ขยายล็อกดาวน์ อีก 14 วันและจะประเมินอีกครั้ง 18 สิงหาคมนี้

ขยายล็อกดาวน์ อีก 14 วันและจะประเมินอีกครั้ง 18 สิงหาคมนี้
HighLight
เพิ่มขยายพื้นที่แดงเข้มจาก 13 เป็น 29 จังหวัด อนุญาตร้านอาหารในห้างเปิดขายแบบเดลิเวอรี่ได้

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. ประกาศขยายเวลาการล็อคดาวน์เพิ่ม 14 วันเริ่มจาก 3 สิงหาคม นี้

ศคบ.ได้เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในพื้นที่ กทม.ลดลง แต่ต่างจังหวัดเพิ่มสูงขึ้น โดยการแพร่ระบาดส่วนใหญ่ยังเป็นเชื้อสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งยังแพร่ระบาดได้แม้ได้รับวัคซีนแล้ว

สำหรับการยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือพื้นที่สีแดงเข้ม 16 จังหวัดใหม่ ได้แก่ กาญจนบุรี ตาก นครปฐม นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง

พื้นที่สีแดงเข้มเดิม 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร

ขณะที่พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง ) ปรับจาก 53 เหลือ 37 จังหวัด ดังนี้ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก มหาสารคาม ยโสธร ระนอง ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีษะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุดรธานี อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ
สำหรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 10 จังหวัด เป็น 11 จังหวัด ดังนี้ จ.กระบี่ นครพนม น่าน บึงกาฬ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน และสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ส.ค.-31 ส.ค.64

ทั่งนี้ ศบค. จะมีการทบทวนมาตรการอีกครั้งในวันที่ 18 สิงหาคมนี้

สำหรับข้อกำหนดสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม มีดังนี้
  • ห้ามออกนอกเคหสถานช่วงเวลา 21.00-04.00 น.
  • เลี่ยง จำกัดหรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น สำหรับการเดินทางในกรณีที่จำเป็นที่สามารถกระทำได้ เช่น การเดินทางเพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การพบแพทย์ รับวัคซีน การรักษาพยาบาล หรือความจำเป็นในการปฏิบัติงานหรือประกอบอาชีพที่ไม่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้ ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ความช่วยเหลือในการกระจายสิ่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
  • ให้ทำงานจากที่บ้าน 100% ทั้งรัฐและเอกชน ยกเว้นที่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณสุข การควบคุมโรค ระบบสาธารณูปโภค การจราจร บรรเทาสาธารณภัย การรักษาความสงบ หากจำเป็นต้องเคร่งครัดมาตรการส่วนบุคคุล
  • ให้ใช้เอกสารรับรองการเดินทาง หรือแสดงคิวอาร์โค้ดที่ด่านตรวจเข้าออก สำหรับเอกสารรับรองการเดินทาง ให้ขอได้ที่เจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือลงทะเบียนผ่านไทยชนะ ณ ด่านตรวจ หรือเว็บไซต์หยุดเชื้อเพื่อชาติ
  • จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศให้เหลือไม่เกิน 50% ของความจุ
  • ห้ามรวมกลุ่มกิจกรรมเกิน 5 คน

ที่มา : ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค.

#รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์คลิกอ่านทันข่าว
ติดต่อโฆษณา!