อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเทสลา อิงค์ เข้าควบคุมกิจการของทวิตเตอร์แล้ว ด้าน CEO โบกมือลาออก

Highlight

อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทเทสลา อิงค์ ได้เข้าควบคุมกิจการของทวิตเตอร์แล้ว โดยต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในวันศุกร์นี้ (28 ต.ค.) ตามคำสั่งศาล หุ้นของบริษัททวิตเตอร์ อิงค์ จะถูกระงับการซื้อขายในวันนี้ ราคาพุ่งขึ้น 1% ก่อนปิดตลาด สื่อต่างประเทศรายงานว่าเขาไล่ CEO และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินออกทันที จากนี้ติดตามดูกันว่า สิ่งที่นายมัสก์กล่าวหาทวิตเตอร์ว่า “เป็นโซเชียลมีเดียทำให้คนแตกแยกออกเป็นฝ่ายขวาตกขอบกับฝ่ายซ้ายสุดโต่ง ซึ่งจะสร้างความเกลียดชังกันในสังคม” นั้นจะถูกแก้ไขอย่างไร เมื่อเขาเป็นเจ้าของ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ขณะนี้นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลา อิงค์ ได้เข้าควบคุมกิจการของทวิตเตอร์แล้ว

นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า นายปารัก อักราวัล ซีอีโอของทวิตเตอร์ และนายเนด ซีกัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินก็ได้ออกจากสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์ในซานฟรานซิสโกแล้ว และจะไม่กลับเข้าไปอีก

เว็บไซต์ของตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) เปิดเผยว่า หุ้นของบริษัททวิตเตอร์ อิงค์ จะถูกระงับการซื้อขายในวันศุกร์ที่ 28 ต.ค. เนื่องจากถึงกำหนดที่ศาลสั่งให้นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลา อิงค์ ต้องเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ให้เสร็จสิ้น

เมื่อการเข้าซื้อเสร็จสิ้น ก็จะสิ้นสุดคดีความที่ทวิตเตอร์ยื่นฟ้อง โดยทวิตเตอร์และนักลงทุนต่างคาดว่าข้อตกลงจะเสร็จสิ้นตามเงื่อนไขเดิมในราคา 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ทั้งนี้ หุ้นทวิตเตอร์ปิดตลาดที่ราคา 53.35 ดอลลาร์ในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันพุธ (26 ต.ค.) โดยพุ่งขึ้นประมาณ 1% แตะที่ 53.90 ดอลลาร์ในช่วงขยายเวลาซื้อขาย ซึ่งต่ำกว่าราคาเสนอซื้อของนายมัสก์เล็กน้อย

investing.com ระบุว่านายมัสก์ กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของTwitter Inc (NYSE:TWTR) เมื่อวันพฤหัสบดี โดยงานแรกประเดิมไล่ผู้บริหารระดับสูงออก และให้ความกระจ่างเล็กน้อยว่าเขาจะบรรลุความทะเยอทะยานอันสูงส่งที่เขาร่างไว้สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลได้อย่างไร

CEO ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) กล่าวว่าเขาต้องการ "เอาชนะ" บอทสแปมบน Twitter สร้างอัลกอริธึมที่กำหนดวิธีการนำเสนอเนื้อหาต่อสาธารณะแก่ผู้ใช้ และป้องกันไม่ให้แพลตฟอร์มกลายเป็นพื้นที่ที่ความเห็นไปในทิศทางเดียว โดยต้องการจำกัดการเซ็นเซอร์

อย่างไรก็ตาม มัสก์ยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเขาจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมดนี้ได้อย่างไร และใครจะเป็นคนบริหารบริษัท เขาได้กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะเลิกจ้างงาน ทำให้พนักงานของ Twitter ประมาณ 7,500 คนกังวลเกี่ยวกับอนาคตของพวกเขา

นายมัสก์ ไล่ นายปารัก อักราวัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Twitter, นายเน็ท ซีกัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและนโยบาย วิชญา กัทเด กล่าวหาว่าบุคคลเหล่านี้หลอกลวงเขาและนักลงทุนเกี่ยวกับจำนวนบัญชีปลอมบนทวิตเตอร์

ผู้บริหารทั้งหมดที่โดนไล่ออก ถูกนำตัวออกจากออฟฟิศในซานฟรานซิสโกเมื่อข้อตกลงปิดตัวลงและถูกพาตัวออกไป แหล่งข่าวกล่าวเสริม

เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.) นายมัสก์โพสต์ข้อความถึงผู้ลงโฆษณาในแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ว่า ทวิตเตอร์จะไม่ตกต่ำลงจนกลายเป็นแดนเถื่อนที่ใครจะพูดอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา

