รวมจุดท่องเที่ยว 'สกายวอล์ก' ทั่วไทย ที่น่าสนใจไปเยือน!

รวมจุดท่องเที่ยว 'สกายวอล์ก' ทั่วไทย ที่น่าสนใจไปเยือน!
Highlight
กระแสการท่องเที่ยวสกายวอล์กจุดชมวิวลอยฟ้า มุม 360 องศา โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันตื่นตาตื่นใจ กำลังเป็นกระแสทั่วไทยในเวลานี้ Sky Walk บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแควและมีสถานที่ใหม่ๆเกิดขึ้นมารอรับนักท่องเที่ยวการมาเยือนหลายจุดด้วยกัน สกายวอล์กแห่งใหม่ที่กำลังเป็นสนใจจับตามอง คือ Sky Walk บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ในพื้นที่บ้านลิ้นช้าง ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี หลังจากที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเยือนไปเยือนเมื่อ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา


20220806-b-01.jpg

Sky Walk บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ กาญจนบุรี กำลังเป็นที่กล่าวถึง และเป็นแหล่งเช็คอินใหม่ของนักท่องเที่ยว ที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สวยงามของทั้งสองฝั่งแม่น้ำและสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพแม่น้ำสองสี ที่ไหลมาบรรจบกันระหว่างแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ เป็นแม่น้ำแม่กลอง  ทั้งสองฝั่งแม่น้ำมีการจัดระเบียบและปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยจัดทำเป็น Walking Street เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมทั้งเป็นพื้นที่สาธารณะ สถานที่พักผ่อนที่มีความปลอดภัยและใช้ประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำหรับสกายวอล์กที่น่าสนใจ และเป็นจุดชมวิวหลักล้านทั่วประเทศมีที่ไหนกันบ้าง ไปดูกันได้เลย  .. 
 
รวมจุดท่องเที่ยวสกายวอล์กทั่วไทย ที่น่าไปเยือน  
  
20220806-b-05.jpg

1. มหานคร สกายวอล์ค กรุงเทพ  

 
จุดชมวิวสุดหวาดเสียวบนตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนชั้น 78 ของตึกมหานคร สูงเหนือระดับพื้นดินถึง 314 เมตร มีลักษณะเป็นพื้นกระจกใสกว้าง ซึ่งสามารถมองทะลุลงไปได้ถึงข้างล่างของตัวอาคาร นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเข้าไปยืนถ่ายรูปชิค ๆ กับบริเวณพื้นกระจกได้ ในจุดนี้จะสามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา 
 
สำหรับการเข้าชมนั้นจะเข้าชมได้ 3 ส่วน คือ ชั้น 74 เป็นจุดชมวิวภายในอาคาร, จุดชมวิวภายนอกอาคารชั้น 74 และจุดชมวิวชั้น 78 โดยเปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ kingpowermahanakhon.co.th 
 
20220806-b-06.jpg

2. สกายวอล์กวัดตะแบก จังหวัดชลบุรี  
 
สกายวอล์กที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีลักษณะเป็นทางเดินทอดยาวไปกลางอากาศ เหนือยอดไม้ สูงจากพื้นดินกว่า 25 เมตร มีระยะทางทั้งหมด 226 เมตร โดยจุดที่เป็นไฮไลต์จะอยู่บริเวณสะพานกระจกใส ระยะทาง 50 เมตร สามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้อย่างชัดเจน ขอบสะพานเป็นกระจก ทำให้มองเห็นวิวรอบด้านได้อย่างสวยงาม สะพานจะรองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 100 คน 
 
สกายวอล์กวัดตะแบก เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. โดยมีค่าเข้าชมคนละ 40 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดเขาตะแบก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 
- สกายวอล์ก วัดเขาตะแบก ชลบุรี ชวนท้าความเสียวพื้นกระจกใสแจ๋ว 
 20220806-b-07.jpg
3. สกายวอล์กวัดผาตากเสื้อ จังหวัดหนองคาย  
 
สกายวอล์กแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาของวัดผาตากเสื้อ ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีลักษณะเป็นทางเดินรูปตัวยูยื่นออกไปจากหน้าผา 6 เมตร โดยทางเดินจะกว้างราว ๆ 1.50 เมตร พื้นและราวกั้นเป็นกระจกแทมเพอร์ลามิเนต สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตร สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำโขงและวิวทิวทัศน์ของประเทศลาวได้อย่างสวยงามมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงฤดูหนาว ยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกแบบอลังการได้อีกด้วย 
 
