รวยหุ้น รวยลงทุน ปี 7 ตอน ธีม “Global Innovation” ยังน่าลงทุนหรือไม่ ? | บลจ. ฟิลลิป

Highlight

• 2 วิธี ที่เราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ คือ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven Assets สินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนดี ในยามที่โลกเกิดวิกฤติ และวิเคราะห์หาให้เจอว่าใครจะได้ประโยชน์หาก COVID-19 ทวีความรุนแรง“
• นวัตกรรมทางการแพทย์” น่าสนใจสำหรับการลงทุนยุคนี้

สิ่งที่หลายคนกังวลกับ COVID-19 คือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นยากจะคาดเดาว่าจะยาวนาน และมากแค่ไหน

แต่ที่แน่ๆ ในระยะสั้น สิ่งที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ คือ ความเสี่ยงในกลุ่มโรงงานและภาคการผลิต ผลจากห่วงโซ่อุปทานที่จีนเป็นต้นน้ำของหลายอุตสาหกรรมต่างๆ และผลลบต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ที่ไทยเองกระทบค่อนข้างมากในภาคท่องเที่ยว รวมถึงความมั่นใจของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

อย่างที่เราได้เห็นตลอดสัปดาห์นี้ ที่ตลาดหุ้นทิ้งดิ่ง ราคาที่ร่วงลงมาหนักๆ แต่ในวิกฤตินั้นก็เป็นโอกาสสำหรับการลงทุนเช่นกัน…หากเราเข้าใจเรื่องการบริหารความเสี่ยง

โดย คุณ ติยะชัย ชอง กรรมการผู้จัดการ บลจ. ฟิลลิป ให้ข้อสังเกตว่า จากสถิติย้อนหลังมากกว่า 10 ปี มี 2 วิธี ที่เราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ คือ
✔️เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Safe Haven Assets สินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนดี ในยามที่โลกเกิดวิกฤติ ตัวอย่างเช่น ทองคำ สกุลเงินเยน สกุลเงินดอลลาร์
✔️วิเคราะห์ หาให้เจอว่าใครจะได้ประโยชน์หาก COVID-19 ทวีความรุนแรง ตัวอย่างเช่น นวัตกรรมทางการแพทย์

“นวัตกรรมทางการแพทย์” ฟังแล้วจะดูน่าสนใจสำหรับการลงทุนยุคนี้
อย่างนวัตกรรมในการอ่านพันธุกรรม เพราะพื้นฐานเราต้องเข้าใจพันธุกรรมของไวรัส รวมถึงการพัฒนาวัคซีน รวมถึงเครื่องมือในการคัดกรองผู้ป่วย แต่การลงทุนในธุรกิจกลุ่มนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนเพราะสิ่งที่ต้องระวังจากคำเตือนของ กรรมการผู้จัดการ บลจ. ฟิลลิปคือ “ในสถานการณ์แบบนี้ โอกาสในการเกิดภาวะฟองสบู่ เป็นไปได้สูง” เพราะด้วยหลายบริษัทราคาหุ้นก็ขึ้นมารับข่าวมามากแล้วนั้นแปลว่า การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงความเข้าใจในบริษัทและอุตสาหกรรมที่ดีนั่นเอง

กองทุนเปิดฟิลลิปเวิลด์อินโนเวชั่น (PWIN) น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยสัดส่วนการลงทุนกว่า 28% ลงทุนในนวัตกรรมทางการแพทย์ และผลตอบแทนที่ผ่านมาที่ติดอันดับท็อปลิสต์ของ Morningstar กลุ่ม Global Equity


ผลตอบแทนที่ผ่านมาของ PWIN นั้น เรียกว่าโดดเด่น จากกลยุทธ์การลงทุนของ PWIN ตัวอย่างที่เกิดขึ้น และพลิกเกมส์ลงทุน ด้วยการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของหุ้นเทสล่าและธุรกิจต้นน้ำของ EV แบตเตอรี่ ในภาวะที่ช่วงหนึ่งที่หุ้นเทสล่าร่วงหนักมาก จากข่าวลือต่างๆ เราใช้โอกาสเจาะธุรกิจ และเชื่อมั่นในพื้นฐาน 3 ข้อ คือ
⁃ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี EV แบตเตอรี่
⁃ เทคโนโลยีของ AI หากเราจะก้าวไปสู่ระบบการขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ เทสล่าเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจนด้วยฐานข้อมูลที่มากที่สุด
⁃ นวัตกรรมในการผลิต ทำให้คู่แข่งต้องใช้เวลา 4-5 ปี ถึงสามารถแข่งขันได้

นี่คือ บทสะท้อนการลงทุนของ PWIN ที่สามารถแยกระหว่างธุรกิจกับราคาหุ้นและสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
เพราะ…ตลาดหุ้น การลงทุนผันผวนตลอด
หากเราต้องการผลตอบแทน เราต้องหาให้เจอว่าพลังขับเคลื่อนธุรกิจและโลกช่วงนี้อยู่ที่ไหน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม PhillipFund SuperMart โทร. 02-635-1718