30 มีนาคม 2565
1,699

ตลาดหุ้นไทยพุ่งแตะ 1,700 จุด รับข่าวเจรจาสันติภาพคืบหน้า

ตลาดหุ้นไทยพุ่งแตะ 1,700 จุด รับข่าวเจรจาสันติภาพคืบหน้า
Highlight

ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า โดยมีรายงานว่ารัสเซียจะลดปฎิบัติทางทหารรอบกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนลง เพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพรอบใหม่ ราคาทอง น้ำมัน ลดลง นักวิเคราะห์คาดว่าหุ้น GPSC BGRIM SCGP SCC EPG ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลง


ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (30 มี.ค.) ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,700 จุด สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า หลังมีการรายงานว่ารัสเซียจะลดปฎิบัติทางทหารรอบกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนลง เพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพรอบใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจหันมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ราคาทองคำเริ่มปรับลดลง รวมทั้งราคาน้ำมันที่ลดลงเช่นกัน แต่ยังคงทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางด้านอุปทาน นอกจากนี้คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% และเตรียมปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจลง

บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกแบะหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น ตอบรับความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน โดยรัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหารลงเพื่อเอื้อต่อการเจรจาครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจะกดดันต่อกลุ่มพลังงาน
 
และในวันนี้วันนี้ (30 มี.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% รวมทั้งการแถลงทิศทางเศรษฐกิจไทย 

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นแรงรับข่าวเจรจายูเครนรัสเซียออกมาในโทนบวก โดยดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 338 จุด (+0.97%) ปิดที่ระดับ 35,294 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3% รับข่าวรัสเซียเตรียมลดปฏิบัติการทางทหารในกรุงเคียฟ และพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ยูเครนพร้อมที่จะอยู่ในสถานะประเทศเป็นกลางและไม่อนุญาติให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในยูเครน
 
ประชุม กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่คาดว่าจะมีการลดคาดการณ์ GDP โดย บล. กรุงศรี คงมุมมองเดิมคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยที่พุ่งแตะระดับ 5.28% ในเดือน ก.พ. ยังไม่น่ากังวลเพราะส่วนใหญ่เป็นแรงผลักดันจากต้นทุนพลังงาน แต่อาจมี Negative surprise จากการปรับลดคาดการณ์ GDP

เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น (ในวันที่ 30 มี.ค.อยู่ที่ 33.5 บาท/ดอลลาร์) หลังจากต่างชาติกลับเข้ามาซื้อพันธบัตรไทยวานนี้ (29) มียอดซื้อสุทธิ 1,106 ล้านบาท

นอกจากนี้มีข่าวกระทรวงคลังพับแผนเก็บภาษีขายหุ้นในปีนี้ จากผลกระทบสถานการณ์ยูเครน-เศรษฐกิจ-การระบาดของ Covid-19 ข่าวนี้จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • GPSC BGRIM SCGP SCC EPG รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง
     
  • KCE HANA SVI BBIK BE8 ADD ได้ sentiment บวกจากหุ้นกลุ่มเทคฯฟื้นตัวขึ้นแรง
     
  • AOT AAV BA MINT CENTEL ERW BH BDMS อานิสงส์ผ่อนคลายมาตรการ Covid-19
     

20220330-a-01.jpg

YLG ชี้ทองคำลด เงินไหลเข้าตลาดหุ้น แนวโน้มสงครามผ่อนคลาย

 
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG) ประเมินราคาทองคำ วันที่ 30 มีนาคม 2565 ว่า ราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,907-1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ หากวันนี้ราคามีการยกระดับต่ำสุดขึ้น ราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,932-1,948 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากยืนไม่ได้ ยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาเพิ่มเมื่อราคาปรับตัวขึ้น

โดย YLG แนะเปิดสถานะซื้อที่ 1,907-1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขายเพื่อทำกำไรที่ 1,932-1,948 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด 1,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 3.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางการแกว่งตัวที่ผันผวน โดยราคาทองคำดีดตัวขึ้นก่อนทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,929.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะปรับตัวลดลงแรง ท่ามกลางแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้าง 

หลังจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลของตุรกีดเมื่อวานนี้มีความคืบหน้ามากที่สุดนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายได้ เริ่มการเจรจาเป็นต้นมา โดยคณะเจรจาสันติภาพของยูเครนได้ยื่นข้อเสนอการมี “สถานะเป็นกลาง” ที่จะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับประเทศใด และยูเครนจะไม่ยินยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับประกันความมั่นคงของยูเครน 

ขณะที่รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร "ลงอย่างมาก" รอบกรุงเคียฟ รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk on) พร้อมกับกระตุ้นแรงขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จนทำให้ทองคำร่วงลงเกือบ 40 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับสูงสุดในระหว่างวัน แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,890.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์
 
