07 กุมภาพันธ์ 2565
9,790

รู้จัก LiVE Exchange แพลตฟอร์มรองรับการระดมทุน SME, Startup ก.ล.ต.เคาะเกณฑ์-ข้อบังคับ มีผลบังคับใช้ไตรมาส 1/65

รู้จัก LiVE  Exchange แพลตฟอร์มรองรับการระดมทุน SME, Startup ก.ล.ต.เคาะเกณฑ์-ข้อบังคับ มีผลบังคับใช้ไตรมาส 1/65
Highlight

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกิจการ SME-Startup ผ่านแพลตฟอร์ม “LiVE Exchange” คาดว่าข้อบังคับและหลักเกณฑ์จะมีผลใช้บังคับภายในไตรมาส 1 ปี 2565 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ SME และ Startup ของไทย


นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อ 5 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนในตลาดทุนของกิจการที่อยู่ในชั้นกำลังพัฒนา เช่น วิสาหกิจขนาดกลาง (SME) หรือวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) 

ซึ่งหลักเกณฑ์การระดมทุนดังกล่าวมีลักษณะที่ผ่อนปรน และไม่เป็นภาระกับกิจการมากเกินไป เช่น ไม่ต้องยื่นคำขออนุญาต ไม่กำหนดให้มีที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 โดยเปิดช่องให้สามารถเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนเป็นการทั่วไป (IPO) และสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดรองแห่งใหม่ที่เรียกว่า “ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์” ซึ่งเป็น Trading platform

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ ข้อบังคับ และประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ LiVE Exchange (ตลาดหลักทรัพย์ ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์) ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ต่อเนื่องจากหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนของ ก.ล.ต. และเป็นหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการรับเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและการซื้อขายหลักทรัพย์ใน LiVE Exchange 

โดยมีลักษณะผ่อนปรนหลักเกณฑ์ทั้งในเรื่องคุณสมบัติการเข้าจดทะเบียนและดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน โดยเน้นหลักการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุน และอัตราค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนจะต่ำกว่ากรณีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ด้านหลักเกณฑ์ในการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างไปจาก mai และ SET โดยมีการเปิดให้ซื้อขายวันละหนึ่งรอบ และผู้ลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์การลงทุน มีประสบการณ์และมีสินทรัพย์สูงในระดับที่สามารถรับความเสี่ยงได้ สอดคล้องกับสภาวการณ์ซื้อขายหุ้นของ SME และ Startup ทั้งนี้ คาดว่าข้อบังคับและหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับภายในไตรมาส 1 ปี 2565 เป็นต้นไป

รู้จัก LiVE Platform ..คืออะไร

LiVE Platform คือ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ยุคใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การระดมทุนผ่านกลไกตลาดทุน พร้อมปูพื้นฐานสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งทำงานผ่านระบบเครือข่าย อิเลคทรอนิคส์เพื่อการระดมทุน และการซื้อขายหลักทรัพย์

ทำหน้าที่เสมือนเป็นตลาดกลางระหว่างแหล่งทุน กับผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก รวมไปถึงสตาร์ทอัพ เพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมถึงช่วยลดข้อจำกัดในการระดมทุน เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำเงินทุนไปขยายธุรกิจของตนเองได้ 

ทั้งยังเป็นตัวกลางให้กับนักลงทุนที่มองหาธุรกิจที่มีนวัตกรรมและการเติบโตสูง ช่วยให้เกิดสภาพคล่อง มีทางเลือกในการจัดการเงินลงทุน ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับนักลงทุนที่มีความสนใจ ในธุรกิจขนาดเล็กแต่มีศักยภาพที่น่าลงทุนในอนาคต

20210207-a-01.jpg

LiVE Exchange แตกต่างจาก SET และ Mai อย่างไร

LiVE Exchange นั้นจะมีความแตกต่างจาก SET และ mai ตรงที่ LiVE Exchange เป็นตลาดทุนใหม่ สำหรับการระดมทุนและการซื้อขายแลกเปลี่ยน ที่สร้างมาเพื่อ SME และ Startups (SME Board) โดยปรับลดการกำหนดคุณสมบัติในการเข้าจดทะเบียน ให้เหมาะกับขนาดธุรกิจ ไม่มีการกระจายหุ้นวงกว้างในลักษณะที่เป็นบริษัทมหาชน

