01 กุมภาพันธ์ 2567
11,447

สตรีสตรอง รับมือปวดรอบเดือน vs สัญญาณเตือนวัยทอง


“สตรี สตรอง” เรื่องต้องรู้ ของคุณผู้หญิง


“ผู้หญิง”เป็นเพศที่มีความซับซ้อนทั้งระบบร่างกายกายและจิตใจ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงวัยมีอิทธิพลต่อสุขภาพโดยรวมในตลอดช่วงชีวิต ผู้หญิงจึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ทั้งด้านร่างกายและจิตใจอย่างสอดคล้องกับความต้องการตลอดช่วงอายุของผู้หญิงคนหนึ่ง นับตั้งแต่การเติบโต การเข้าสู่วัยสาว การแต่งงาน การมีบุตร จนการเข้าสู่วัยทอง


โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผู้หญิง จะมีสองช่วงที่ชัดเจนและส่งผลต่อการใช้ชีวิตมาก คือ การเข้าสู่วัยสาว (เริ่มประจำเดือน) และ การเข้าสู่วัยทอง (หมดประจำเดือน) โดยการมีประจำเดือนนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดจากจากฮอร์โมนที่เปลียนแปลงส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ในผู้หญิงบางรายก็อาจจะสามารถรับมือกับการมีประจำเดือนได้อย่างไม่ยากหากไม่ได้มีอาการที่รุนแรง แต่ในผู้หญิงบางคนก็จะมีอาการจากการมีประจำเดือนมากกว่าซึ่งก็ต้องได้รับดูแลและบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง ในทางตรงกันข้ามผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทองก็จะมีอาการจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนด้วยเช่นกันเช่นกัน


โดยบทความวันนี้จะพูดถึงเรื่องของผลข้างเคียงและอาการไม่พึงประสงค์จากการมีประจำเดือน และ การเข้าสู่วัยทอง พร้อมกับแนะนำแนวทางการรับมือ กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น


การเข้าสู่วัยมีประจำเดือน


ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเริ่มมีประจำเดือนตอนอายุประมาณ 10 - 13 ปีบางคนอาจจะมาช้าหรือมาเร็วกว่าช่วงอายุดังกล่าวขึ้นอยู่กับฮอร์โมนของแต่ละบุคคล ซึ่งประจำเดือนก็คือการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกโดยจะสัมพันธ์กับการตกไข่ที่แต่ละรอบเดือนจะมีช่วงเวลาประมาณ 26 - 30 วันทำให้ประจำเดือนเกิดขึ้นเฉลี่ย 1 ครั้ง/เดือน ทั้งนี้อาการที่เกิดขึ้นช่วงก่อน - ระหว่าง - หลังมีประจำเดือนอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยอาจจะมีอาการ เช่น

  • อาการเต้านมคัดตึง
  • อยากอาหารมากกว่าปกติ
  • ความต้องการทางเพศต่ำ
  • ปวดกล้ามเนื้อข้อต่อและหลังส่วนล่าง
  • ปวดบริเวณท้องน้อยช่วงมีประจำเดือน
  • ท้องผูกหรือท้องเสีย
  • อ่อนเพลียหรือไม่มีแรง
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น เศร้า โกรธหงุดหงิดง่ายอารมณ์แปรปรวน หรือ วิตกกังวล

การดูแลดูแลตัวเองในช่วงระหว่างมีประจำเดือนนั้น ก็อาจจะต้องสังเกตตัวเองว่ามีอาการอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงนั้นของเดือนบ้าง โดยส่วนใหญ่ในช่วงระหว่างการมีประจำเดือนกล้ามเนื้อที่มดลูกจะบีบและคลายตัวมากกว่าปกติอาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยได้ซึ่งวิธีการบรรเทาอาการนั้นอาจทำได้โดย

  • ประคบด้วยถุงน้ำร้อน
  • การรับประทานยาในกลุ่ม NSAIDs 
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลให้ปวดมากขึ้น
  • พักผ่อนให้มาก
  • ดื่มน้ำอุ่น
  • หากอาการรุนแรงมากหรือเรื้อรังผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ

