03 มกราคม 2565
2,154

พบโควิด19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ "B.1640.1" แต่ติดเชื้อช้ากว่าโอมิครอน และไทยแซงขึ้นอัน 2 ของเอเชียเรียบร้อยแล้ว!!

พบโควิด19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ "B.1640.1" แต่ติดเชื้อช้ากว่าโอมิครอน และไทยแซงขึ้นอัน 2 ของเอเชียเรียบร้อยแล้ว!!
Highlight
พบไวรัสโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ที่คลัสเตอร์เล็กๆ ในฝรั่งเศส ชื่อว่า B.1640.1 เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแคเมอรู มีการกลายพันธุ์ทั้งหมด 46 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการกลายพันธุ์ทั้งหมด 46 ตำแหน่ง ในขณะที่สถานการณ์โควิด-19 การแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  ล่าสุดขึ้นเป็นอันดับ 15 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากอินเดีย

รายงานข่าวจากต่างประเทศ เปิดเผยการพบไวรัสโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ตัวใหม่ที่คลัสเตอร์เล็กๆ ในฝรั่งเศส ชื่อว่า B.1640.1 เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศแคเมอรูน

โดยผู้ป่วยรายแรก ไวรัสสายพันธุ์นี้มีการกลายพันธุ์ทั้งหมด 46 ตำแหน่ง และมีส่วนที่ขาดหายไปของเบส (deletion) 37 ตำแหน่ง ส่งผลให้มีกรดอะมิโนเปลี่ยนไปจากเดิม 30 ตำแหน่ง และ หายไป 12 ตำแหน่ง

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattanaอธิบายถึงไวรัสตัวใหม่ว่า

หากพิจารณาเฉพาะกรดอะมิโนบนโปรตีนหนามสไปค์ พบว่ามี 14 ตำแหน่งที่เปลี่ยน และ 9 ตำแหน่งที่หายไป โดยตำแหน่งสำคัญที่พบรวมไปถึง N501Y และ E484K ด้วย การเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้จากตำแหน่งที่กลายพันธุ์ไปคาดว่าจะมีผลเรื่องการหนีภูมิคุ้มกันได้คล้ายๆ กับโอมิครอน

“แต่...ขอจบด้วยข่าวดีรับปีใหม่ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้คาดว่ามีแนวโน้มจะถูกกลืนด้วยโอมิครอน เพราะข้อมูลในฝรั่งเศสพบไวรัสสายพันธุ์นี้มาเกือบ 2 เดือนแล้ว ยังไม่ได้มีการพบการระบาดในประเทศมากขึ้นต่อจากคลัสเตอร์แรกที่พบ ซึ่งเมื่อเจอโอมิครอนที่วิ่งไวกว่า หนีภูมิอาจจะดีกว่า โอกาสของการกระจายตัวของไวรัสสายพันธุ์นี้ดูเหมือนน้อยลงไปด้วย อย่างไรก็ตามข่าวนี้ทำให้เราเห็นว่าไวรัสแปลกๆ พร้อมแสดงตัวได้ตลอด” ดร.อนันต์กล่าว

ในขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อโอมิครอนในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  ล่าสุดขึ้นเป็นอันดับ 15 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากอินเดีย

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงาน 10 อันดับจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงที่สุด ประจำวันวันนี้ (2 ม.ค.) พบว่า จังหวัดชลบุรี ขยับขึ้นมาอันดับ 1 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 442 ราย ทำให้ยอดสะสมขณะนี้อยู่ที่ 113,754 ราย

ส่วนกรุงเทพมหานคร ขยับลงมาอยู่อันดับ 2 มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 366 ราย มียอดการติดเชื้อสะสม 440,907 ราย อันดับ 3 จังหวัดอุบลราชธานี ติดเชื้อเพิ่ม 304 ราย ติดเชื้อสะสม 23,093 ราย อันดับ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ติดเชื้อเพิ่ม 128 ราย ติดเชื้อสะสม 48,116 ราย

นพ.วิชัย ธนาโสภณ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า  ในพื้นที่พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในช่วงสัปดาห์นี้ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่มีการสุ่มตรวจหาสายพันธุ์โอมิครอนในอำเภอบางละมุงจากการสุ่ม 79 ราย พบสายพันธุ์โอไมครอน 64 ราย เดลตา 9 ราย ตัวอย่างสุ่มไม่มีคุณภาพ 6 ราย ซึ่งพบสายพันธุ์โอมิครอนไม่ต่ำกว่า 81%

ทั้งนี้เนื่องจากอำเภอบางละมุงมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เช่น ร้านอาหารจำหน่ายสุราจำนวนหนึ่งมีสภาพแวดล้อมที่แออัด มีการเปิดบริการคล้ายสถานบันเทิง เบียดเสียด แต่ในภาพรวมยังได้รับความร่วมมือจากร้านอาหารจำนวนหนึ่งที่มีการตรวจ ATK ลูกค้าก่อนเข้าร้าน

สำหรับมาตรการเบื้องต้นของ สสจ.ชลบุรี ในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด มีแนวทางดังนี้

 

  1. ค้นหาเชิงรุก ประกาศแจ้งให้ผู้ที่ไปสถานบันเทิง ร้านเหล้า ตรวจ ATK ทุกคนทันทีภายใน 1-2 วันนี้ และอีก 5 วัน โดยตรวจด้วยตนเอง และให้ตั้งจุดตรวจคัดกรองที่อำเภอหรือที่อื่นๆ ตามเห็นสมควร เพื่อกรองผู้ติดเชื้อออกมาให้มากที่สุด

 

  1. ปิดร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ทุกร้านในพัทยาและ/หรือในอำเภอบางละมุง เว้นแต่มีการคัดกรองด้วย ATK ทุกคนทุกวันทั้งลูกค้าและพนักงาน

 

  1. ห้ามเปิดประกอบกิจการลักษณะสถานบันเทิงโดยเด็ดขาด

 

  1. เตรียมรองรับผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เริ่มมีปัญหา Hospitel ไม่เพียงพอ

 

  1. ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินอำเภอบางละมุงเร่งดำเนินการควบคุมสถานการณ์
ติดต่อโฆษณา!