ไทยครองแชมป์อาวุธปืนสูงสุดในอาเซียน จี้รัฐควบคุมกวาดล้างปืนเถื่อน ไม่ควรซื้อง่ายผ่านออนไลน์

ไทยครองแชมป์อาวุธปืนสูงสุดในอาเซียน จี้รัฐควบคุมกวาดล้างปืนเถื่อน ไม่ควรซื้อง่ายผ่านออนไลน์ จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ใช้อาวุธปืนแบลงค์บีบีกันดัดแปลง ซึ่งคาดว่าจัดซื้อผ่านระบบออนไลน์ และนำมาก่อเหตุในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.66) จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่าประเทศไทยควรมีมาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนและการควบคุมอาวุธปืน เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยมากขึ้น

พล.ต.ต.วิชัยระบุว่า ปัจจุบันคนไทยครอบครองปืนที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องราว 10ล้านกระบอก สูงสุดในอาเซียนและเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย และเป็นอันดับ 13 ของโลก และครอบครองอาวุธดัดแปลง หรือปืนเถื่อนเป็นจำนวนมาก หาซื้อได้ง่าย 

ข้อมูลจากองค์กรวิจัยในสวิตเซอร์แลนด์ Small Arms Survey  ระบุสถิติประเทศที่พลเรือนครอบครองปืนสูงสุด ในช่วงเดือน ต.ค.2565 มีดังนี้ 

อันดับ 1 คือ สหรัฐอเมริกา ประมาณ  393.3 ล้านกระบอก 

อันดับ 2 อินเดีย ประมาณ 71.1 ล้านกระบอก 

อันดับ 3 จีน ประมาณ 49.7 ล้านกระบอก  

ประเทศไทยอันดับที่ 13 ของโลก  ประมาณ 10.3 ล้านกระบอก 

และปืนในไทยนั้น พบว่าเป็นปืนที่มีทะเบียน  7 ล้านกระบอก และปืนไม่มีทะเบียน 6 ล้านกระบอก และสัดส่วนการครอบครองปืน คือ 100 ต่อ 15 หมายความว่า ประชาชน 100 คน มีปืน 15 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เยอะพอสมควร 

พล.ต.ต.วิชัย ระบุว่า การจัดการดูแลความปลอดภัยสถานที่ต่างๆ มีความหละหลวม โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ที่เข้าได้หลายทาง และไม่มีการตรวจเช็คอาวุธปืนในทุกช่องทาง เป็นช่องโหว่ให้ผู้ที่จะสร้างสถานการณ์ลงมือทำงานได้ง่าย หรือเครื่องมือตรวจเช็ตไม่พร้อม เช่น เครื่องสแกนอาวุธใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้าง 

มาตรการลงโทษ เด็กกับผู้ใหญ่แตกต่างกัน อาจเป็นชนวนก่อเหตุได้ กรณีผู้ใหญ่หากวางแผนฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีโทษประหารสถานเดียว ส่วนเด็กจะไม่มีโทษประหาร 

ปัญหา เด็กติดเกม และพัฒนาไปสู่การก่อเหตุ โดยการเลียนแบบจาก หนัง ภาพยนตร์ หลายคดีทั้งต่างประเทศ ในประเทศ พบว่าเด็ก เยาวชน จำลองแบบ นักรบ นักต่อสู้ในเกมมาใช้ในชีวิตจริง ครอบครัวจะต้องให้เวลา ต้องดูแลเด็ก เด็กเสียคนจากการติดเกมจำนวนมาก พล.ต.ต.วิชัย ระบุ
ติดต่อโฆษณา!