อาการประจำเดือนผิดปกติจะสังเกตได้จาก

  • มีประจำเดือนมามากกว่า 7 วันขึ้นไป
  • มีประจำเดือนมากจนทำให้ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยผิดปกติ 
  • ในผู้หญิงที่อายุเข้าใกล้เข้าวัยทองแต่ประจำเดือนกลับมามากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ควรจะน้อยลง
  • มีอาการปวดท้องประจำเดือนจนไม่สามารถทนได้ หรือ ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ 
  • มีประจำเดือนขาดหาย

วิธีการตรวจหาสาเหตุของการมีประจำเดือนผิดปกติ

  • พบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย
  • ตรวจเลือดเพื่อเช็กปริมาณฮอร์โมน
  • ตรวจภายในเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติ (วิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ ACOG แนะนำว่า ผู้หญิงอายุ 21 ปีขึ้นไป แม้ไม่มีอาการผิดปกติ ควรเข้ารับการตรวจภายใน) 
  • การอัลตราซาวนด์เพื่อหาสาเหตุของโรคให้มีความชัดเจนมากขึ้น

การเข้าสู่วัยทอง

ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก หมายถึง วัยที่มีการสิ้นสุดของการมีประจำเดือนอย่างถาวรเนื่องจากรังไข่หยุดการทำงาน และเป็นการหยุดความสามารถในการเจริญพันธุ์ โดยปกติจะนับเมื่อขาดประจำเดือนมาเป็นเวลาต่อเนื่องนาน 12 เดือนหรือ 1 ปี


อาการของการเข้าสู่วัยทองแบ่งออกเป็น

ระยะสั้น

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • อาการร้อนวูบวาบ
  • นอนไม่หลับ
  • ผิวหนังแห้งขาดความยืดหยุ่น
  • ช่องคลอดแห้ง
  • เต้านมเล็กลงหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง
  • โอกาสมีบุตรลดน้อยลง
  • อาจพบภาวะผิดปกติด้านจิตใจ เช่น ซึมเศร้า หงุดหงิด หรือ วิตกกังวล

ระยะยาว

  • มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
  • กระดูกพรุน
  • ปัญหาของระบบทางเดินปัสสาวะ
  • น้ำหนักขึ้น

การดูแลสุขภาพของผู้หญิงวัยทอง

  • เลือกกินอาหารดีมีประโยชน์
  • พักอาศัยในที่ที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี
  • ดูแลการเปลียนแปลงทางอารมณ์​ มีอารมณ์ที่แจ่มใสอยู่เสมอ
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี

การดูแลเพื่อรักษาอาการวัยทองนั้น แพทย์อาจแนะนำการดูแลรักษาอาการวัยทองด้วยการใช้ฮอร์โมนทดแทน จัดเป็นการรักษามาตรฐานสำหรับผู้หญิงวัยทองที่มีอาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในผู้หญิงวัยทอง ไม่ว่าจะเป็นการลดอาการร้อนวูบวาบ อาการซึมเศร้า ความจำเสื่อม ปัญหาด้านระบบทางเดินปัสสาวะและระบบเจริญพันธุ์ เพื่อช่วยให้สตรีวัยทองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้ฮอร์โมนทดแทนต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ 


เพราะผู้หญิงมีระบบร่างกายที่ซับซ้อน สุขภาพผู้หญิงควรได้รับการดูแลตั้งแต่แรกเริ่มในทุก ๆ ด้านและทุกช่วงวัยของผู้หญิง ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญเพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว


เมื่อพบอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาสูตินรีแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาและรักษาอาการได้อย่างทันท่วงที “ด้วยความปรารถนาดี จาก ทันข่าวToday




รับชมวิดีโอ : https://youtu.be/xs5fN0VyH8Q?si=CQi5IGHQUYKee02q
ติดต่อโฆษณา!