จีนตอบโต้ ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยว-ธุรกิจเดินทางเข้าจีน ด้านไทยให้การต้อนรับทัวร์จีนไฟล์ทแรกดีเยี่ยม !

จีนตอบโต้ ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยว-ธุรกิจเดินทางเข้าจีน ด้านไทยให้การต้อนรับทัวร์จีนไฟล์ทแรกดีเยี่ยม !
Highlight

จีนไม่เฉย ระงับการออกวีซ่าทั้งหมด ทั้งวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวและสำหรับธุรกิจ สำหรับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ตอบโต้ที่สองประเทศใช้นโยบายและมาตรการเข้มงวดกับผู้เดินทางจากจีน โดยต้องให้ชาวจีนแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบ และจะต้องทำการตรวจแบบ RT-PCR  ซึ่งจีนระบุเป็นการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม ด้านไทย จัดใหญ่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากจีนไฟล์ทแรกเมื่อเร็วๆ นี้

มาตรการตรวจโควิดเข้มงวดของญี่ปุ่นกับผู้เดินทางจากจีน

1. นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 ให้เข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้ที่เดินทางจากจีน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้พุ่งขึ้นอย่างมาก

2. ญี่ปุ่นประกาศว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ผู้ที่เดินทางมาจากจีนจะต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นลบก่อนที่จะเดินทางมายังญี่ปุ่น และจะต้องทำการตรวจแบบ RT-PCR ขณะเดินทางถึงญี่ปุ่น


มาตรการสกัดนักท่องเที่ยวของเกาหลีใต้

  • ผู้ที่เดินทางจากจีนทั้งหมดจะต้องถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายในสิ้นเดือน ก.พ. และเกาหลีใต้จะจำกัดการออกวีซ่าระยะสั้นแก่ผู้ที่เดินทางจากจีนจนถึงสิ้นเดือน ม.ค.

ล่าสุด จีนตอบโต้ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น

เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่นก็ห้ามเข้าประเทศจีนเช่นกัน

1. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนได้ระงับการออกวีซ่าแก่ผู้ที่เดินทางจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพื่อตอบโต้ต่อการที่ทั้งสองประเทศออกมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อผู้ที่เดินทางจากจีน

2. บริษัท 3 แห่งในธุรกิจท่องเที่ยวของญี่ปุ่นยืนยันต่อรอยเตอร์ว่า ทางการจีนได้แจ้งต่อทางบริษัทเกี่ยวกับการระงับการออกวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังจีน ด้านเจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุเช่นกันว่า จีนได้ระงับการออกวีซ่าทั้งหมดสำหรับชาวญี่ปุ่น ทั้งวีซ่าสำหรับการท่องเที่ยวและสำหรับธุรกิจ

3. สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้เปิดเผยว่า จีนได้ระงับการออกวีซ่าระยะสั้นแก่ชาวเกาหลีใต้ และจีนจะปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าว ก็ต่อเมื่อเกาหลีใต้ยกเลิกมาตรการจำกัดคนเข้าเมืองแบบเลือกปฏิบัติต่อชาวจีน

4. การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน สนทนาทางโทรศัพท์กับนายพัค จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ เพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เกาหลีใต้บังคับใช้ต่อชาวจีน


ไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน และทุกประเทศอย่างอบอุ่น

ไทยจัดใหญ่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณประชาชนจีนจากเมืองเซี่ยเหมินซึ่งมีผู้โดยสารทั้งหมด 269 คน ในไฟล์ทแรกเมื่อ 9 ม.ค. โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารจากทั้ง 3 กระทรวง จนเป็นภาพเผยแพร่ไปทั่วโลก

ไทยเตรียมมาตรการรับมือการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติดังนี้

1. แนะนำคนไทยให้ฉีดวัคซีนโควิดให้ถึง 4 เข็ม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะผลการศึกษาออกมาแล้วว่าช่วยป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิต

2. เตรียมความพร้อมทั้งบุคลากรยาแผนการต่างๆ ที่สำคัญ ไว้รองรับ

3. แนะนำทำประกันสุขภาพก่อนเดินทางมายังประเทศไทยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวกรณีตรวจพบเชื้อส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการรับวัคซีน ทางไทยมีบริการให้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

4. ปัจจุบันโรคโควิด 19 เปลี่ยนจากโรคติดต่อร้ายแรง เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งทีมวิชาการยืนยันว่าไทยมีความพร้อมทั้งเรื่องเวชภัณฑ์ บุคลากรการแพทย์ ยารักษาโรค

5. กรมควบคุมโรคเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวเข้าไทย ทั้งอากาศ และทางบก ตั้งด่านชายแดนเชียงราย

6. นักท่องเที่ยวจีนชุดแรกทำประกันสุขภาพทุกคน วงเงินไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ

7. สำหรับการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนโควิดให้ชาวต่างชาติ กรมควบคุมโรคได้เตรียมพื้นที่ใน กทม. ไว้ 2 จุด คือ 1.ศูนย์การแพทย์บางรัก โดยมีคำสั่งให้เปิดให้บริการทุกวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไปฉีด และ 2.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) เขตบางเขน ส่วนกรมการแพทย์จะใช้สถาบันโรคผิวหนังเข้ามาช่วยฉีด

8. ค่าบริการการฉีดวัคซีนให้ต่างชาติ สำหรับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 800 บาทต่อเข็ม และไฟเซอร์ 1,000 บาท ค่าบริการทางการแพทย์อีก 380 บาท โดยพื้นที่ กทม.เริ่มให้บริการฉีดวัคซีนแก่ต่างชาติแล้ว

9. พื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ กรมควบคุมโรคจะนัดประชุมเทเลคอนเฟอเร็นซ์ เตรียมความพร้อมกัน โดยมีเป้าหมายว่าจะให้ทุกจังหวัดมีจุดฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติ 1 จุด ซึ่งกรมควบคุมโรคจะรวบรวมข้อมูลประกาศให้ประชาชนรับทราบ  

10. การบริการตรวจ RT-PCR ได้ประสานสถานทูตของแต่ละประเทศแล้วว่าเอกสารรับรองการตรวจโควิดจากหน่วยบริการที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองสามารถใช้อ้างอิงได้ทั้งหมด ส่วนเรื่องสำคัญที่เราต้องดำเนินการ คือ การทำแบบฟอร์มกลางสำหรับผู้เดินทางที่สมัครใจฉีดวัคซีน

11. นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพักในโรงแรมที่มีมาตรฐาน SHA Plus ซึ่งพนักงานมีความพร้อมดูแลผู้ป่วยโควิด และมี รพ. เอกชนคู่สัญญารองรับการตรวจโควิดให้ผู้เข้าพัก และถ้าติดเชื้อก็มีระบบส่งต่อผู้ป่วย แต่หากไม่ได้พักในโรงแรม SHA Plus ก็ยังมีประกันสุขภาพที่สามารถเข้ารักษาใน รพ. ได้ เคลมได้ตามระบบ

12. มาตรการที่ใช้ในขณะนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ  

ติดตาม ทันข่าวToday ช่องทางอื่น ๆ

🔺 Website : https://www.thunkhaotoday.com/
🔺 Facebook : https://www.facebook.com/thunkhaotoday
🔺 Line Today : https://bit.ly/3ifSuDr
🔺 ติดต่อโฆษณา : https://line.me/ti/p/9mjGVL4nhC

ติดต่อโฆษณา!