นานาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซีย หลังผนึก 4 แคว้นยูเครน ด้านปูตินเรียกทหารเสริมทัพกว่าแสนอัตรา

Highlight

หลังรัสเซียประกาศผนวก 4 ดินแดนทางตะวันออกของยูเครนเป็นของตัวเองเมื่อวันที่ 30 ก.ย. สหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มกับรัสเซีย ขณะที่สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาว่าจะเพิ่มมาตรการเพื่อจำกัดไม่ให้รัสเซียสามารถหาทุนเพิ่มเพื่อไปทำสงครามได้อย่างไร ด้านรัสเซียประกาศใครรุกล้ำ 4 แคว้นใหม่ที่เพิ่งผนึกเข้ามา เท่ากับรุกล้ำอธิปไตยของรัสเซีย และเตรียมความพร้อมในการใช้อาวุธทุกชนิด รวมทั้งเกณฑ์กำลังพลเพิ่มกว่าแสนราย

มาตรการคว่ำบาตรใหม่

สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรสมาชิกสภารัสเซีย 278 คน ที่อนุมัติให้จัดทำประชามติใน 4 ดินแดนทางตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ ยังมีคนอีก 14 คน ที่โดนเพราะมีความข้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังบอกว่าจะคว่ำบาตรองค์กรต่าง ๆ นอกรัสเซียที่ให้การสนับสนุนทางทหารหรือการผนวกรวมดินแดนของรัสเซีย

รัสเซียโดนคว่ำบาตรอย่างไรบ้างแล้ว

ด้านการเงิน

ชาติตะวันตกพยายามจะจำกัดไม่ให้รัสเซียเข้าถึงเงินได้ สหรัฐฯ ห้ามไม่ให้รัสเซียใช้หนี้ด้วยเงินต่างประเทศที่มีอยู่ในธนาคารสหรัฐฯ

ธนาคารใหญ่ ๆ ของรัสเซียไม่สามารถใช้ระบบ "Swift" หรือ แพลตฟอร์มที่มีรูปแบบข้อความเป็นของตัวเอง เพื่อให้ธนาคารสมาชิกใช้บริการรับส่งข้อความทางการเงินระหว่างประเทศที่มีระบบเป็นมาตรฐานสากล รวดเร็ว และปลอดภัย นี่ทำให้รัสเซียได้รับเงินจากน้ำมันและก๊าซที่พวกเขาส่งออกล่าช้า

น้ำมันและก๊าซ

• ตั้งแต่ ธ.ค. เป็นต้นไป สหภาพยุโรป หรืออียู จะระงับการนำเข้าน้ำมันรัสเซียทางทะเล
• อียู จะสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียตั้งแต่ ก.พ. ปี 2023 เป็นต้นไป
• สหรัฐฯ สั่งห้ามนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากรัสเซียทั้งหมด
• สหราชอาณาจักรจะค่อย ๆ ลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในปี 2022 ตอนนี้พวกเขาไม่ได้นำเข้าก๊าซจากรัสเซียแล้ว
• เยอรมนีระงับโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาตินอร์ดสตรีม 2 (Nord Stream 2) จากรัสเซีย
• อียู หยุดนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียแล้ว

นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. เป็นต้นไป สหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7) อยากจะกำหนดเพดานราคาที่ประเทศต่าง ๆ จ่ายสำหรับน้ำมันจากรัสเซีย พวกเขาแจ้งประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียว่า บริษัทประกันในประเทศตะวันตกจะไม่รับผิดชอบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างขนส่งหากว่าจ่ายค่าน้ำมันแพงกว่าที่กำหนดไว้

บุคคล

สหรัฐฯ, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ ได้ทำการคว่ำบาตรชาวรัสเซียกว่า 1,000 คน ในจำนวนนี้ มีนักธุรกิจผู้ร่ำรวยที่คิดว่ามีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย อาทิ อดีตเจ้าของทีมเชลซี โรมัน อับราโมวิช

นอกจากนี้ ยังมีการอายัดทรัพย์สินของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ที่อยู่ในสหรัฐฯ, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร และแคนาดา ด้วย

สินค้าและบริการอื่น ๆ

• สหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้ส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ได้ทั้งโดยพลเรือนและทหาร อาทิ ส่วนประกอบของยานพาหนะ
• สหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ สั่งห้ามไม่ให้มีเที่ยวบินจากรัสเซีย
• ห้ามไม่ให้มีการนำเข้าทองจากรัสเซีย
• ห้ามไม่ให้มีการส่งออกสินค้าฟุ่มเฟือยไปยังรัสเซีย
• สหราชอาณาจักรสั่งเก็บภาษี 35% สำหรับสินค้านำเข้าบางอย่าง รวมถึงเหล้าวอดก้า

รัสเซียได้รับผลกระทบไหม

ราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้นทำให้รัสเซียมีทุนไปสนับสนุนการทำสงคราม ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ารายได้ที่รัสเซียได้จากน้ำมันดิบสูงขึ้น 41% ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี รัสเซียก็เริ่มอ่อนแอจากผลกระทบด้านอื่น ๆ อาทิ ไม่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนที่ทำจากเทคโนโลยีระดับสูงที่กองทัพของรัสเซียต้องการ

รัสเซียตอบโต้อย่างไร

รัสเซียสั่งระงับส่งออกสินค้ามากกว่า 200 ประเภท อาทิ ด้านโทรคมนาคม, การแพทย์, ยานพาหนะ, การเกษตร และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์

รัสเซียสั่งห้ามจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่เป็นชาวต่างชาติ และก็ห้ามไม่ให้บริษัทรัสเซียจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นที่อยู่ต่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้ลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในรัสเซียเป็นเงินมหาศาลยังถูกระงับไม่ให้สามารถขายหุ้นได้

กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกคำสั่งเรียกเกณฑ์กำลังทหารเพิ่มอีก 120,000 นาย แต่อ้างไม่เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน นิวยอร์กไทม์สเปิดเผยทหารรัสเซียคุยกัน เอาชุดเกราะออกจากศพทหารยูเครนชี้ ชุดเกราะนาโตดีกว่า บ่นถึงความขาดแคลนอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ที่เก่าคร่ำครึของฝ่ายรัสเซีย ด้านรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน ออกโรงประณามคำขู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ของผู้นำรัสเซีย แต่ชี้ว่ายังมองไม่เห็นสิ่งผิดปกติที่บ่งชี้จะเตรียมใช้ในสงครามยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่

ปูตินระดมพลเพิ่ม 120,000 ราย

เมโทร สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อ 1 ต.ค.ว่า ตามคำสั่งใหม่ที่ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียที่สำนักข่าวทาซ (TASS) ของรัสเซียกล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ลงนามเรียบร้อยแล้วเรียกเกณฑ์ทหารเพิ่มชายชาวรัสเซียอายุระหว่าง 18-27 ปี ระหว่างที่กำลังศึกษาระดับสูง

ในคำประกาศระบุว่า เป็นการเกณฑ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามยูเครน แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์เมโทรระบุว่า เป็นที่บังเอิญว่าคำสั่งเรียกกำลังพลเพิ่มนี้ตรงกับการเคลื่อนกำลังพลบางส่วนสำหรับสงครามขั้นถัดไปของยูเครนซึ่งจะเห็นกำลังทหารรัสเซียอีก 300,000 นายถูกส่งสู่แนวหน้า

ซึ่งภาพที่เปิดเผยครั้งแรกวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) ถึงสภาพกำลังทหารกองหนุนใหม่ของรัสเซียที่ถูกเรียกตัวมาแสดงให้เห็นสภาพความยากลำบากของกองทัพปูตินได้เป็นอย่างดี สื่ออังกฤษชี้

เพราะภาพกองกำลังกองหนุนในเซวาสโตโปล (Sevastopol) ของไครเมียที่ถูกผนวกไปตั้งแต่ปี 2014 แสดงให้เห็นกลุ่มทหารกองหนุนอายุราว 50-60 ปี ที่แบกปืนในสภาพที่ไม่ดูเหมือนว่าจะมีความพร้อมสู่สนามรบ

ซึ่งสำหรับการรบของกองทัพสมัยใหม่มักจะต้องใช้เวลาราว 10 สัปดาห์สำหรับผู้ที่สมัครเข้าใหม่ก่อนไปรบ แต่รัสเซียประกาศว่าจะใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ก่อนส่งไปรบในยูเครน แต่ทว่ากลุ่มสิทธิมนุษยชนที่โพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดีย เทเลแกรม ได้ระบุว่า ในความเป็นจริงใช้เวลาสั้นกว่านั้นมาก โดย เพอร์วี ออตเดล (Perviy Otdel) ซึ่งได้รับการเกณฑ์ใหม่จากกองทัพรัสเซียยืนยันว่า

“พวกเราได้รับการบอกอย่างเป็นทางการจะไม่มีการฝึกก่อนพวกเราจะถูกส่งไปยังสนามรบ” และเสริมต่อว่า “ในวันที่ 29 ก.ย. พวกเราจะถูกส่งไปยังเมืองเคียร์ซอน (Kherson)” และชี้ว่าผู้บัญชาการหน่วยยืนยันในเรื่องนี้แล้ว

เซเลนสกี ขอเข้านาโตแบบเร่งด่วน หลังรัสเซียควบรวม 4 แคว้น

บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า ตนกำลังของสถานะสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) แบบเร่งด่วน หลังประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย พยายามผนวก 4 แคว้นยูเครนที่รัสเซียยึดครอง ได้แก่ แคว้นลูฮันสค์และแคว้นโดเนตสค์ ทางตะวันออกของยูเครน และบางส่วนของแคว้นซาโปริฌเฌียและแคว้นเคอร์ซอน ทางใต้ของยูเครน

นายเซเลนสกีโพสต์ข้อความบนแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมว่า เราพิสูจน์ความเข้ากันได้ของเรากับมาตรฐานของพันธมิตร (นาโต) แล้ว เรากำลังดำเนินการอย่างเด็ดขาดโดยการลงนามใบสมัครของยูเครนสำหรับการเข้าร่วมนาโต้แบบเร่งด่วน

นอกจากนี้ นายเซเลนสกีกล่าวหลังการประชุมฉุกเฉินของสภาความมั่นคงและกลาโหมของยูเครนว่า ฟินแลนด์และสวีเดนเริ่มกระบวนการดังกล่าวเพื่อเข้าร่วมนาโตโดยปราศจากการเข้าร่วมแผนการได้รับสถานะสมาชิกอย่างเป็นทางการ ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม ยูเครนต้องได้สิทธิดังกล่าวเช่นกัน

นายเซเลนสกียังอ้างถึงการเรียกร้องการฟื้นฟูการเจรจาระหว่างยูเครนและรัสเซียว่า ประเทศของเราพยายามตลอดที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ในเงื่อนไขอย่างเท่าเทียมกัน เที่ยงตรง มีเกียรติ และยุติธรรม และชี้ว่า การเจรจาสันติภาพกับนายปูตินเป็นไปไม่ได้

"เขาไม่รู้ว่าศักดิ์ศรีและความซื่อสัตย์คืออะไร นั่นเป็นเหตุผลที่เราพร้อมสำหรับการเจรจากับรัสเซีย แต่พร้อมกับประธานาธิบดีรัสเซียคนอื่น" นายเซเลนสกี ระบุ

ที่มา : BBC, Reuters