การกลับมาที่อาจไม่เหมือนเดิม ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

การกลับมาที่อาจไม่เหมือนเดิม ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
Highlight

“การท่องเที่ยว”  ความหวังใหญ่ของเศรษฐกิจไทยที่ดูผิวเผินอาจเห็นทิศทางที่สดใสจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาหลังจากเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ แต่ครึ่งหนึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน ที่ยอดการใช้จ่ายต่ำกว่าชาวจีนถึง 1.5 เท่า KKP Securities มองว่าแม้ปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 20 ล้านคน แต่ยอดใช้จ่ายก็น่าจะได้เพียงครึ่งเดียวของยุคก่อนโควิด หรือแทนที่จะได้ 12% ของ GDP ก็อาจจะได้เพียง 6% ถ้ายังไม่มีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามา

การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ เห็นได้ชัดเจนจากจำนวนที่เพิ่มขึ้น สร้างความหวังในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมีตัวเลขนักเดินทางขาเข้าทะลุ 1 ล้านคน/เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค. และขยับขึ้นไปแตะที่ 1.5 – 2 ล้านคน/เดือน ในช่วงเดือนตุลาคมที่ถือเป็น High Season ของการท่องเที่ยว

แม้จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย แต่ทาง KKP Research มองว่ายังมีความน่ากังวลที่ต้องจับตามองถึงทิศทาง “การกลับมาที่อาจไม่เหมือนเดิม” ของ การท่องเที่ยวไทย

20221204-a-01.jpg


นักท่องเที่ยวขาเข้าเยอะขึ้น

หลังจากที่ไทยเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าก็เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยทำสถิติทะลุ 1 ล้านคนต่อเดือนมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม และกระโดดไปแตะที่ 1.5 – 2 ล้านคน/เดือน ในช่วงตุลาคม ซึ่งถือเป็น High Season ของการท่องเที่ยว

หากตัวเลขนักท่องเที่ยวยังคงมีทิศทางเช่นนี้ เราอาจเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าเกือบ 20 ล้านคนในปีหน้า  หรือคิดเป็น 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงก่อนโควิด (ยังเป็นไปได้ยากที่ไทยจะกลับไปมีจำนวนนักท่องเที่ยวเท่าเดิม) แต่ตัวเลขที่ดูสดใสเช่นนี้มีความกังวลซ่อนอยู่ ภายใต้การกลับมาที่ไม่เหมือนเดิมของการท่องเที่ยวไทย

20221204-a-02.jpg


นักท่องเที่ยวเปลี่ยนหน้า

โครงสร้างนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่นักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ตอนนี้เหลือเพียง 2% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากนโยบาย Zero-Covid ของจีน

ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียนปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งได้กลายเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักที่เดินทางเข้าประเทศไทย สัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ส่งผลโดยตรงถึงรายได้ด้านการท่องเที่ยวของประเทศ

20221204-a-03.jpg

นักท่องเที่ยวเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายลด

ปฏิเสธไม่ได้ว่านักท่องเที่ยวจีนมีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่อคนที่สูงกว่านักท่องเที่ยวอาเซียนถึง 1.5 เท่า ดังนั้น เมื่อสัดส่วนของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ทำให้ถึงแม้เรามีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่เพิ่มขึ้น ก็ไม่สามารถสร้างรายรับได้เท่าเดิม

ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้จะเหลือเพียง 4.84 แสนล้านบาท หรือประมาณ 3-4% ของ GDP เมื่อเทียบกับรายได้การท่องเที่ยวไทยช่วงก่อนโควิดที่มีมูลค่ากว่า 1.88 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12% ของ GDP และในปีหน้าที่มีคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาถึงครึ่งหนึ่งของช่วงก่อนโควิด ก็อาจสร้างรายได้เพียง 40-45% เท่านั้น

20221204-a-04.jpg


นักท่องเที่ยวกระจุกตัวสูง

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่มักไม่ค่อยถูกพูดถึงคือ ถึงแม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ช่วยเม็ดเงินให้เศรษฐกิจไทยมากขึ้น แต่ยังคงเป็นการสร้างรายได้และเงินหมุนเวียนแบบกระจุกตัวเฉพาะในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ๆเท่านั้น

จากพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่เลือกเดินทางในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญเป็นหลัก โดยจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวมาที่สุด 10 อันดับ ได้รายได้จากการท่องเที่ยวไปถึง 90% ของรายได้ทั้งหมด

ดังนั้น ถึงแม้การท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัว แต่เราคงเห็นไม่เห็นการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงแน่นอน ทำให้จังหวัดอื่น ๆ ต้องหันไปพึ่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจด้านอื่น ๆ แทน

หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

สำหรับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและภาพรวมการท่องเที่ยวที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ได้แก่  MINT (ราคาเป้าหมาย 40.0 บาท)  CRC (ราคาเป้าหมาย 45.7 บาท)  SPA (ราคาเป้าหมาย 14.0 บาท)

ที่มา: บล. เกียรตินาคินภัทร, (พ.ย. 65)

ติดต่อโฆษณา!