รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 6 ตอน 3 กูรู แนะสูตรสร้างพอร์ตแกร่ง ให้รวยก่อนแก่ | SET

Highlight

• สินทรัพย์ ที่ยังน่าลงทุน คือ “หุ้น” แต่จะมีสัดส่วนในพอร์ตเท่าไหร่ นั้น ขึ้นอยู่กับ ความเสี่ยงที่รับได้
• “ทองคำ” เรียกว่าเป็น “พระเอก” สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก ขณะที่น้ำมัน และพลังงาน ไม่น่าลงทุน
• การออม ลงทุน มองว่าเป็นเรื่อง 3 D : Divide-Diversify-DCA (dollar-cost averaging)

เราขอนำเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เก็บตกกับงาน Set in the City 2019 เกี่ยวกับเงินในกระเป๋า และการลงทุน มาฝากทุกคน ในช่วงส่งท้ายปีแบบนี้

Q :หุ้นช่วงนี้ยังลงทุนแบบสบายใจได้ …จริงหรือ?
คำตอบ
คุณ พจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาหุ้น – เงินสด- ตราสารหนี้ – หุ้นต่างประเทศ- REITs อเมริกา
“REITs ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อเมริกา” ดีที่สุด
ให้ผลตอบแทนที่ระดับ 13% ตามมาด้วย หุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว (อเมริกา – ยุโรป – ญี่ปุ่น)

เรียกได้ว่า สินทรัพย์ที่ยังน่าลงทุน คือ “หุ้น” แต่จะมีสัดส่วนในพอร์ตเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับ งความเสี่ยงที่รับได้

ส่วนสินทรัพย์ทางเลือก ควรมีคู่พอร์ตลงทุนในยุคปัจจุบันแบบจริงจัง เพราะพิสูจน์มาแล้วว่าช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้เป็นอย่างดี “ทองคำ” เรียกว่าเป็น “พระเอก” สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก ขณะที่น้ำมัน และพลังงาน ไม่น่าลงทุน

Q: สัดส่วนพอร์ตลงทุนแบบไหน ..ที่แนะนำ?
คำตอบ
พอร์ตลงทุนที่ดี จากการทำการบ้านของ คุณพจน์
แห่ง บลจ. วรรณ
✔️ตราสารหนี้ 60%
✔️หุ้น 20%
✔️สินทรัพย์ทางเลือก 20%
ผลตอบแทนจากพอร์ตจำลอง อยู่ที่ 7% แต่ความผันผวนไม่มาก ถือเป็นพอร์ตแนะนำ จาก บลจ.วรรณ

กองทุนแนะนำ เช่น
⁃ ONEPROP-D เป็นกองทุนที่ไปลงทุน ในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีในตลาด ที่มีสภาพคล่องสูง ด้วยทิศทางดอกเบี้ยขาลง แม้ราคาจะเริ่มสูง แต่ยังน่าสนใจอยู่
⁃ Life Settlement Fund ตั้งมาประมาณ 5 ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 15.9% นับเป็นนวัตกรรม ที่นำเอาประกันชีวิต มาทำเป็นกองทุน ด้วยเครดิต ระดับ A+ ในกลุ่มบริษัทประกัน
⁃ ONE-SETHD เน้นลงทุนในปันผลสูง เพื่อลดการพึ่งพาผลตอบแทนจากราคาหุ้นในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน ถ้าเรามองว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ไปไหน อยู่แถว 1,600-1,700 จุด การหากองทุนที่จ่ายปันผลสูง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
===========

Q: จัดพอร์ตลงทุนแบบไหน…ที่ฝ่าได้ทุกสถานการณ์ ในมุมมองของคุณ อุมาพันธุ์ เจริญยิ่ง รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต หรือ (MTL)
คำตอบ
การกระจายพอร์ตลงทุนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน
สำหรับระดับความเสี่ยงต่ำ ตราสารหนี้ 85% ที่เหลือ เป็นการผสมระหว่าง หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก การลงทุนต่างประเทศ

สำหรับระดับความเสี่ยงปานกลาง ค่อนข้างต่ำ ตราสารหนี้ 70% เป็นหลัก คาดหวังผลตอบแทนประมาณ 5%

สำหรับระดับความเสี่ยงปานกลาง เหมาะกับการลงทุนในรูปแบบประกัน Unit Linked คาดหวังผลตอบแทนประมาณ 6% ให้น้ำหนักตราสารหนี้ 60% หุ้นไทย 10% หุ้นต่างประเทศ 20% ส่วนที่เหลือเป็น ทองคำ และ กองทุนอสังหาริมทรัพย์

ส่วนเสี่ยงสูง ตราสารหนี้ 40% และสินทรัพย์เสี่ยง60%
เรื่องของการออม ลงทุน มองว่าเป็นเรื่อง 3 D
⁃ Divide แบ่งสัดส่วนเงิน ใช้จ่าย ลงทุนในเป้าหมาย
⁃ Diversify วิกฤตเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่เศรษฐกิจชะลอแน่ กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ ช่วยลดความผันผวน
⁃ DCA (dollar-cost averaging) ทยอยลงทุน ด้วยการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ด้วยการลงทุนแบบอัตโนมัติไปเรื่อยๆ ถ้าประกัน คือการจ่ายเบี้ยรายงวด ในการลงทุน Unit Linked ก็ได้ ถือเป็น DCA เช่นกัน
ปัจจุบัน Unit Linked สามารถเพิ่มเรื่องสุขภาพได้ ด้วยการผูกกับสัญญาหลัก
ให้ประกันชีวิต ช่วย Wealth และ Health Protection

Q: เทคนิค … เวลาหุ้นตก ทำอย่างไร?
การลงทุน เราต้องติดตามตลอดเวลาที่เจอหุ้นตก คุณ อุมาพันธุ์ฝากคาถา 3 ถ. ยุคการลงทุนผันผวน
“ถือต่อไป” – “ ถัว” ซื้อเพิ่ม – “ถอย” ขายตัดขาดทุน
==============

Q: สถานการณ์แบบนี้ …เริ่มลงทุนไหวมั้ย?
คำตอบ
จากข้อมูล IMF ปีหน้า (2563) GDP น่าจะยังดีอยู่เพียงแต่ไม่ได้ดีทุกประเทศ
ปัญหาจริงๆ คือ ภาคการผลิต ขณะที่ภาคบริการ และการบริโภค ยังดีอยู่ จาก
Recession ในปี 2563 … โอกาสเกิดน้อย ในมุมมองของ คุณ สานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาบริหารเงินลงทุน บมจ. หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย)

Q: ถ้าจะเริ่มลงทุน..ออมหุ้นไทย น่าสนใจหรือไม่?
คำตอบ “หุ้นไทย” ราคาตอนนี้อยู่ระดับกลางๆ (ไม่ถูก ไม่แพง) แนะนำลงทุนแบบ DCA ในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า โอกาสที่จะเห็นหุ้นไทยกลับมาบวก ด้วยความหวังจากการลงทุนภาครัฐ ต้องเร็ว และชัดเจน

โลกธุรกิจปัจจุบัน ไม่ได้พูดว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
แต่กลายเป็น “ปลาเร็วกินปลาช้า” การลงทุน ก็เช่นกัน…