รวมสถานที่จัดงานเทศกาลกินเจทั่วไทย 2565 เริ่มวันแรก 26 ก.ย. นี้

รวมสถานที่จัดงานเทศกาลกินเจทั่วไทย 2565 เริ่มวันแรก 26 ก.ย. นี้
Highlight

เทศกาลกินเจ 2565 เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. - 4 ต.ค. 65 รวมทั้งสิ้นเป็นระยะเวลา 9 วัน 9 คืน ซึ่งหากนับตามปฏิทินจันทรคติจีน ก็จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 จนไปสิ้นสุดในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกๆ ปี ทั้งนี้ก่อนที่จะเข้าสู่การกินเจวันแรก หลายคนก็อาจจะเตรียมความพร้อมด้วยการ "กินล้างท้อง" ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2565 ซึ่งหมายถึงการเริ่มกินเจล่วงหน้า 1 วัน เพื่อให้ร่างกายปรับให้คุ้นเคยกับการกินเจ นอกจากดีต่อสุขภาพแล้วยัง “อิ่มบุญ”อีกด้วย ในปีนี้ มีการจัดงานหลายพื้นที่ต้อนรับการท่องเที่ยวที่กำลังจะฟื้นตัว


20220925-a-02.jpg
20220925-a-04.jpg

ใกล้เข้ามาแล้วกับ “เทศกาลกินเจ 2565” โดยปีนี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 บางแห่งเรียกว่าประเพณีถือศีลกินผัก เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋า กำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 รวม 9 วัน

คนไทยเชื้อสายจีนจะถือศีล ภาวนา และทำบุญด้วยการรักษาศีล 8 งดการกิน การปรุง จากเนื้อสัตว์

ในเรื่องของการจัดงาน ปีนี้หลายพื้นที่กลับมาจัดงานกันอีกครั้ง หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการจัดงานขึ้นในพื้นที่  TQM ได้รวบรวมพิกัดจัดงานเทศกาลกินเจ 2565 ทั่วไทยไว้เรียบร้อยแล้ว มีที่ไหนกันบ้าง

20220925-a-03.jpg

เทศกาลกินเจเยาวราช 2565 จังหวัดกรุงเทพมหานคร

เริ่มกันที่สถานที่ขึ้นชื่ออย่าง เยาวราช โดยปีนี้มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 ที่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนม พรรษา ถนนเยาวราช ภายในงานจะอัญเชิญผงธูปมวลสารจาก 22 ศาลเจ้า และพิธีอัญเชิญเทพเจ้าของการกินเจ “กิวอ๋อง ฮุกโจ้ว เต้าบ้อเนี้ย น่ำซิ้ง ปั๊กเต้า แชกุง” มาประดิษฐานที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติฯ ส่วนบนถนนเยาราชทั้งสายจะมีร้านค้าจำหน่ายอาหารเจตลอดเส้นทาง 

โดยพิธีเปิดงานวันจันทร์ที่ 26 กันยายนนี้ ได้มีการทำอาหารเจมงคลกระทะใหญ่ “ผัดหมี่ 10 จักรพรรดิมังกร” โดยมาสเตอร์เชฟโรงแรม แกรนด์ไชน่า เยาวราช มาปรุงอาหารพร้อมแจกฟรี ให้ผู้ร่วมงานจำนวน 1,790 จาน และในวันเดียวกันจะมีขบวนแห่รถบุปผชาติองค์สมมติพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม การแสดงโชว์เชิดมังกรเงินยาว 70 เมตร มังกรทองยาว 90 เมตร ปีนเสาล่อแก้ว พ่นไฟ และสิงโตต่อตัวตีลังกากว่า 25 หัว ขบวนเทิดพระเกียรติ ขบวนจากผู้สนับสนุน และขบวนอื่น ๆ อีกมากมาย

เทศกาลกินเจหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

สำหรับเทศกาลกินเจหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะถูกจัดขึ้น 25 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 บริเวณสวนหย่อมศุภสารรังสรรค์ (สวนหย่อมเซี้ยงตึ้ง)  ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ มากมายทั้ง ขบวนมังกรทองสิงโต, เทพเจ้า, คนเดิน, ม้าทรง จากศาลเจ้าต่างๆ การสาธิตการปรุงอาหารเจ การแข่งขันกินอาหารเจ และอีกมากมาย

20220925-a-01.jpg

ประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต

ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเทศกาลกินเจ สำหรับประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 ภายในงานมีกิจกรรมมากมายทั้งขบวนแห่เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พิธีส่งเก๊ง (สวดมนต์) เพื่อถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  พิธีเอี๊ยวเก้ง (พิธีแห่พระ), พิธีโกยโห๊ย (พิธีลุยไฟ) และพิธีโกยห่าน (พิธีสะเดาะเคราะห์) ฯลฯ

เทศกาลถือศีลกินเจ จังหวัดนครสวรรค์

ในส่วนของงานเทศกาลถือศีลกินเจ จังหวัดนครสวรรค์ จะจัดขึ้นบริเวณศาลเจ้าหน้าผา ตำบลปากน้ำโพ ในช่วงวันที่ 26 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วย พิธีแห่องค์พระกิ่วอ๊วงฮุกโจ้วและเจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ สวนสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม และอาหารเจมงคลมากมายบริเวณภายในงาน

