27 เมษายน 2565
1,350

เด็กป่วยตับอักเสบปริศนา 12 ประเทศดับแล้ว 1 เจอที่ญี่ปุ่นเป็นรายแรกในเอเชีย ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างสอบความเชื่อมโยงโควิด

เด็กป่วยตับอักเสบปริศนา 12 ประเทศดับแล้ว 1 เจอที่ญี่ปุ่นเป็นรายแรกในเอเชีย ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างสอบความเชื่อมโยงโควิด
Highlight

ในช่วงนี้ต้องระวังเด็กๆให้มากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากความเสี่ยงจากโควิดโอมิครอนแล้ว โรคปริศนาตับอักเสบเฉียบพลัน เริ่มพบมากขึ้นใน 12 ประเทศทั่วโลก ล่าสุดญี่ปุ่นเจอชาติแรกในเอเชีย ผู้เชี่ยวชาญกำลังสอบหาสาเหตุมีความเชื่อมโยงโควิดด้วยหรือไม่ ในขณะที่องค์การอนามัยโลกติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อาการถึงขั้นอันตรายเสียชีวิตแล้ว 1 ราย


ญี่ปุ่นตรวจพบผู้ป่วยโรคตับอักเสบปริศนารายแรก หลังทั่วโลกพบโรคลึกลับนี้แล้วในเด็ก 170 รายซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอังกฤษ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเร่งทำการสำรวจหาความเชื่อมโยงกับโรคโควิด-19

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันอังคาร (26 เม.ย.) ว่า เด็กรายหนึ่งได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรง (severe acute hepatitis) ที่ไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งนับเป็นรายแรกที่พบในภูมิภาคเอเชีย

“โรคตับอักเสบปริศนา” ที่ญี่ปุ่นระบุว่าอาการของผู้ป่วยคล้ายกับอาการที่พบในเด็กในประเทศอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ และนับเป็นเคสแรกที่พบในเอเชีย หลังก่อนหน้านี้พบในเด็กที่สหรัฐฯ และยุโรป

สำหรับอาการของผู้ป่วย คือ มีค่าเอนไซม์ตับและดีซ่านสูงผิดปกติ มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน และผู้ป่วยไม่มีอาการเหมือนผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ A ถึง E ทั่วไป

กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ยืนยันว่า ผู้ป่วยเด็กรายนี้ไม่เคยเข้ารับการปลูกถ่ายตับมาก่อน มีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ และมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสอะดีโน (Adenovirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ส่งผลให้เกิดโรคได้ในหลายระบบร่างกาย เป็นลบเช่นกัน ในขณะที่ผู้ป่วยโรคตับอักเสบปริศนาทั่วโลกกว่า 40% ตรวจพบไวรัสดังกล่าว

องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังระบุว่า จากการตรวจสอบเชื้อในผู้ป่วยเด็กเหล่านี้ ไม่พบไวรัสตับอักเสบชนิด A ถึง E เลย จึงยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบเฉียบพลันตัวนี้

กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผู้ป่วยเด็กรายนี้กำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น เพศของผู้ป่วยหรือที่อยู่อาศัย บอกแต่เพียงว่า อายุต่ำกว่า 16 ปี

รัฐมนตรีสาธารณสุขญี่ปุ่น โกโตะ ชิเงยูกิ กล่าวว่า ไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโรคตับอักเสบในเด็กในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุอาการเฉพาะของโรคนี้ได้ และแนะนำให้ผู้คนระมัดระวังตัว

โกโตะกล่าวว่า เขาจะติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคตับปริศนานี้ในประเทศอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคตับอักเสบในเด็กในญี่ปุ่นทั้งหมด เพื่อเร่งหาคำตอบ

WHO ได้เปิดเผยว่า ณ วันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการตรวจพบผู้ป่วยโรคดังกล่าวอย่างน้อยใน 169 รายใน 11 ประเทศทั่วโลก

ในบรรดาเด็กที่ติดเชื้อนี้นั้น มีเด็ก 1 รายเสียชีวิต และ 17 รายต้องทำการปลูกถ่ายตับ

WHO ระบุว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า จะพบผู้ป่วยมากขึ้นก่อนที่จะสามารถยืนยันสาเหตุของโรคได้ จนถึงขณะนี้เด็กที่มีอายุไม่เกิน 5 ปีเป็นโรคนี้มากที่สุด แม้มีการตรวจพบในเด็กอายุ 1 เดือนถึง 16 ปีก็ตาม

