สหรัฐฯ เข้มแบนการใช้งานTikTok บนอุปกรณ์ของรัฐ หวั่นภัยความมั่นคง ในขณะยอดผู้ใช้งาน สูงเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนไทยอยู่อันดับ 8

สหรัฐฯ เข้มแบนการใช้งานTikTok บนอุปกรณ์ของรัฐ หวั่นภัยความมั่นคง ในขณะยอดผู้ใช้งาน สูงเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนไทยอยู่อันดับ 8
Highlight

สหรัฐฯ หวั่นจีนล้วงความลับ-ภัยความมั่นคง เตรียมสั่งแบบแพลตฟอร์ม TikTok บนอุปกรณ์หน่วยงานรัฐ ในขณะที่มีผู้ใช้งานจากสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับหนึ่งที่ 136 ล้านคน อินโดนีเซีย 99 ล้านคน บราซิล 74 ล้านคน ส่วนไทยรั้งอันดับ 8 มีผู้ใช้งาน 38 ล้านคน สำหรับจีนเองนั้น บล็อก Facebook, Google, YouTube หรือเว็บไซต์อื่น ๆ อีกมากมาย มานานแล้ว  TiKTok เติบโตทะลุ 1,000 ล้านคนทั่วโลก และเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนรวมถึงในไทย มียอดผู้ใช้เติบโตกว่า 85% ต่อปี รวมยอดผู้ใช้งาน 240 ล้านต่อเดือน


สำนักงานฝ่ายบริหารจัดการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (CAO) สั่งห้ามใช้งานติ๊กต๊อก (TikTok) ซึ่งเป็นแอปฯวิดีโอสั้นชื่อดังของจีน โดยคำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงการห้ามใช้งานบนอุปกรณ์ทั้งหมดภายในองค์กร ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะบังคับให้ทุกหน่วยงานแบนการใช้ติ๊กต๊อกบนอุปกรณ์ของรัฐในไม่ช้านี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า CAO ได้ส่งข้อความถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเจ้าหน้าที่ทุกคนเมื่อวันอังคารว่า ติ๊กต๊อกมีความเสี่ยงสูงและอาจเป็นภัยด้านความมั่นคง ด้วยเหตุนี้จึงต้องลบออกจากอุปกรณ์ทั้งหมดภายในองค์กร ซึ่งใครก็ตามที่ติดตั้งติ๊กต๊อกบนอุปกรณ์จะได้รับการแจ้งเตือนเพื่อให้ลบแอปฯ ทิ้ง และห้ามดาวน์โหลดใช้งานอีกในอนาคต

คำสั่งห้ามนี้มีขึ้นหลังจากที่หลายรัฐในสหรัฐดำเนินการห้ามใช้ติ๊กต๊อกไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยนับจนถึงสัปดาห์ที่แล้ว พบว่ามี 19 รัฐที่ออกคำสั่งห้ามใช้งานติ๊กต๊อกบนอุปกรณ์ของรัฐ เนื่องจากความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจจะใช้ติ๊กต๊อกในการติดตามชาวอเมริกันและปิดบังเนื้อหาคอนเทนต์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากนายจอช ฮอว์ลีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งว่าด้วยการห้ามมิให้พนักงานของรัฐใช้ติ๊กต๊อกบนอุปกรณ์ของรัฐบาล นับเป็นการดำเนินการปราบปรามบริษัทจีนครั้งล่าสุด ท่ามกลางความวิตกกังวลด้านความมั่นคงของชาติ

นอกจากนี้ การห้ามใช้ติ๊กต๊อกยังถูกบรรจุอยู่ในร่างกฎหมายงบประมาณมูลค่า 1.66 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถดำเนินงานไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2566 โดยร่างกฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามรับรอง

ว่าไปแล้ว สหรัฐเองเพิ่งมาแบนการใช้ TikTok แต่สำหรับจีนนั้น บล็อก facebook, google, YouTube หรือเว็บไซต์อื่น ๆ อีกมากมาย มานานแล้ว

เนื่องจากประเทศจีนอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ รัฐบาลของประเทศจีนจึงมีความเข้มงวดเป็นอย่างมากในการบล็อก เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาต่อต้านกลุ่มรัฐบาล ค่านิยมทางสังคม และการกำกับดูแลเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต เพื่อความมั่นคงของชาติ เว็บไซต์ที่เป็นที่นิยมส่วนใหญ่ที่ถูกบล็อกนั้นก็จะมี Facebook, YouTube และแม้แต่ Google เองก็ตาม

ใน Facebook นั้นจะเต็มไปด้วยเนื้อหาต่าง ๆ มากมาย และหลากหลายเกินที่จะควบคุม และบ่อยครั้งที่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการโต้แย้งทางการเมือง ทำให้ทางรัฐบาลจีนไม่สนับสนุนการใช้งานเฟซบุ๊ก

ดังนั้น ถ้าหากว่าคุณกำลังวางแผนจะเดินทางไปประเทศจีน คุณจะไม่สามารถใช้ Facebook ได้ เว้นแต่ว่าคุณจะใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยง Firewall 

มาดูการเติบโตของ TikTok ที่คุณต้องทึ่ง

ไทยเป็นอันดับ 8 ประเทศที่มีผู้ใช้มากสุดในโลกสำหรับ ปี 2022 ผู้ใช้แตะ 38 ล้านคน

รายงานเผยไทย มีบัญชีผู้ใช้งาน TikTok ปี 2022 ถึง 38 ล้านคน สูงสุดอันดับ 8 ของโลก รับตลาดยูสเซอร์ของแพลตฟอร์มที่แตะ 1 พันล้านคนทั่วโลก

Statista บริษัทวิเคราะห์และเผยแพร่ข้อมูลด้านการตลาด เผย 10 ประเทศที่มีบัญชีผู้ใช้งาน ติ๊กต็อก (TikTok) มากที่สุดในโลก ปี 2022 (อัปเดต เมษายน 2022) ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา บัญชีผู้ใช้งาน 136 ล้านคน (ล่าสุดประชากรสหรัฐทั้งอยู่ที่ 335 ล้านคน) 

2.อินโดนีเซีย บัญชีผู้ใช้งาน 99 ล้านคน

3.บราซิล บัญชีผู้ใช้งาน 74 ล้านคน

4.รัสเซีย บัญชีผู้ใช้งาน 51 ล้านคน

5.เม็กซิโก บัญชีผู้ใช้งาน 51 ล้านคน

6.เวียดนาม บัญชีผู้ใช้งาน 46 ล้านคน

7.ฟิลิปปินส์ บัญชีผู้ใช้งาน 40 ล้านคน

8.ไทย บัญชีผู้ใช้งาน 38 ล้านคน

9.ตุรกี บัญชีผู้ใช้งาน 29 ล้านคน

10.ปากีสถาน บัญชีผู้ใช้งาน 24 ล้านคน 

โดยTikTok นับเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ที่ได้รับการสร้างและพัฒนาโดยบริษัทสัญชาติจีน ByteDance ซึ่งได้รับความนิยมระดับโลก ปัจจุบันมียอดผู้ใช้งาน (Monthly Active User)

ขณะที่ประเทศต้นกำเนิดของแอป TikTok อย่างจีน มีการใช้แอปแยกต่างหาก ในชื่อ Douyin (เตาอิน) ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานเหมือนกับแอป TikTok ที่เปิดให้ใช้ทั่วโลก แต่จำกัดใช้ได้เฉพาะในประเทศจีนเองเท่านั้น

 

ที่มา: Statista bullvpn.com

 

ติดต่อโฆษณา!