จีน กลับมาออกวีซ่าให้ชาวญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังระงับไป 3 สัปดาห์

จีน กลับมาออกวีซ่าให้ชาวญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังระงับไป 3 สัปดาห์
Highlight

เว็บไซต์สถานทูตจีนจีนประกาศกลับมาออกวีซ่าให้ผู้เดินทางชาวญี่ปุ่นอีกครั้งมีผลตั้งแต่ 29 ..ที่ผ่านมา  ถือเป็นการสิ้นสุดการระงับการออกวีซ่า 3 สัปดาห์ เพื่อตอบโต้มาตรการคุมโควิดกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีน ส่วนเกาหลีใต้ ยังระงับต่อถึงสิ้นเดือนก..จีนอ้างยอดผู้ติดเชื้อโควิดเลยจุดพีคลดไปแล้ว โดยปัจจุบันลดลง 70% จากเดือน .. ขณะที่การเดินทางไปต่างประเทศช่วงตรุษจีนเพิ่มขึ้น 123% เทียบกับปีก่อน


  • จีนประกาศระงับการออกวีซ่าใหม่ให้กับชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ 10 ม.ค. เพื่อตอบโต้มาตรการดังกล่าวของญี่ปุ่น ที่ประกาศให้ผู้เดินทางจากจีนต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเข้าประเทศ และต้องตรวจโควิดอีกครั้งเมื่อมาถึงญี่ปุ่น

  • มาตรดังกล่าว ได้ถูกยกเลิกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รวมเป็นเวลา 3 สัปดาห์

  • ด้านเกาหลีใต้ที่บังคับใช้มาตรการคล้ายกันผู้เดินทางจากจีน ยังคงมาตรการดังกล่าวต่อไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ จากความกังวลว่าการระบาดของโควิด-19 ในจีนจะเลวร้ายขึ้นหลังเทศกาลตรุษจีน

  • ทางหน่วยงานสาธารณสุขจีน ระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิดในจีนผ่านพ้นจุดสูงสุดแล้ว แต่นานาชาติยังคงมีความกังวลว่ารัฐบาลปักกิ่งไม่เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์การระบาดเพียงพอ

  • สำหรับการระบาดของโควิดในญี่ปุ่น อยู่ในทิศทางขาลงในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ โดยมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงราว 1 ใน 5 ของตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม และเมื่อสัปดาห์ก่อนญี่ปุ่นประกาศแผนเตรียมลดระดับโควิด-19 ให้เทียบเท่ากับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในเดือนพฤษภาคมนี้

 

การท่องเที่ยวในประเทศจีนคึกคักมาก เช่นเดียวกับการเดินทางนอกประเทศ

  • ชาวจีนทำการเดินทางภายในประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนปีนี้มากกว่าปีที่แล้วถึงกว่า 23% การเดินทางข้ามประเทศพุ่งขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 6 วันแรกของเทศกาลสำคัญนี้ โดยเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลยุติมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

  • รอยเตอร์รายงานข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนที่มีการเปิดเผยออกมาในวันศุกร์ระบุว่า มีการเดินทางราว 308 ล้านเที่ยวภายในจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับขึ้น 88.6% จากช่วงเดียวกันของปี ค.ศ. 2019 หรือก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ด้วย

  • ทางการจีนเริ่มปลดล็อกมาตรการควบคุมการระบาดอย่างเข้มข้นตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม หลังดำเนินแผนงานดังกล่าวมาเกือบ 3 ปีที่ทำให้พื้นที่เมืองต่าง ๆ ถูกล็อกดาวน์เป็นช่วง ๆ และส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวหนัก ทั้งยังทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหยุดชะงักไปพร้อม ๆ กัน

  • กระทรวงการท่องเที่ยวจีนระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติปีนี้อยู่ที่ราว 55,410 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 73.1% จากช่วงเดียวกันของปี ค.ศ. 2019

  • ระหว่างวันที่ 21 ถึง 26 มกราคม ซึ่งเป็น 6 วันแรกของเทศกาลตรุษจีน มีการเดินทางออกนอกจีนถึง 2.39 ล้านเที่ยว ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 123.9% ตามข้อมูลจากสำนกงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน (National Immigration Administration) ที่รายงานออกมาในวันศุกร์เช่นกัน

  • เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนเพิ่งประกาศยุติการบังคับให้ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องเข้าสู่ระบบกักตัวเฝ้าระวังอาการเมื่อเดินทางถึงจีน อันเป็นนโยบายที่ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศของจีนแทบหยุดชะงักตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

  • แม้ตัวเลขต่าง ๆ จะแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สถิติล่าสุดนี้ยังห่างไกลจากระดับที่บันทึกไว้ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 อย่างมาก

  • สำนักข่าวซินหัว เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี ค.ศ. 2019 มีการเดินทางออกนอกประเทศถึง 12.53 ล้านเที่ยว

  • รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ระยะเวลา 7 วัน รวมอยู่ที่ 3.76 แสนล้านหยวน (ราว 1.82 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบปีต่อปี

  • สถานที่ท่องเที่ยวระดับเอ (A-level) รวม 10,739 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 73.5% ของสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในประเทศ เปิดให้บริการตามปกติในช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน

  • มีการจัดสารพัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวทั่วประเทศเพื่อกระตุ้นการบริโภคยามค่ำคืนช่วงหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาด้วย

 

จีนมั่นใจโควิดผ่านจุดพีก

  • ข้อมูลจากบริษัทท่องเที่ยว Ctrip แสดงให้เห็นว่า คำสั่งจองการเดินทางทั้งภายในและระหว่างประเทศของจีนบนแพลตฟอร์มของตนในช่วงตรุษจีนปีนี้ขยายตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีแล้ว โดยเป็นการปรับขึ้นราว 4 เท่าจากปีที่แล้ว

  • ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติจีน (ซีดีซี) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศจีน เมื่อ 27 ม.ค.ว่าจุดพีกของการแพร่ระบาดระลอกนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้วและตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

  • อย่างไรก็ตามทางการจีนยอมรับว่า ยอดการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ได้ลดลงอย่างมาก บางมณฑลใช้วิธีรวบรวมข้อมูลจากการสอบถามครัวเรือน หรือให้ประชาชนแจ้งผลตรวจเข้ามาเอง

  • ทางการจีนระบุว่า ช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นจุดพีกของการแพร่ระบาด มีผู้ล้มป่วยอาการรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศถึง 128,000 คน

ในวันที่ 5 ม.ค.

  • แต่การตรวจสอบในวันที่ 23 ม.ค. พบว่า ยอดได้ลดลงเหลือ 36,000 คน หรือลดลงกว่า 72% ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอยู่ที่ 4,273 คน ในวันที่ 4 ม.ค. แต่ยอดได้ลดลงเหลือ 896 คน ในวันที่ 23 ม.ค. หรือลดลง 79%

  • ซีดีซีจีนยังระบุด้วยว่า ยอดผู้มีอาการเป็นไข้และมาติดต่อเข้ารับการรักษามีจุดพีกในวันที่ 23 ธ.ค. 2565 คือ 2.86 ล้านคน แต่ในวันที่ 23 ม.ค. จำนวนผู้ที่เข้ามาติดต่อสถานพยาบาลด้วยเหตุผลเดียวกันลดลงเหลือ 110,000 คน ในวันที่ 23 ม.ค. หรือลดลง 96.2%

 

อ้างอิง  : เอพี  VOA  รอยเตอร์

ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!