18 มีนาคม 2565
2,048

ราคาน้ำมัน-ทองคำ กลับมาพุ่งใหม่ สงครามไม่จบ เงินเฟ้อยังสูง

ราคาน้ำมัน-ทองคำ กลับมาพุ่งใหม่ สงครามไม่จบ เงินเฟ้อยังสูง
Highlight

ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล  อีกครั้ง สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ภาวะอุปทานน้ำมันดิบของโลกตึงตัวมากๆ ดันเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับสูง และส่งผลให้ราคาทองคำยังคงสูงกว่า 1,900 เหรียญต่อออนซ์


บล.กรุงศรี วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันที่ยังคงพุ่งเหนือระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรลว่า 
การเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มดีแต่ยังไม่ชัดเจนนัก ยังเป็นปัจจัยกดดันส่งให้ราคาน้ำมันยืนเหนือ 100 เหรียญต่อบาร์เรลประกอบกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่างๆรวมกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป 

การเจรจาสันติภาพระหว่างคู่ขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนจะจบแบบสันติ หรือบานปลายจนประเทศอื่นๆ จะเข้าร่วมรบหรือไม่ ยังไม่มีความชัดเจน การเจรจาที่ดูเหมือนจะตกลงกันไม่ได้ จากเงื่อนไขที่แต่ละฝั่งที่ไม่อาจยอมรับ 

ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% พร้อมมั่นใจเผยภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ธนาคารกลางยุโรปหลายแห่งอาจปรับดอกเบี้ยตาม เช่น ธนาคารกลางของอังกฤษ หรือ BOE 
 
ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวดับตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดโลก ประกอบกับเป็นช่วงที่การประกาศผลประกอบการผ่านไป ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นจากการเก็งกำไรอาจยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุน
 
ด้านตลาดหุ้นดาวโจนส์บวกแรงเป็นวันที่ 3 รับข่าวรัสเซียรอดพ้นภาระผิดนัดชำระหนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 418 จุด (+1.23%) ปิดที่ระดับ 34,481 จุด รับข่าวรัสเซียได้ชำระดอกเบี้ยพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์จำนวน 2 ฉบับ วงเงินรวม 117 ล้านดอลลาร์ซึ่งช่วยให้รัสเซียรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ เพราะเดิมตลาดคาดว่าการออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะทำให้รัสเซียตอบโต้ด้วยการผิดนัดชำระหนี้
 
น้ำมันดิบพุ่ง 7.94 ดอลลาร์ IEA เตือนน้ำมันดิบทั่วโลกจะเริ่มตึงตัวในเดือน เม.ย. ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 7.94 ดอลลาร์ (+8.35%) ปิดที่ระดับ 102.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันและผลิตภัณฑ์ต่างๆรวมกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ภาวะอุปทานน้ำมันดิบของโลกตึงตัวมากๆ
 
BoE ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ส่วนวันนี้ BoJ Meeting คาดคงดอกเบี้ยตามเดิม เมื่อคืนนี้คณะกรรมการนโยบายการเงินอังกฤษ  (BoE) มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.75% ตามที่ตลาดคาดไว้ ส่วนคณะกรรมการนโยบายการเงินของญี่ปุ่น(BoJ) จะมีการประชุมในวันนี้เราคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% ตามเดิม
 
บล.กรุงศรีแนะนำซื้อสะสม  หุ้น PTTEP PTT TOP  SPRC BCP รับข่าวบวกราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น + ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง และ KBANK BBL TTB KTB  ได้รับอานิสงส์ผลตอบแทนพันธบัตร (US bond yield) ดีดตัวขึ้น และแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น นอกจากนี้ยังมีหุ้น AOT AAV MINT CENTEL ERW BH BDMS อานิสงส์มาตรการหนุนนักท่องเที่ยว 

20220318-a-01.jpg
 
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลัง IEA รายงานอุปทานน้ำมันมีแนวโน้มขาดแคลน

วันที่ 18 มีนาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังหลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานว่า อุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียจะลดลงกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนหน้า ซึ่งลดลงมากกว่าตัวเลขความต้องการใช้น้ำมันที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน 

เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ซึ่งสำนักงานพลังงานสากลคาดว่าแคนาดาสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ จะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิต เพื่อขจัดภาวะขาดแคลนนี้ ส่งผลให้ทั่วโลกจะขาดแคลนอุปทาน 700,000 บาร์เรลต่อวันในไตรมาสที่สอง

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานกำลังการผลิตของโรงกลั่นในสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 224,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 1.1% ทำให้กำลังการผลิตโดยรวมของโรงกลั่นในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 90.4% เพื่อรองรับอุปสงค์ที่จะเพิ่มสูงขึ้นในฤดูการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน
ตลาดยังได้รับแรงหนุน หลังจีนกล่าวว่าจะใช้นโยบายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในจีนลดลง ส่งผลให้มีการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้โรงงานต่าง ๆ เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้ง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ปรับลดลงจากการลดการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีน อีกทั้งน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐปรับลดลง 3.61 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่สูงขึ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากน้ำมันดีเซลคงคลังญี่ปุ่น ที่ปรับลดลง 8.1% แตะระดับ 7.84 ล้านบาร์เรล

20220318-a-02.jpg

ทิศทางราคาทองคํา

MTS Gold แม่ทองสุก รายงานราคาทองคําในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ราคาปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลดลงในช่วงแรกก่อนการประกาศปรับขึ้น ดอกเบี้ยของเฟดในคืนวันก่อน โดยราคาทองคําลงมาทดสอบแถวบริเวณ 1,900 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาแถวบริเวณ1,950เหรียญอีกครั้งในเมื่อวานนี้

ท่ามกลางตลาดเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่สภาวะการตึงตัวของน้ํามัน และความตึงเครียดในยูเครนยังคงอยู่ ด้านกองทุนทองคํา SPDR ซื้อเข้า 2.91 ตัน ปัจจุบันถือ ครองที่ 1,073.44 ตัน 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาค่อนข้างดี ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 214,000 ราย ลดลงต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 220,000 ราย ถือว่ามีการจ้างงานได้สูงในรอบหลายปี 

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ดูไม่ตอบรับกับ การขึ้นดอกเบี้ยเท่าไรนัก โดยมีบางช่วงดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 97.73 จุด และ ค่อยดีดตัวขึ้นมาทรงตัวที่ระดับ 98 จุด ทั้งที่จากการปรับข้ึนดอกเบี้ยของเฟดโดยทั่วไปน่าจะทําให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่า

แต่อาจจะเกิดจากการท่ีตลาดรับข่าวไปแล้วก่อนหน้า และสภาวะ สภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงสูงอยู่เช้านี้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาที่33.33บาท/ดอลลาร์ภาพรวมค่า เงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าลง

ราคาทองคํากลับมายืนทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น และระยะกลางที่บริเวณ 1,950 เหรียญ โดยมี Technical Rebound หลังจากลงไปทดสอบเส้น Fibonacci 61 % เมื่อวันก่อน วันน้ีคาดว่าราคาทองคําจะมีการเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับที่ 1,920 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,960 เหรียญ 

สําหรับ Gold Comex และ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,920 เหรียญ และแนวต้าน 1,960 เหรียญ ด้านราคาทองคําไทยน่าจะเปิดปรับเพิ่มขึ้น +100 บาท/บาททองคํา 

สําหรับ Gold Futures Series J22 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,480 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,800 บาท โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคําและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้นการวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ติดต่อโฆษณา!