อย่างไรก็ดีราคาทองคำฟื้นตัวลดช่วงบวกในเวลาต่อมา เนื่องจากดัชนีดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยถูกเทขายออกมาเช่นกัน ประกอบมีแรงซื้อ Buy the dip เข้ามาใสตลาดทองคำ หลังจากราคาอยู่ในภาวะขายมากเกินไป (Oversold) จึงช่วย หนุนให้ราคาทองคำฟื้นลดช่วงติดลบในช่วงปลายตลาด 

ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -1.74 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามมติอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย คาดคงดอกเบี้ยตามเดิม พร้อมติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน มี.ค.จาก ADP และประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพี ไตรมาส 4/2021 ของสหรัฐ

20220330-a-02.jpg

น้ำมันดิบราคาลดลง แต่อุปทานตึงตัว 

น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.7 ดอลลาร์ คลายกังวลสงครามยูเครน : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 1.72 ดอลลาร์ (-1.6%) ปิดที่ 104.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนคลายกังวลสงครามในยูเครนหลังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครนออกมาในโทนบวกนอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวจีนล็อกดาวน์เชี่ยงไฮ้ส่งผลให้อุปสงส์น้ำมันลดลง

  • ราคาน้ามันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดหลังการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนจัดขึ้นที่ประเทศตุรกีที่ผ่านมาส่งสัญญาณคืบหน้ามากขึ้น โดยรัสเซียยอมถอยกองกำลังทหารจำนวนมากออกจากเมือง Kiyv และเมืองอื่นๆ ขณะที่ยูเครนประกาศพร้อมมี "สถานะเป็นกลาง" มากขึ้น

  • ภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีนยังคงกดดันตลาด หลังจากจีนประกาศล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีประชากรราว 26 ล้านคนเป็นระยะเวลา 9 วัน ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและปริมาณการใช้น้ามันในประเทศปรับตัวลดลง

หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ 25 มี.ค.65 ปรับลดลงกว่า 3.0 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงที่ 1.4 ล้านบาร์เรลสำหรับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงที่ 0.22 ล้านบาร์เรล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ว่า ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในวันพุธ โดยหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน และให้การเตือนว่าการผลิตใหม่ยังคงตึงตัว เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับสูงสุดที่ 112.78 ดอลลาร์ หลังจากเปิดได้ไม่นานและเพิ่มขึ้น 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ที่ 111.58 ดอลลาร์ (00.05 GMT) พลิกกลับขาดทุน 2% ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.2% สู่ 105.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.6% ในวันอังคาร

แหล่งข่าวของตลาดระบุว่า จุดสนใจหันไปสู่ความตึงตัวของการผลิต หลังจากที่กลุ่มอุตสาหกรรมสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริการายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 มีนาคม นั่นเป็นการลดลง 3 เท่าโดยเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ 10 คนที่สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ไว้

ตลาดร่วงลงประมาณ 2% ในช่วงก่อนหน้านี้ หลังจากที่รัสเซียให้คำมั่นว่าจะลดขนาดปฏิบัติการทางทหารรอบๆ เมืองเคียฟ และเมืองอื่นๆ มากกว่าหนึ่งเดือน หลังจากการบุกโจมตียูเครนที่รัสเซียเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" 

อย่างไรก็ตามรายงานการโจมตียังคงดำเนินต่อไป และแม้ว่าโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน จะกล่าวว่ามีสัญญาณที่มีแนวโน้มดีจากการเจรจาสันติภาพที่จัดขึ้นในอิสตันบูลเมื่อวันอังคาร แต่เขากำลังมองหาผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม  

“เราสามารถพูดได้ว่าสัญญาณที่เราได้รับจากการเจรจานั้นเป็นไปในทางบวก แต่พวกเขาไม่ได้กลบการระเบิดของกระสุนรัสเซีย” เซเลนสกีกล่าวในการปราศรัยช่วงดึก  

Tobin Gorey นักวิเคราะห์ของ Commonwealth Bank กล่าวในหมายเหตุว่า "การฟื้นตัวของราคาชี้ให้เห็นว่าตลาดน้ำมันอย่างน้อยมีความสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความคืบหน้าใดๆ"

ความคืบหน้าเจรจาสันติภาพ

สำนักข่าวทาสส์ของทางการรัสเซียรายงานโดยอ้างกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร “ลงอย่างมาก” รอบกรุงเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครน รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ

ทั้งนี้ นายอเล็กซานเดอร์ โฟมิน รัฐมนตรีช่วยกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียประกาศลดปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวเพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ นายโฟมินยังเปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กรุงอิสตันบูลในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายประสบความคืบหน้าอย่างมากในการจัดทำสนธิสัญญาเกี่ยวกับสถานะเป็นกลางและปลอดอาวุธนิวเคลียร์ของยูเครน รวมทั้งการรับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครน

ติดต่อโฆษณา!