งานไหว้เจ้า 9 ศาล จังหวัดสมุทรสาคร

ด้านจังหวัดสมุทรสาครได้จัดงานไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจ สมุทรสาคร 2565 ณ ศาลเจ้า 9 แห่งในจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่24 กันยายน - 4 กันยายน 2565 โดยผู้ที่มาร่วมงานจะได้รับหนังสือพาสปอร์ตท่องเที่ยวได้ที่ศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง เพื่อเดินทางสักการะศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง หากได้รับการประทับตราบนพาสปอร์ตจะได้รับฟรี เหรียญมงคล เหรียญ 12 นักษัตร และจะมีรถราง บริการรับ-ส่ง ตลอดเส้นทาง ทั้ง 9 ศาลอีกด้วย

เทศกาลกินเจ จังหวัดอุดรธานี

สำหรับเทศกาลกินเจ จังหวัดอุดรธานี ถูกจัดขึ้นระหว่างวันที่ วันที่24 กันยายน - 3 ตุลาคม 2565 บริเวณ ศาลเจ้าปู่-ย่าอุดรธานี ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีน จังหวัดอุดรธานี โดยจะมีกิจกรรมประเพณี “สักการะบูชาด้วยความบริสุทธิ์” รักษาอุโบสถศีล ไม่บริโภคอะไรหลังเที่ยงวันตามหลักศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์


และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่จัดเทศกาลกินเจ 2565 เท่านั้น ยังมีอีกหลายจังหวัดหลายพื้นที่ได้จัดขึ้น เรียกได้ว่าใครสะดวกที่ไหนสามารถขับรถไปชมงาน หรือไปรับประทานอาหารเจภายในงาน หากเราต้องการทำอาหารรับประทานเองหรือซื้อกลับมาทานที่บ้านมีข้อควรระวังและคำแนะนำจาก กรมอนามัย ดังนี้

การกินเจที่ถูกหลักโภชนาการ ผู้บริโภคควรเลือกซื้อหรือปรุงอาหารเมนูประเภทยำ ต้ม นึ่ง  ลดอาหารประเภทผัด ทอด และกินอาหารที่มีรสชาติปานกลาง ไม่หวาน มัน เค็มจัด เพราะส่วนใหญ่อาหารเจ  มักออกไปทางมัน เลือกกินอาหารเจประเภท ต้ม แกง ย่าง ยำ น้ำพริก กินข้าวแป้งแต่พอดี เลี่ยงอาหารแปรรูป  ซึ่งอาหารเจส่วนใหญ่จะมีแป้งแฝง เช่น การใช้แป้งหมี่กึงมาทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ ซึ่งทำให้คาร์โบไฮเดรตเกิน อีกทั้งในช่วงกินเจอาจทำให้รู้สึกหิวบ่อย ให้เลือกผลิตภัณฑ์นมจากพืชเสริม โดยเลือกชนิดไม่หวานจัด มีปริมาณโปรตีนและแคลเซียมเหมาะสม งดเครื่องดื่มที่มีรสหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง 

ไม่ควรเลือกกินเมนูอาหารชนิดเดิมซ้ำทุกวัน จะทำให้เกิดการสะสมสารพิษ และเกิดโรคได้ อีกทั้งควรใส่ใจเรื่องความสะอาดปลอดภัยวัตถุดิบที่นำมาปรุงประกอบอาหาร โดยเฉพาะจากพืชผักควรล้างให้สะอาดหรือเลือกใช้ผักปลอดสารพิษที่มีการรับรองโดยหน่วยงานภาครัฐจากแหล่งผลิตในการปรุงประกอบ อาหารเจแทนการใช้ผักที่มีความเสี่ยงปนเปื้อน สารพิษจะปลอดภัยกว่า สิ่งสำคัญหากในช่วงกินเจดื่มน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ใยอาหารเกาะตัวในร่างกายมาก อาจทำให้เกิดอาการท้องผูก เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ไม่สบายท้อง ได้ จึงควรดื่มน้ำให้ได้   6-8 แก้วต่อวัน

ด้านกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะ ในช่วงเทศกาลกินเจ แนะนำให้รับประทานพืชสมุนไพร 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 พืชสมุนไพรที่กินง่าย ช่วยให้อยู่ท้อง ได้แก่ กล้วยน้ำว้าสุก ธัญพืช มันเทศ ข้าวโพดหวาน 

กลุ่มที่ 2 พืชสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้แก่ ขิง พริกไทย 

กลุ่มที่ 3 พืชสมุนไพรที่ช่วยป้องกันความดัน เบาหวานขึ้น เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำดอกคำฝอย น้ำตะไคร้ น้ำตรีผลา (สมอไทย สมอพิเภก มะขามป้อม) และเลือกใช้ยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อดูแลอาการที่ไม่พึงประสงค์จากภาวะกินเจ มีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย เช่น ยาขมิ้นชัน ยามะระขี้นก ยาเหลืองปิดสมุทร

ปีนี้ราคาข้าวของแพงขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูงขึ้น อาจทำให้เทศกาลกินเจ ไม่คึกคักเท่าปีก่อนๆ  แต่ถึงอย่างไร การกินเจ ก็ช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรง   ขอให้ทุกคนได้รับความสุข และอิ่มบุญกันถ้วนหน้า

ที่มา : TQM,   กรมอนามัย

ติดต่อโฆษณา!