เป็นเพียงการระดมทุนจากนักลงทุนเฉพาะกลุ่มที่มีความรู้ ความเข้าใจความเสี่ยงในการลงทุนของธุรกิจ Startup และ SME การซื้อขายจะเป็นแบบเจรจาต่อรองกันเอง โดยมี LiVE Platform เป็นตัวกลางระหว่างแหล่งทุนและบริษัทที่มีความน่าสนใจ ซึ่งจะไม่มีการจับคู่ซื้อขายแบบอัตโนมัติ เหมือน SET และ mai นั่นเอง

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Mai) กล่าวว่า จุดเด่นของ LiVE Exchange อยู่ที่รองรับการลงทุนแบบ Equity Crowdfunding สำหรับการลงทุนรายโครงการ เหมาะกับบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังไม่มีประวัติผลประกอบการ ยังไม่มีกำไร หรือ track record หรือ Startup Series A และ LiVE ETP (Electronic Trading Platform) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นแบบ OTC โดยเหมาะกับบริษัทที่กำลังขยายการเติบโตหรือ Startup Series B เป็นต้นไป ก่อนจะเข้าสู่การ IPO

จุดแข็งสำคัญของ LiVE Platform

จุดแข็งสำคัญของ LiVE Platform ระดมทุน คือมีระบบยืนยันความน่าเชื่อถือของทั้งนักลงทุนและ Startup กับ SME ตามเงื่อนไขของ ก.ล.ต. ทั้งยังสามารถใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อหาผู้ลงทุนหรือบริษัทที่สนใจจะลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น 

การเข้าร่วม LiVE Platform จะช่วยเพิ่ม Connection และความน่าเชื่อถือในฐานะบริษัทที่มี Profile ในตลาด ด้วยมาตรฐานของ LiVE ทั้งยังช่วยบ่มเพาะ Startup และ SME ให้พร้อมก้าวสู่การ IPO ในอนาคต ด้วยหลักสูตรที่เปิดให้ศึกษาได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

LiVE Platform จะช่วยส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดเล็ก ทั้ง SMEs/Startups ที่มีศักยภาพเพื่อให้พร้อมเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีขั้นตอนในการปูพื้นฐานไล่ไปตามลำดับขั้น 3 ชั้นด้วยกัน ประกอบด้วย Education Platform , Scaling Up Platform , และขั้นสุดท้ายคือ Fundraising & Trading Platform

20210207-a-03.jpg

Scaling Up Platform ในส่วนนี้จะเริ่มเป็นหลักสูตรอบรมเชิงลึก (Advanced Education) ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ เพื่อเสริมสร้างทักษะการจัดการองค์กรที่เป็นพื้นฐานสำคัญในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านบัญชี ด้านภาษี ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน และการจัดการทรัพยากรบุคคล ซึ่งนับว่าเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ โดยผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแวดวงตลาดหลักทรัพย์โดยเฉพาะ

รวมไปถึงให้ข้อมูลเอกสารแบบฟอร์มที่สำคัญในทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสะดวก และราบรื่นมากยิ่งขึ้น เพื่อใช้เป็นตัวอย่างการจัดทำเอกสารที่จำเป็นประกอบการทำธุรกิจที่สำคัญ

และการปูทางไปสู่ความร่วมมือกับพันธมิตรให้บริการ Enterprise System เช่น การจัดการด้านบัญชี ด้านการเงิน ด้านภาษี เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการใช้งานระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น

โดยในขั้นตอนนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคัดเลือกบริษัทที่มีความตั้งใจและมีความพร้อมในการเตรียมตัวระดมทุนในตลาดทุน โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายการลงระบบ Enterprise System ที่เหมาะสมกับบริษัทให้ใน 1-3 ปีแรก

