ครม. มีมติเปิดสนามบินเชียงใหม่ 24 ชม. รองรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว

ครม. มีมติเปิดสนามบินเชียงใหม่ 24 ชม. รองรับแผนกระตุ้นการท่องเที่ยว นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติ คณะรัฐมนตรีวันนี้ จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีนโยบายที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวและจากการที่ได้เดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการหารือถึงการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีข้อเรียกร้องให้มีการเปิดบริการสนามบินตลอด 24 ชั่วโมง 

ทั้งนี้หากสนามบินเชียงใหม่สามารถเปิดบริการได้ตลอดเวลา จะช่วยอำนวยความสะดวก นักท่องเที่ยวจากจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยไม่มีความกังวล และสามารถเดินทางกลับไปทำงานได้ทันในเช้าวันจันทร์

ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการวีซ่าฟรี หลังจากหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว สนามบินเชียงใหม่จะเริ่มเปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 66 เป็นต้นไป โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

ด้านพล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผุ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังประชุมเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของข้าราชการตำรวจสังกัดกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมาก 

โดยได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ให้เร่งรัดติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวคาซัคสถานของท่าอากาศยานนานาชาติทั้ง 5 แห่ง เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วนให้มีการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 - 29 ก.พ. 67

โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการดังนี้

1. จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่มีประสบการณ์การทำงานในท่าอากาศยานที่ประจำตามด่านตรวจทาง บก.ต่างๆ มาปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 150 นาย เพื่อรองรับการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวคาซัคสถาน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มจาก 300,000คน/เดือน เป็น 500,000 คน/เดือน และนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถานจะเพิ่มจาก 10,000 คน/เดือน เป็น 15,000 คน/เดือน

2. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารและการดูแลนักท่องเที่ยว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที

3. จัดช่องทางพิเศษในส่วนขาเข้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวคาซัคสถาน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือในลักษณะของกลุ่มทัวร์ เพื่อรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศที่จะมีมากยิ่งขึ้น

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีการซักซ้อมเตรียมความพร้อมหากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในเวลาเร่งด่วนจำนวนมาก ทั้งนักท่องเที่ยวจากฟรีวีซ่าชาวจีนและนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ที่เดินทางเข้ามาพร้อมกัน โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำช่องตรวจทั้ง 119 ช่อง
ติดต่อโฆษณา!