โพสต์ของนายมัสก์ระบุว่า “เหตุผลที่ผมซื้อทวิตเตอร์ก็เพราะมันสำคัญต่ออารยธรรมในอนาคตที่ควรจะมีจัตุรัสกลางเมืองดิจิทัลสาธารณะ ที่ซึ่งคนที่มีความเชื่อแตกต่างกันสามารถมาถกเถียงกันได้อย่างสันติโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง”

“ขณะนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งที่โซเชียลมีเดียจะทำให้คนแตกแยกออกเป็นฝ่ายขวาตกขอบกับฝ่ายซ้ายสุดโต่ง ซึ่งจะสร้างความเกลียดชังและความแตกแยกในสังคมของเรามากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้ นายมัสก์ได้เดินทางไปที่สำนักงานของทวิตเตอร์ในซานฟรานซิสโกเมื่อวันพุธ (26 ต.ค.) และในช่วงเช้าวานนี้ นายมัสก์ได้โพสต์คลิปวิดีโอของตัวเองเดินเข้าไปยังสำนักงานของทวิตเตอร์พร้อมถืออ่างล้างมือ และได้เปลี่ยนคำอธิบายโพรไฟล์ของตนเองบนทวิตเตอร์เป็น “หัวหน้าทวิต” (Chief Twit)

นายมัสก์แจ้งกับพนักงานของทวิตเตอร์ อิงค์ในวันพุธ (26 ต.ค.) ว่า เขาไม่มีแผนที่จะปรับลดพนักงานทวิตเตอร์ถึง 75% เมื่อเขาเข้าเทกโอเวอร์ทวิตเตอร์

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายมัสก์ได้ออกมาปฏิเสธรายงานตัวเลขคาดการณ์เปอร์เซ็นต์การปรับลดพนักงานที่นายมัสก์ได้กล่าวกับพนักงานของทวิตเตอร์ที่สำนักงานในซานฟรานซิสโก

อย่างไรก็ตาม คาดกันว่านายมัสก์ยังคงมีแผนการที่จะปรับลดพนักงานอยู่หลังจากเข้าซื้อกิจการ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับกลุ่มพนักงานของทวิตเตอร์

ด้านวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานว่า กลุ่มธนาคารได้เริ่มส่งมอบเงินสด 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่นายมัสก์เพื่อใช้ในการซื้อทวิตเตอร์แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ข้อตกลงซื้อกิจการจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้

รายงานระบุว่า เมื่อบรรลุเงื่อนไขสุดท้าย นายมัสก์จะสามารถใช้เงินสดก้อนดังกล่าวเพื่อทำธุรกรรมดังกล่าวได้ทันภายในกำหนดเส้นตายในวันศุกร์นี้ (28 ต.ค.)

บริษัททวิตเตอร์ อิงค์ เข้าสู่กระบวนการต่อสู้ทางคดีในชั้นศาลในเดือนต.ค.นี้ กรณีที่มัสก์ ต้องการยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์ หลังจากที่ศาลรัฐเดลาแวร์ของสหรัฐทั้งนี้ ทวิตเตอร์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐเดลาแวร์ เพื่อเอาผิดนายมัสก์ ฐานละเมิดข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์วงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และได้ร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นายมัสก์ดำเนินการซื้อกิจการตามราคาที่ตกลงกันไว้ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น เนื่องจากก่อนหน้านั้น นายมัสก์ออกมาระบุว่า จะยกเลิกข้อตกลงดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ทวิตเตอร์ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีปลอมในทวิตเตอร์

คำวินิจฉัยของศาลส่งผลต่อนายมัสก์ เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเป็นเดือนก.พ.ปีหน้า ขณะที่ทวิตเตอร์ซึ่งขอให้ศาลพิจารณาคดีในเดือนก.ย.ได้โต้แย้งว่า การเลื่อนพิจารณาคดีออกไปเป็นปีหน้านั้น อาจส่งผลกระทบต่อการระดมทุนตามข้อตกลง

แคทาลีน แมคคอร์มิค ตุลาการศาลชานเซอรี (Court of Chancery) รัฐเดลาแวร์เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ว่า ทวิตเตอร์สมควรได้รับทราบการตัดสินตามคำร้องโดยเร็ว

“ความล่าช้าจะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ต่อผู้เสนอขาย” แมคคอร์มิคระบุถึงทวิตเตอร์ นอกจากนี้ ยังขอให้ทั้งสองฝ่ายให้ความร่วมมือตามกำหนดเวลาในการพิจารณาคดี

อ้างอิง : รอยเตอร์, บลูมเบิร์ก