จีนยกหนี้ให้ 17 ประเทศในแอฟริกา แถมโยกเงินจาก IMF ให้อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์

จีนยกหนี้ให้ 17 ประเทศในแอฟริกา แถมโยกเงินจาก IMF ให้อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์
Highlight

จีน ประกาศยกหนี้เงินกู้ปราศจากดอกเบี้ย 23 รายการให้กับประเทศในแอฟริกา 17 ประเทศ พร้อมโยกเงินทุนสำรองกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ไปให้กับชาติต่าง ๆ ในแอฟริกา เพื่อบรรเทาปัญหาด้านเศรษฐกิจและการติดกับดักดอกเบี้ยขาขึ้น ที่นำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลก โดยอาจมีการผิดชำระหนี้สูงเป็นประวัติการณ์ แต่โครงการนี้ไม่รวมลูกหนี้ที่ขอกู้แบบผ่อนปรนที่มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำและมีระยะการคืนเงินยาวนาน


หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศและมนตรีแห่งรัฐของจีน ประกาศยกหนี้เงินกู้จำนวน 23 รายการ ดังกล่าวให้กับประเทศในแอฟริกา ในที่ประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่ายกหนี้เงินกู้จำนวนเท่าใดให้กับประเทศไหนบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นหนี้เงินกู้ที่ปราศจากดอกเบี้ยให้กับประเทศในแอฟริกา 17 ประเทศ

ขณะที่ ข้อมูลจากสถาบันศึกษาก้าวหน้าระหว่างประเทศ ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ พบว่า ตั้งแต่ปี 2000 จีนได้ประกาศยกหนี้เงินกู้ให้กับประเทศในแอฟริกาหลายรอบ เฉพาะในปี 2019 ก็ยกหนี้ไปจำนวนกว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.2 แสนล้านบาท โดยเกือบทั้งหมดเป็นหนี้เงินกู้ระหว่างประเทศแบบไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งแซมเบียได้ประโยชน์จากการยกหนี้ในรอบนี้มากที่สุด

สำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้ จีนไม่ได้พิจารณายกหนี้เงินกู้แบบผ่อนปรน (concessional loan) ที่มีระยะเวลาในการชำระเงินคืนยาวกว่าเงินกู้ทั่วไปและมีอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก และเงินกู้เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งเป็นรูปแบบของเงินกู้ส่วนใหญ่ที่จีนให้กู้กับชาติในแอฟริกา แต่ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ให้กับประเทศลูกหนี้ในแอฟริกาเหล่านี้ เพื่อลดผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed จนสุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้ประเทศลูกหนี้เงินกู้หลายประเทศทั่วโลก ติดกับดักหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ต่างชาติได้ จนอาจเกิดการผิดนัดชำระหนี้มากเป็นประวัติการณ์ เพราะล้วนได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจมาตั้งแต่ก่อนโควิด-19 ระบาดแล้ว

ที่ผ่านมา จีนมักถูกหลายฝ่ายกล่าวหาว่า ความร่วมมือของจีนกับชาติแอฟริกาและประเทศยากจนในภูมิภาคอื่น ๆ ทำให้เกิด ‘กับดักหนี้’ ขึ้น แต่ในเวลาเดียวกัน จีนก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดข้อตกลงปลดหนี้ โดยร่วมมือกับประเทศในกลุ่ม G20 ชะลอการชำระหนี้ของลูกหนี้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19

ก่อนหน้านี้ หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เคยเดินทางเยือน 3 ประเทศแอฟริกาตะวันออก และถือโอกาสนี้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า ความร่วมมือของจีนกับแอฟริกาทำให้เกิดกับดักหนี้ ยืนยันว่าโครงการเงินกู้และสินเชื่อที่จีนให้กับหลายชาติในแอฟริกานั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ได้เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน กับการอ่อนข้อทางการค้าและการทูตแก่จีนแต่อย่างใด และผู้ที่กล่าวหาเช่นนั้น เพราะไม่อยากเห็นแอฟริกามีการพัฒนา

นอกจากยกหนี้เงินกู้ปราศจากดอกเบี้ยให้ชาติในแอฟริกา จีนยังประกาศพร้อมโยกเงินทุนสำรองกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3.6 แสนล้านบาท ในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ของตน ไปให้กับประเทศยากจนในแอฟริกา และภูมิภาคอื่น ๆ ด้วย ระบุว่า เป็นไปตามนโยบายของ คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF ที่ต้องการให้ประเทศร่ำรวยช่วยเหลือประเทศยากจนมากขึ้น ด้วยการให้เงินกู้และเงินให้เปล่า

นอกจากนี้ จีนให้คำมั่นที่จะเสริมสร้างการค้ากับแอฟริกา และได้ทำข้อตกลงกับ 12 ประเทศในทวีปนี้ เพื่อยกเลิกภาษี 98% ของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาส่งออกไปยังจีน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าแอฟริกัน พร้อมทั้งย้ำว่า จีนจะยังคงให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร เศรษฐกิจ และการทหารแก่แอฟริกา เพิ่มเติมจากความช่วยเหลือในการต่อสู้กับโควิด-19 โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

ทั้งนี้ จีนยังได้เสนอการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อตอกย้ำว่า ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ก็เพื่อความผาสุกของประชาชน ไม่ใช่การแข่งขันระดับประเทศใหญ่เพื่อผลประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์

ความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ของจีน สะท้อนความพยายามของจีนในการกระชับความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในแอฟริกา ซึ่งจีนมองว่า มีบทบาทสำคัญในโครงการ Belt and Road Initiative ซึ่งเป็นโครงการโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ย้ายศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกไปทางทิศตะวันออก โดย หวัง อี้ ย้ำว่า จีนและแอฟริกายืนเคียงข้างกันเพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือด้านต่าง ๆ ไม่ใช่เพียงเพื่อหาพันธมิตรสร้างบรรยากาศสงครามเย็นแบบที่บางประเทศกำลังทำอยู่

เป็นที่ทราบกันดีว่า จีนและสหรัฐฯ กำลังแข่งกันสั่งสมและสร้างอิทธิพลไปทั่วโลก ขณะที่การประกาศยกหนี้ให้ประเทศในแอฟริกาของจีน เกิดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กำลังตกต่ำดำดิ่งถึงขีดสุด จากการเดินทางเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และการที่จีนอยู่ข้างรัสเซียที่กำลังปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

สำหรับสหรัฐฯ ก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ได้เดินทางเยือนยูกันดาและกานาในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม พร้อมกับขู่ประเทศในแอฟริกาว่า พวกเขาไม่สามารถค้าขายกับรัสเซียได้ เพราะจะละเมิดการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก

ส่วนแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ไปเยือนแอฟริกาใต้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และรวันดาในเดือนนี้เช่นกัน เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่มุ่งลดความสัมพันธ์ระหว่างแอฟริกากับจีนและรัสเซีย

อ้างอิง : Reuters, TNNWorldNews



ติดต่อโฆษณา!