สกายวอล์ก วัดผาตากเสื้อ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดผาตากเสื้อ 
20220806-b-08.jpg
 
4. สกายวอล์กพระใหญ่ภูคกงิ้ว จังหวัดเลย 
         
สกายวอล์กพระใหญ่ภูคกงิ้ว หรือที่เรียกกันว่าสกายวอล์กเชียงคาน เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดเลย ตั้งอยู่ที่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเหือง ไหลมาลงแม่น้ำโขง บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย มีลักษณะเป็นทางเดินกระจกริมแม่น้ำโขง พื้นทางเดินทำด้วยกระจกใส ความยาวรวมกัน 100 เมตร กว้าง 2 เมตร มีความสูงจากน้ำโขง 80 เมตร เท่ากับตึก 30 ชั้น ยื่นออกไปบริเวณหน้าผา 21 เมตร มีจุดชมวิว 3 จุด สามารถเดินชมวิวได้อย่างเพลิดเพลินกับทางเดินที่ยาวกว่า 80 เมตร 
- สกายวอล์กเชียงคาน จุดชมวิวทะเลหมอก-แม่น้ำสองสี 2 ฝั่งโขง 
 
20220806-b-09.jpg

5. Canopy Walkway สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จังหวัดเชียงใหม่ 
 
Canopy Walkway ตั้งอยู่ภายในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นทางเดินเหนือเรือนยอดไม้สูงจากพื้นดินราว ๆ 20 เมตร ระยะทางประมาณ 400 เมตร สามารถเดินชมวิวทิวทัศน์ของป่าไม้รอบ ๆ ได้อย่างใกล้ชิด และสวยงามสุด ๆ โดยที่พื้นของทางเดินนั้นจะปูด้วยแผ่นเหล็กสลับกับบางส่วนที่เป็นพื้นกระจกยังมองเห็นสวนด้านล่างได้อีกด้วย มีความหวาดเสียวเบา ๆ ให้กับผู้เข้าชม ซึ่งถือว่าเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ไปในคราเดียวกัน 
 
อัตราค่าเข้าชมและค่าบริการต่าง ๆ สำหรับผู้ใหญ่ และนักศึกษา ราคา 40 บาท, นักเรียน และเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ราคา 20 บาท, ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พระภิกษุ-สามเณร และผู้พิการ ไม่เสียค่าเข้าชม สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำรถยนต์ส่วนตัวเข้าชมจะต้องเสียค่าบริการ 100 บาท/คัน และสำหรับค่าบริการรถชมภายในสวน สำหรับผู้ใหญ่ ราคา 30 บาท, เด็กราคา 10 บาท เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ qsbg.org และ เฟซบุ๊ก สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 

20220806-b-10.jpg
 
6. สกายวอล์ก ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา  
           
จุดชมวิวทะเลหมอกในรูปแบบสกายวอล์ก สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แบบ 360 องศา ชมได้ตลอดทั้งปี ตั้งอยู่บนยอดเขาไมโครเวฟ บริเวณใกล้เคียงกับเสาทวนสัญญาณและจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ในพื้นที่บ้านธารมะลิ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีลักษณะเป็นโครงสร้างอาคารเป็นเหล็กรูปพรรณ ความสูง 45 เมตร โดยมีลักษณะเป็นทางเดินยื่นออกไปในอากาศ 33 เมตร โดยมีจุดไฮไลต์อยู่ที่ระเบียงพื้นกระจกใส อีกทั้งผนังของสะพานยังสร้างเป็นกระจกใสด้วยเช่นกัน 
 
สกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.30-09.30 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เบตง 
สกายวอล์กอัยเยอร์เวง ที่เที่ยวเบตงแห่งใหม่ เปิดให้เข้าชมได้แล้ว 
20220806-b-11.jpg
 
