รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 7 ตอน กลยุทธ์ลงทุนสไตล์ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล

Highlight

ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคลที่มากประสบการณ์กว่า 10 ปี จะมาแชร์ประสบการณ์ เจาะลึกเรื่อง “กองทุนส่วนบุคคล” ความแตกต่างระหว่างกองทุนส่วนบุคคล กับกองทุนรวม และอะไรคือตัวชี้วัดสำคัญสำหรับการลงทุนรูปแบบนี้

คุณ พิกุล พิทยาอิสรกุล ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย)
มีประสบการณ์ในด้านการเป็นที่ปรึกษา เกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจต่างๆ มาก่อน และทำงานเป็นผู้จัดการกองทุน มากกว่า 10 ปี
จะมาเล่าถึงสไตล์ของ “ผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล” ความท้าทายของธุรกิจและอาชีพนี้
งานหลักๆ ของผู้จัดการกองทุน คือ การคิด วิเคราะห์ข้อมูลทั้งความเป็นไปในภาพรวม เศรษฐกิจภาพใหญ่ หรือตัวธุรกิจเอง
การเข้าใจ และอ่านเกมส์ Business Model ของบริษัทต่างๆ รวมถึงความสามารถในการแข่งขัน โอกาสในการเติบของธุรกิจที่เราตั้งใจจะลงทุนอยู่ที่ไหน
แล้วนำปัจจัยต่างๆ มาวิเคราะห์ว่ามีผลดี ผลเสีย และโอกาสในการลงทุนอย่างไรและอีกส่วนที่สำคัญสำหรับการลงทุน คือ เรื่องจิตใจที่ต้องนิ่งมากพอ เพื่อหาโอกาสในการลงทุน

🔹 “กองทุนส่วนบุคคล” ต่างจาก “กองทุนรวม” อย่างไร?
– กองทุนส่วนบุคคล “ไม่ใช่” การนำเงินของลูกค้าทุกรายมารวมกันเหมือนกับกองทุนรวม

– ลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล จะมีพอร์ตเป็นของตัวเอง เรียกว่า ‘Segregated Portfolio’

– กองทุนส่วนบุคคลของหลักทรัพย์ฟิลลิป เน้นการลงทุนในหุ้นเป็นหลัก เริ่มต้นลงทุนเพียง 1 ล้านบาท !!
ให้นักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยง และลงทุนในระยะยาวได้ เพื่อให้ทาง Phillip บริหารการลงทุนให้

– ลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล จะมีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นโดยตรงและสามารถตรวจสอบพอร์ตได้

– อีกจุดเด่นของกองทุนส่วนบุคคล คือ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการกองทุน มากกว่ากองทุนรวม
สำหรับกองทุนรวม อาจจะมีนักลงทุนบางส่วน ยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในตลาด มีกฎระเบียบค่อนข้างเข้มงวดให้ผู้จัดการกองทุนต้องบริหารจัดการตามกฎระเบียบ

กองทุนส่วนบุคคลเริ่มต้นลงทุนด้วยจำนวนเงินที่สูงกว่ากองทุนรวม ที่ 1 ล้านบาท ทาง ก.ล.ต. เห็นว่านักลงทุนที่มีกำลังทรัพย์มากกว่า น่าจะเป็นบุคคลที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดหรือการลงทุนมากกว่า จึงให้ความคล่องตัวกับผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล ในการบริหารจัดการกองทุน มากกว่ากองทุนรวมทั่วไป

🔹เป้าหมายสำคัญของกองทุนส่วนบุคคล
สิ่งสำคัญ คือ การวัดผล เป้าหมายการลงทุนกองทุนส่วนบุคคลของ Phillip เรียกว่า “Absolute Return Target” คือ แสวงหาผลกำไรให้กับนักลงทุน ไม่ใช่เพียงการวัดผลกับดัชนีชี้วัด

การรายงานผลของกองทุนรวม มักจะบอกถึง ผลประกอบการแต่ละไตรมาสเป็นอย่างไร มีผลชนะหรือแพ้กับดัชนีชี้วัดถ้าเป็นกองหุ้นไทย คือ SET Index


การทำงานของกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม มีความคล้ายคลึงกัน คือ วิเคราะห์หาหุ้นที่ลงทุนได้ และสร้างกำไร แต่กองทุนส่วนบุคคลไม่ใช่แค่ชนะ SET index แต่เป็นการหาวิธีทำให้นักลงทุนมีกำไรมากกว่า

งานผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล ถือเป็นงานที่หนักแต่สนุก เพราะได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา จากประสบการณ์ของคุณพิกุลบนเส้นทางผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล
เพราะการที่เราลงทุนเชิง Fundamental ต้องติดตาม และสนทนากับผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนตลอดเวลา ได้ทำความเข้าใจและรู้จักผู้บริหารที่เก่ง มี Business Model ที่ดี ติดตามพัฒนาการของบริษัทนั้นๆ เราก็คิด วิเคราะห์ว่าการเปลี่ยนแปลงของทั่วโลก จะมีผลกระทบกับบริษัทเหล่านั้นอย่างไรบ้าง

การที่เราติดตามแบบนี้ จะรู้ว่าสิ่งที่วิเคราะห์ถูกหรือผิด ถ้าถูกต้องก็สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุน แต่ถ้าผิดทาง ต้องรีบขายทำกำไรออก หรือตัดขาดทุนออก ถ้าเราทำได้ดี ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนที่ไว้วางใจเราได้


🔹 ถึงจังหวะที่น่าลงทุน?
เรามองว่า “วิกฤต คือ โอกาส” เพราะช่วงตลาดวิกฤตราคาหุ้นจะปรับลดลงจากความกลัวของนักลงทุน ทำให้มีโอกาสซื้อหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ในราคาที่ถูกลง เวลาเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน จะมีทั้งผลดีและผลเสีย เปรียบเหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน

ส่วนหนึ่งที่เราทำได้ดี เพราะทีมงาน Phillip มีประสบการณ์ในการลงทุนมายาวนาน
ปัจจุบัน Phillip มีทีมผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล 5 ท่าน ซึ่งประสบการณ์ในการบริหารจัดการลงทุนรวมกันมากกว่า 30 ปี ด้วยประสบการณ์กับหุ้นหลายตัวในตลาด พอเกิดสถานการณ์ต่างๆ สามารถ Take Action ได้เร็ว

🔹 ความท้าท้ายของการเป็นผู้จัดการกองทุนส่วนบุคคล

☑️เข้าใจการเปลี่ยนแปลงว่ามีผลกระทบกับธุรกิจ หรือการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างไรบ้าง
☑️มีสติกับสถานการณ์ต่างๆ ในตลาด ต้องอาศัยประสบการณ์จากการที่เราเห็นสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น

นักลงทุนย่อมคาดหวังผลกำไร แต่เราจะจะชี้แจงชัดเจนว่า กองทุนส่วนบุคคล Phillip ลงทุนในหุ้น มีความเสี่ยงสูง เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาวในระยะสั้นอาจมีผันผวนบ้าง แต่ถ้านักลงทุนเข้าใจ และสามารถลงทุนในระยะยาวได้ หุ้นจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า


กองทุนส่วนบุคคล Phillip เน้นการลงทุนในหุ้นไทย และหุ้นเวียดนาม เพราะมองว่าเศรษฐกิจของเวียดนามมีโอกาสเติบโตเหมือนเศรษฐกิจไทย เมื่อ 10-15 ปีที่ผ่านมา เรามองเห็นโอกาสในระยะยาวที่ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเช่นกัน


🔵ข้อดีของตลาดหุ้นไทย (ที่ซ่อนอยู่)
นักลงทุนบางท่าน อาจมองว่าวิกฤตที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ดี เติบโตช้า การเกิดวิกฤตในรอบที่ผ่านมา หลายบริษัทราคาหุ้นตกลงไปมากกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็น แต่บางบริษัทก็ได้รับผลประโยชน์จากวิกฤตรอบนี้

ราคาพลังงานลงไปมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตของหลายบริษัทลดลง แต่มีบางบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์

เทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้

ภาพรวมเชิง Macro ยังอาจไม่ฟื้นตัวเท่าไหร่ ถ้าเราคิด วิเคราะห์ จะสามารถหาประโยชน์ หาช่องว่างในตลาดหุ้นไทยได้
กองทุนส่วนบุคคลของ Phillip เน้นการลงทุนในหุ้น จะเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ซึ่งนักลงทุนที่จัดพอร์ต และสามารถแบ่งส่วนที่รับความเสี่ยงได้มาลงทุนในหุ้นไทยหรือหุ้นเวียดนาม การลงทุนระยะยาวของเรา คือ 2-5 ปี

สนใจกองทุนส่วนบุคคลของ บล. ฟิลลิป โทร. 02-635-1718