สำหรับอาการทั่วไปของโรคที่พบได้แก่ กระเพาะและลำไส้อักเสบ, ท้องร่วงและคลื่นไส้ ตามด้วยอาการตัวเหลือง หรือผิวและตาเหลือง

ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกำลังตรวจสอบสาเหตุที่เป็นไปได้ของโรคดังกล่าว ซึ่งมีการรายงานครั้งแรกในสหราชอาณาจักรในเดือนม.ค.ปีนี้ และกำลังตรวจสอบว่า จะมีการเชื่อมโยงกับโรคโควิด-19 หรือไม่

WHO กล่าวว่า ณ วันที่ 21 เม.ย. มีรายงานเด็กป่วยตับอักเสบเฉียบพลันที่ไม่ทราบสาเหตุในสหราชอาณาจักร, สหรัฐ, สเปน, อิสราเอล, เดนมาร์ก, ไอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, นอร์เวย์, ฝรั่งเศส, โรมาเนีย และเบลเยียม โดยระบุว่าในสหราชอาณาจักรเพียงประเทศเดียวพบมากถึง 114 รายจาก 169 ราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กอายุตั้งแต่ 1 เดือนถึง 16 ปี และมีเด็ก 17 คนต้องทำการปลูกถ่ายตับ

ทั้งนี้ จากจำนวน 169 ราย มีการตรวจพบอะดีโนไวรัส (ไวรัสไข้หวัดธรรมดา) ในอย่างน้อย 74 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ถึง 20 ราย และตรวจพบทั้งเชื้อโควิดและอะดีโนไวรัสร่วมกัน 19 ราย

WHO กล่าวว่ากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษ ตลอดจนประเทศสมาชิกอื่น ๆ และพันธมิตร

ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐได้ส่งคำเตือนถึงแพทย์ทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังอาการของโรคตับอักเสบในเด็ก ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับไวรัสไข้หวัด อันเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนกรณีตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงในเด็กเล็กโดยไม่ทราบสาเหตุ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โรคดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับวัคซีนโควิด-19

ด้านสำนักงานความปลอดภัยด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรระบุว่า สายพันธุ์หนึ่งของอะดีโนไวรัส (adenovirus) ที่เรียกว่า F41 นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าว

สาธารณสุขของแคนาดาก็รายงานว่า กำลังตรวจสอบโรคตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงที่ไม่ทราบสาเหตุในเด็กเล็กตัวนี้ โดยไม่เปิดเผยจำนวนผู้ป่วยที่พบ

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า พบเด็กป่วยโรคตับอักเสบปริศนารายแรกในสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อเดือน ต.ค. 2021 ในรัฐแอละแบมา ส่วนรายแรกในสหราชอาณาจักรพบในเดือน ม.ค. 2022

ทฤษฎีหนึ่งที่กำลังถูกตรวจสอบโดยสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรคือ ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เด็กเหล่านี้อาจขาดการสัมผัสกับอะดีโนไวรัสทั่วไป ซึ่งมักทำให้เกิดอาการปวดท้องและไข้หวัด ทำให้เด็กไม่มีภูมิคุ้มกันบางอย่าง และป่วยรุนแรงขึ้น จาก 53 รายที่ได้รับการศึกษาในสหราชอาณาจักร พบว่ามีถึง 40 ราย (75%) ที่แสดงสัญญาณของการติดเชื้ออะดีโนไวรัส

จิม แม็กเมนามิน ผู้อำนวยการด้านสาธารณสุขของสกอตแลนด์ บอกว่า ผู้เชี่ยวชาญกำลังพยายามทำความเข้าใจว่า โรคนี้เกิดจากเชื้ออะดีโนไวรัสได้กลายพันธุ์จนทำให้เกิดโรคร้ายแรงขึ้นหรือไม่ หรืออาจก่อให้เกิดปัญหา “ควบคู่” กับไวรัสอื่น เช่น โควิด-19 หรือไม่

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสหราชอาณาจักรยังกล่าวว่า “ไม่พบความเชื่อมโยง” ระหว่างผู้ป่วยโรคตับอักเสบปริศนากับวัคซีนโควิด-19

อ้างอิง : PPTV, infoquest, CNBC

ติดต่อโฆษณา!