7. สกายวอล์ก จังหวัดปัตตานี           
 
ตั้งอยู่ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (สวนแม่-สวนลูก) ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 12 เมตร และทางเดินที่เป็นตาข่ายเหล็กโปร่งความยาว 400 เมตร มีบันไดขึ้นลง 2 จุด และมีศาลานั่งพักเหนื่อย 5 จุด สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 400 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร พร้อมวิวหลักล้าน มองออกไปทางทิศตะวันตกจะเห็นทะเลอ่าวไทย (ปากอ่าวปัตตานี) และแหลมตาชี ส่วนฝั่งทิศตะวันออกจะเห็นวิวทิวทัศน์ของเขาทรายขาวหรือเขารังเกียบ พร้อมกับชมทัศนียภาพของผืนป่าชายเลน แบบ 360 องศา ยามเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าได้อีกด้วย เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ เทศบาลเมืองปัตตานี 


20220806-b-02.jpg
 
8. สกายวอล์ก ภูเลิศ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 
 
ซึ่งเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว ที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ วิวทิวทัศน์เต็มไปด้วยภูเขา ธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม กับความงดงามที่คุณต้องมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง นอกจากนี้ยังได้เห็นพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่โอบล้อมไปด้วยทะเลภูเขาสวยงาม เป็นวิวธรรมชาติที่ผสมผสานกับศิลปะวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวสำหรับ สกายวอล์คเขาค้อภูเลิศ : Skywalk Khaokho PhuLerd ตั้งพิกัดอยู่ตำบลแคมป์สน ตรงข้ามทางขึ้นวัดผาซ่อนแก้ว เป็นสกายวอล์คชมวิวสวยแห่งแรกในเขาค้อ บนทางเดินลอยฟ้า ยาวกว่า 88 เมตร นอกจากนี้ยังมี Cafa Sky walk บริการเครื่องดื่ม เบเกอรี่ในพื้นที่อีกด้วย นับว่าเป็นจุดเช็คอินใหม่ในเขาค้อที่ไม่ควรพลาด!ราคาตั๋วเข้าชมสกายวอล์คเขาค้อ คนละ 100 บาท นักเรียนรับส่วนลดครึ่งราคา และเด็กเล็กได้สิทธิ์เข้าชมฟรี!! ตั๋ว 1 ใบนำไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มที่ร้าน Cafa Sky walk 20บาท/แก้ว 


20220806-b-12.jpg
 
9. สกายวอล์ก ควนหรนฮิลล์ จังหวัดสงขลา 
 
ควนหรนฮิลล์ สกายวอร์กแห่งแรกในจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ท่าคลอง ตำบลท่าสะท้อน อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา หลายคนได้ฟังชื่อครั้งแรก อาจจะรู้สึก เอ๊ะ ! ควนหรนฮิลล์ คืออะไร หรือแปลว่าอะไรนะ จริง ๆ แล้ว “ควน” แปลว่า เนิน ดังจะเป็นว่าที่นี่มีลักษณะคล้ายเนินภูเขาสูง บรรยากาศดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางไปเก็บเกี่ยวความสวยงามของธรรมชาติ รายละเอียด ชมภาพเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์นี้ ควนหรนฮิลล์


20220806-b-13.jpg

10. หอชมฟ้า “Bota Sky Tower" นครศรีธรรมราช 
 
“หอชมฟ้า Bota Sky Tower" อุทยานสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จุดชมวิวชมฟ้าท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ แลนด์มาร์กใหม่คู่อุทยานสวนพฤกษศาสตร์ นครศรีธรรมราช เพิ่งเปิดตัวไปหมาดเมื่อ เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่สนใจ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้จาก เฟซบุ๊กเพจ รวมพลคนท่าศาลา ซึ่งได้เผยแพร่ภาพความสวยงามของหอชมฟ้า Bota Sky Tower เอาไว้แล้ว

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wu.ac.th/th/news/21554 


20220806-b-14.jpg
 
11. สกายวอล์คเขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี  
 
จุดชมวิว 1000 ล้าน. อ.สิริธร จ.อุบลฯ แหล่งท่องเที่ยวทางเดินชมธรรมชาติ ให้ประชาชนได้เดินชมความสวยงามของทิวทัศน์ได้อย่างใกล้ชิด เส้นทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway ความยาว 415 เมตร ) เฟส 1 ความยาว 200 เมตรเสร็จแล้ว พร้อมกันกับโครงการก่อสร้าง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ

พิกัด : https://goo.gl/maps/WaRmwdZWfuVGVGx79 
 
ที่มา : travel kapook, สถานีข่าววีเคเบิล ทีวีอุบลฯ 
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/57638
ติดต่อโฆษณา!