02 พฤศจิกายน 2565
1,681

คาดจีนเตรียมเปิดประเทศ หลังจัดตั้งคณะกรรมการประเมินสถานการณ์โควิด เดือน มี.ค. 66

คาดจีนเตรียมเปิดประเทศ หลังจัดตั้งคณะกรรมการประเมินสถานการณ์โควิด เดือน มี.ค. 66
Highlight

จีนอาจเป็นประเทศเดียวที่ยังคงปิดประเทศและควบคุมสถานการณ์โรคโควิดอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตามล่าสุดนักการเงินคาดกันว่า มีสัญญาณค่อนข้างแน่ชัดที่จีนอาจจะเปิดประเทศ โดยจีนกำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19ในต่างประเทศเพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศได้ในเดือนมีนาคมปี 2566 ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)แนะผู้ประกอบการควรหาตลาดทดแทนจีนไปก่อน และททท.เตรียมพร้อมโปรโมทการท่องเที่ยวในประเทศอย่างเต็มที่


บรรดานักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า จีนอาจจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง หลังจากนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังระบุว่า จีนกำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อประเมินสถานการณ์โควิด-19

นายหาว ฮง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “นายหวัง หูหนิง หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) กำลังจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเปิดประเทศ และกำลังทบทวนข้อมูลด้านโควิด-19 ในต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์หากมีการเปิดประเทศ โดยจีนมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2566”

ข้อความดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันอังคาร (1 พ.ย.) และยังช่วยหนุนราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ด้วย แม้ว่านายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ออกมากล่าวว่า เขายังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ตลาดยังคงเชื่อว่า ข่าวดังกล่าวมีมูลความจริง และคาดหวังว่าการกลับมาเปิดประเทศของจีนจะช่วยให้เศรษฐกิจและอุปสงค์ฟื้นตัว และจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกรายงานเตือนว่า การชะลอตัวลงอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจจีนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ IMF ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียในปี 2565 และ 2566 ลงสู่ระดับ 4.0% และ 4.3% ตามลำดับ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.9% และ 5.1% ตามลำดับ

ทางการจีนได้ทำการล็อกดาวน์พื้นที่หลายแห่งอย่างเงียบ ๆ นับตั้งแต่มีการจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน หลังจากพบว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนยังคงแพร่ระบาด โดยการล็อกดาวน์ครอบคลุมถึงเมืองสำคัญอย่างเซี่ยงไฮ้ เจิ้งโจว และกวางโจว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและการใช้ชีวิตของประชาชน

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่จีนได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการปรับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากพบว่าต้นทุนทางเศรษฐกิจพุ่งสูงขึ้น และประชาชนรวมทั้งนักลงทุนต่างกันวิตกกังวลมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่จีนกำลังพิจารณาปรับลดระยะเวลาการกักตัวในโรงแรมสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าจีนลงเหลือ 2 วัน และจากนั้นให้กักตัวต่อที่บ้าน 5 วัน จากเดิมที่ต้องกักตัวในโรงแรม 7 วันและให้กักตัวต่อที่บ้าน 3 วัน

ททท. ในสาธารณรัฐประชาชนจีน แย้มเปิดประเทศแบบค่อยเป็นค่อยไป

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสัญญาณจากรัฐบาลจีนชัดเจนว่าจะยังคงดำเนินนโยบาย Zero COVID ต่อไป จนกว่าจะมีการประชุม 2 สภาของรัฐบาลจีนในเดือนมีนาคม 2566 และจากการพูดคุยกับสำนักงาน ททท. ในสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 5 แห่ง ได้รับข้อมูลว่าการเปิดประเทศของจีนจะเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไป ในบางพื้นที่ และเปิดกับประเทศที่มั่นใจว่าเมื่อไปเที่ยวแล้วกลับมาแล้วปลอดภัย ไม่เปิดลอตเดียวเต็มรูปแบบเหมือนประเทศอื่น ๆ

จีนส่งสัญญาณเปิดประเทศหลัง เดือน มี.ค. 66

นายยุทธศักดิ์ประเมินว่ารัฐบาลจีนจะส่งสัญญาณเปิดประเทศอีกครั้งหลังจากเดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่จีนจะปล่อยนักท่องเที่ยวออกเดินทาง ดังนั้น อยากให้ผู้ประกอบการทุกเซ็กเตอร์ของการท่องเที่ยว เตรียมความพร้อมสำหรับรองรับตลาดจีนทันทีที่เขาพร้อมออกเดินทาง

