พ่อแม่ยุคใหม่ รับมืออย่างไรเมื่อลูกป่วย

อาหารเป็นพิษเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่อเรารับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารพิษ อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเราได้ มาเรียนรู้เกี่ยวกับสาเหตุ อาการ การรักษา และวิธีป้องกันอาหารเป็นพิษ เพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัย

สาเหตุการเกิดอาหารเป็นพิษ

อาหารเป็นพิษเกิดจากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อโรค และทำให้เกิดอาการผ่านระบบทางเดินอาหาร อาจเกิดขึ้นจาก

• อาหารที่ไม่สะอาด: การเตรียมอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะหรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด
• การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม: อาหารที่เก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม
• การปรุงอาหารไม่ถูกต้อง: อาหารที่ไม่สุกเต็มที่หรือการปรุงอาหารที่ไม่ถูกวิธี
• การสัมผัสกับเชื้อโรค: การใช้มือสัมผัสอาหารโดยไม่ได้ล้างมือให้สะอาด
  
  

อาการของอาหารเป็นพิษ

อาการของอาหารเป็นพิษมักจะแสดงออกมาในระยะเวลาไม่นานหลังจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน อาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้:

• ปวดท้องและเกร็งท้อง
• ท้องเสียหรือถ่ายเหลวบ่อยครั้ง
• รู้สึกคลื่นไส้และอาเจียน
• อาจมีไข้สูงร่วมด้วย
• รู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีแรง

การรักษาอาหารเป็นพิษ 

• จิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำและทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป
• ผสมผง ORS (Oral Rehydration Salts) ในการดื่มเพื่อช่วยทดแทนน้ำและเกลือแร่
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• ในช่วงที่ยังมีอาการควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก

การป้องกันอาหารเป็นพิษ 

• ล้างมือให้สะอาด: ก่อนและหลังการเตรียมอาหาร รวมถึงก่อนรับประทานอาหาร
• เก็บรักษาอาหารในอุณหภูมิที่เหมาะสม: เช่น การเก็บอาหารในตู้เย็น
• ปรุงอาหารให้สุก: ปรุงอาหารให้สุกเต็มที่เพื่อฆ่าเชื้อโรค
• รักษาความสะอาด: ใช้อุปกรณ์และภาชนะที่สะอาดในการเตรียมและเสิร์ฟอาหาร

การใช้ผง ORS อย่างถูกต้อง

• การผสมผง ORS: ผสมผง ORS กับน้ำสะอาดตามอัตราส่วนที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์
• ดื่มอย่างต่อเนื่อง: ดื่มน้ำ ORS อย่างต่อเนื่องเพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป
• ใช้ตามคำแนะนำ: ใช้ผง ORS ตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

การรู้จักวิธีป้องกันและการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษ จะช่วยให้เราสามารถรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและปลอดภัยจากโรคต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น หมั่นรักษาความสะอาดและใส่ใจสุขลักษณะในการบริโภคอาหารเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากอาหารเป็นพิษ หากมีอาการที่น่าสงสัย ควรรีบพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและตรวจรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยความปรารถนาดีจาก “ทันข่าวสุขภาพ”

รับชมวิดีโอ : https://youtu.be/5M4WsnPp2c4?si=27QyiOUhz7X3dM2W