งปรับตัวรองรับเพดานดอกเบี้ยใหม่ หากมีการประกาศใช้แล้ว มีโอกาสทำให้ Yield & Spread ลดลง ซึ่งรวมถึงการขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น การเป็นนายหน้าขายประกัน, สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินเชื่ออื่นๆ ฯลฯ ระยะสั้นอาจกดดันธุรกิจไฟแนนซ์ แต่ผลทางอ้อมจะเป็นปัจจัยหนุนในระยะกลาง-ยาว คือ การฟื้นตัวของกำลังซื้อทางเศรษฐกิจและการปรับตัวไปของธุรกิจในการสร้างรายได้และกำไรเพิ่มเติมเข้ามาของบริษัทไฟแนนซ์ใหญ่ๆ เช่น MTC, SAWAD, TIDLOR เป็นต้น 

ซึ่งคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของไฟแนนซ์ใหญ่จะยังเติบโตได้ในปี 2565 เพียงแต่ไม่ได้สูงมากเหมือนช่วงก่อนโควิด

ติดต่อโฆษณา!