30 พฤษภาคม 2565
3,580

KBANK ทุ่ม 7,556 ล้านบาท เข้าถือหุ้นธนาคารแมสเปี้ยนจากอินโดนีเซีย เพิ่มสัดส่วนเป็น 67.5%

KBANK ทุ่ม 7,556 ล้านบาท เข้าถือหุ้นธนาคารแมสเปี้ยนจากอินโดนีเซีย เพิ่มสัดส่วนเป็น 67.5%
Highlight

ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ประกาศเพิ่มการลงทุนในธนาคารอินโดนีเซีย อีก 7,556 ล้านบาท หรือ 67.5% ในธนาคารเมสเปี้ยน หรือ PT Bank Maspion Indonesia Tbk กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที เป้าหมายการบุกอาเซียนโดยเฉพาะอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดด้วยจำนวนประชากรกว่า 270 ล้านคน ทำให้เป็นที่จับตามองการเคลื่อนไหวและกลยุทธ์การทำธุรกิจในครั้งนี้และ KBANK ยังขยายไปยังธุรกิจดิจิทัลในประเทศควบคู่ไปด้วย


พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในวันนี้ (30 พฤษภาคม) ว่าบริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด (KVF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ธนาคารถือครองหุ้นทั้งหมด ได้เข้าทำสัญญาซื้อ-ขายหุ้นแบบมีเงื่อนไข เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในธนาคารเมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ในประเทศอินโดนีเซีย 

โดย KVF จะดำเนินการเข้าทำรายการภายใต้เงินลงทุนไม่เกิน 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่าประมาณ 7,556 ล้านบาท 

หลังจากธุรกรรมนี้ ธนาคารและ KVF จะเข้าถือหุ้นรวมกันเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 67.5% ทั้งนี้ การซื้อ-ขายหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้หลังได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2565

ธนาคารกสิกรไทย ได้ประกาศลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยนครั้งล่าสุด เมื่อ 11 เมษายน 2563 โดยธนาคารแมสเปี้ยนเป็นขนาดเล็กของอินโดนีเซีย โดยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมาเป็น 40% จากที่มีอยู่เดิม 9.99% นับตั้งแต่ปี 2560 โดยจะใช้เงินลงทุนรวมไม่เกิน 130 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,232 ล้านบาท

โดยการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยนนั้น ธนาคารกสิกรไทยดำเนินการผ่าน บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KVision) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ขณะการถือหุ้นสัดส่วน 40% นี้จะเป็นสัดส่วนสูงสุดที่สำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (OJK) อนุญาตภายใต้กฎการถือครองหุ้นธนาคารในอินโดนีเซียโดยผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารพาณิชย์

มุมมองของการลงทุนเพิ่มเติมในธนาคารแมสเปี้ยนในขณะนั้น ธนาคารกสิกรไทยมองว่าถือเป็นทางเลือกของการเข้าไปลงทุนที่คุ้มค่า ต่างจากการที่ต้องเข้าไปลงทุนเองใหม่ทั้งหมด แม้ว่าธนาคารแมสเปี้ยนยังเป็นธนาคารขนาดเล็ก แต่มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมครบทุกเมืองสำคัญ พร้อมเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งสามารถต่อยอดความสัมพันธ์ของธุรกิจหลากหลายในทุกกลุ่มลูกค้า

นอกจากนี้การลงทุนเพิ่มเติมในธนาคารที่ประเทศอินโดนีเซียแห่งนี้ ยังตรงกับกลยุทธ์การลงทุนแบบ Asset-Light รวมไปถึงการลงทุนพัฒนาดิจิทัล แบงกิ้ง ตามแนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในอินโดนีเซียที่จะทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น

การลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยนนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจากสำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปีนี้

ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทย มีแผนขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศมาระยะหนึ่งแล้วโเยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน 

โดยในปี 2560 KBANK ประกาศเข้าลงทุนในธนาคารเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลลอปเม้นท์แบงก์ หรือ A Bank สัดส่วน 35% ผ่านบริษัทลูก KVision เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจในพม่า

โดย A Bank มีสาขาทั้งหมด 18 แห่งตามเมืองใหญ่ของเมียนมา และยังเป็นธนาคารต่างชาติรายแรกที่ลงทุนในธนาคารพาณิชย์ของเมียนมา หลังจากในปี 2019 ที่ผ่านมาธนาคารแห่งชาติเมียนมาอนุญาตให้ต่างชาติสามารถลงทุนในธนาคารพาณิชย์ได้

A Bank ในขณะนั้นมีสินทรัพย์ 314 พันล้านจ๊าด หรือ 6.4 พันล้านบาท มีทุนจดทะเบียน 40 พันล้านจ๊าด หรือ 820 ล้านบาท โดยก่อตั้งเมื่อปี 2557

KBANK Q1/65 กำไรเพิ่ม 13.23%

สำหรับผลประกอบการของ KBANK ในไตรมาสแรก 2565 ซึ่งได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยระบุธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 11,211 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจานวน 1,310 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.23 

ส่วนใหญ่เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 951 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.09 ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ขณะที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 2,861 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.40 

ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับมูลค่ายุติธรรม (Mark to Market) ของสินทรัพย์ทางการเงินซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด และรายได้สุทธิจากจากการรับ ประกันภัยที่ลดลง สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลงจำนวน 3,088 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.08 

ราคหุ้น KBANK ปิดตลาดรอบเช้าวันที่ 30 พ.ค.65 อยู่ที่ 148 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท +1.02%

ติดต่อโฆษณา!