“ทุกวันนี้ก็มีกลุ่มคนจีนเดินทางมาไทยจำนวนหนึ่งแล้ว และจีนเองก็มีการเพิ่มเที่ยวบินต่อเนื่อง จากแค่ประมาณ 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ปัจจุบันให้บริการกว่า 30 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินนี้สะท้อนว่าจีนเองก็ทยอยเปิดประเทศและอนุญาตให้บางกลุ่มออกเดินทางได้ เช่น นักเรียน นักธุรกิจ ประชุมสัมมนา เป็นต้น” นายยุทธศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ยังประเมินว่ารูปแบบการเดินทางในช่วงแรกจะเป็นการเดินทางแบบกรุ๊ปมากกว่าเป็นแบบเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้อนุญาตให้บริษัททัวร์เริ่มขยับและส่งออกนักท่องเที่ยวบางส่วนได้แล้ว แนวโน้มเหล่านี้ล้วนเป็นความเคลื่อนไหวทางบวกทั้งสิ้น

“ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่ควรรอตลาดจีนเพียงอย่างเดียว แต่ควรมองหาตลาดใหม่ ๆ เข้ามาทดแทน โดยเฉพาะตลาดจากประเทศในกลุ่มตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ให้มาเที่ยวไทยในช่วงโลว์ซีซั่น เพื่อทดแทนตลาดยุโรปที่หายไปในช่วงหลังเดือนมีนาคม 2566”

เจาะกลุ่มคนจีนที่ทำงานหรือพักอาศัยในต่างประเทศ

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ที่กล่าวถึงแนวโน้มของตลาดนักท่องเที่ยวจีนสำหรับปีนี้ว่า เป็นตลาดที่ลุ้นได้แต่ยังคาดหวังไม่ได้ เพราะยังต้องรอความชัดเจนหลังประชุม 2 สภาของรัฐบาลจีนอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งคาดว่าหลังประชุมครั้งนี้จะมีความชัดเจนว่ารัฐบาลจีนจะยังคุมเข้ม Zero COVID ต่อไป หรือจะทยอยผ่อนคลายอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

“ตอนนี้บ้านเราก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่เป็นกลุ่มคนจีนที่เดินทางมาจากประเทศอื่นไม่ได้ออกจากจีนโดยตรง เช่น กัมพูชา สิงคโปร์ ตะวันออกกลาง ฮ่องกง ไต้หวัน ลาว ฯลฯ เดินเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยว สยามพารากอน ไอคอนสยาม และที่อื่น ๆ กลุ่มนี้เป็นคนจีนที่ทำงานและอยู่อาศัยในต่างประเทศ ซึ่งเราก็คงต้องมองนักท่องเที่ยวจีนที่อยู่ในประเทศเหล่านี้ด้วย” นายศิษฎิวัชรกล่าว

นอกจากนี้ สมาคมยังมีแผนจะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาการทำตลาดในรูปแบบ “แทรเวลบับเบิล” กับรัฐบาลจีนในช่วงที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศในระยะแรก โดยผู้ประกอบการจะดูแลไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลจีนว่ามาเที่ยวประเทศไทยแล้วปลอดภัยด้วย

ททท. เร่งโปรโมตการท่องเที่ยวในประเทศ “เมืองไทยเที่ยวได้ทั้งปี”

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ททท.และรัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ อยากเห็นการกลับมาครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกว่าเดิม และให้บริการด้วยคุณภาพ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองก็ต้องบริหารความเสี่ยงให้ดีเช่นกัน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย ส่งผลต่อการวางแผนการเดินทางระยะยาวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขณะที่นโยบายการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อก็ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการบริหารจัดการของผู้ประกอบการเช่นกัน

สำหรับ ททท.เองได้เตรียมแผนการทำการตลาดในปี 2566 ไว้อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นโกลบอลแคมเปญและแคมเปญเฉพาะพื้นที่ โดยจะมุ่งเน้นนำเสนอให้ทั่วโลกรับรู้ว่าประเทศไทยเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 365 วัน

ติดต่อโฆษณา!