03 สิงหาคม 2561
5,035

ทันข่าวสุขภาพ | ภาวะอาหารเป็นพิษ

ทันข่าวสุขภาพ | ภาวะอาหารเป็นพิษ อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) เป็นอาการที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรียหรือไวรัส ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง ซึ่งอาการส่วนใหญ่มักไม่ร้ายแรง แต่หากเกิดอาการรุนแรงขึ้นอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะเสียน้ำและเกลือแร่จนเป็นอันตรายได้

อาการ

อาการของโรคอาจแสดงภายใน 1-36 ชั่วโมง ภายหลังการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณและชนิดของเชื้อโรคที่ได้รับ

1. รู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียนติดต่อกันหลายครั้งหรืออาเจียนเป็นเลือด

2. มีอาการปวดท้องแบบบิดเกร็งเป็นพัก ๆ เนื่องจากบีบตัวของลำไส้

3. อาการถ่ายท้อง ถ่ายมีมูกหรือเลือดปน

4. มีอาการของการสูญเสียน้ำ เช่น รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หมดเรี่ยวแรง ปากแห้ง ตาโบ๋ กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะน้อย

5. ไม่มีความอยากอาหาร

6. มีอาการด้านระบบประสาท เช่น มองไม่ชัด แขนเป็นเหน็บ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง

การรักษาและดูแลตนเอง

การดูแลตนเอง และการพบแพทย์ เมื่ออาหารเป็นพิษ ที่สำคัญ คือ

1. ในขณะปวดท้อง หรือ คลื่นไส้อาเจียน ไม่ควรกินอาหาร หรือ ดื่มน้ำเพราะอาการจะรุนแรงขึ้น

2. ไม่ควรกินยาหยุดถ่ายท้อง เพราะการท้องเสียจะช่วยขับเชื้อและสารพิษออกจากร่างกาย

3. จิบน้ำ อมน้ำแข็งสะอาด หรือ น้ำเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

4. เมื่ออาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือ ปวดท้องบรรเทาลง ควรเริ่มอาหารด้วยอาหารน้ำ รสจืด เช่น น้ำซุปครั้งละน้อยๆ ก่อน หลังจากนั้น ปรับอาหารไปตามอาการ

5. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละมากๆ อย่างน้อย 8-10 แก้ว

6. พักผ่อนให้มากๆ

7. รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น ที่สำคัญ คือ การล้างมือให้สะอาดเสมอ
ติดต่อโฆษณา!