หากบริษัทใดเข้าร่วมโครงการ และสามารถผ่านหลักสูตรได้ จะได้รับเงินสนับสนุน 1.5 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการบริหารจัดการ ให้สามารถเข้าสู่การระดมทุนในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ขั้นตอนสุดท้ายสุดท้ายคือ Fundraising & Trading Platform เพื่อการระดมทุนผ่านตลาดทุน ทั้งตลาดแรกและตลาดรอง ซึ่งเมื่อผ่านด่านทั้งหมดที่ LiVE Platform วางหลักเกณฑ์ไว้แล้ว ก็จะได้เข้าสู่ตลาดแหล่งทุนในที่สุดนั่นเอง

โดยจะเปิดโอกาสให้ธุรกิจ Startup , SMEs นำเสนอธุรกิจของตนเองแบบออนไลน์ (Virtual Pitching) เพื่อโปรโมทธุรกิจไปยังกลุ่มผู้ลงทุนและบริษัทที่กำลังมองหาพันธมิตรในการขยายธุรกิจ ซึ่งในส่วนนี้ นักลงทุนที่สนใจ จะสามารถเข้ามาค้นหาข้อมูลธุรกิจของ Startups, SMEs ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้สู่สาธารณะ เข้าถึงกลุ่มผู้ลงทุนที่สนใจในธุรกิจของเราได้ตรงความต้องการของแหล่งทุน

LiVE Platform ในส่วน Education Platform เปิดให้ทุกคนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ได้ฟรี แต่เมื่อขยับเป็น Scaling up Platform จะต้องมีการสมัครและได้รับการคัดเลือก โดยต้องเป็นบริษัทต้องแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ต้องการขยายธุรกิจ รวมทั้งยกระดับเป็นการระดมทุนผ่านตลาดทุนใหม่ ตามโครงการ LiVE Exchange

นอกจากนี้การอบรม และการทดสอบความรู้ในส่วนของขั้น LiVE Acceleration Program จะต้องเรียนรู้การทำแผนธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การระดมทุนอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกบริษัทสามารถมีผู้ร่วมทุน หรือ เข้าสู่กระบวนการยื่นขอเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ได้จริง

20210207-a-03.jpg

ใครลงทุนได้บ้าง 

อย่างไรก็ตาม การเปิด LiVE Exchange เป็นสิ่งที่มีความละเอียดอ่อน โดยด้านหนึ่งจะทำอย่างไรให้บรรดา SME และ Startups สามารถเข้าสู่ตลาดทุนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากหากใช้เกณฑ์ mai น่าจะเข้มจนเกินไป จึงจำเป็นต้องขยับลดเกณฑ์บางอย่าง แต่อีกด้านก็ต้องคุ้มครองนักลงทุนด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ตลท. จึงเลือกมุ่งเน้นไปที่จำกัดเฉพาะให้นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายใหญ่ที่มีความรู้ โดยการซื้อขายจะถูกกำหนดให้เป็นเงินสด และซื้อขายได้เพียงวันละ 1 รอบ เท่านั้น

เกณฑ์การระดมทุน SME / Startup 

ในส่วนของเกณฑ์การเข้าระดมทุนในกระดาน LiVE Exchange นั้น แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ

1. SME หากเป็นธุรกิจประเภทบริการ จะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 50 ล้านบาทต่อปี หากเป็นภาคผลิตต้องมีรายได้ 100 ล้านบาทต่อปี โดยเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง แม้จะยังไม่มีกำไร

2. Startups จะต้องเป็น Post Series A หมายถึงต้องเป็น บริษัทที่มี VC หรือ Venture Capital ร่วมลงทุนอยู่แล้ว เนื่องจากเป็น Startups ได้รับการตรวจสอบจาก VC มาแล้ว เชื่อได้ว่ามีความมั่นคงแข่งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว

อ้างอิง :  ก.ล.ต.,  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, SmartSME

ติดต่อโฆษณา!