เมืองไทยสุดยอด-กรุงเทพฯ รั้งอันดับหนึ่ง Best Cities in Southeast Asia

เมืองไทยสุดยอด-กรุงเทพฯ รั้งอันดับหนึ่ง Best Cities in Southeast Asia
Highlight

Travel + Leisure เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง ยกกรุงเทพฯ เป็นอันดับหนึ่ง Best Cities in Southeast Asia นอกจากนี้ เกาะภูเก็ต และสมุยได้อันดับ 1 และอันดับ 2 ประเภท Best Islands in Southeast Asia อีกด้วย เหตุผลที่ไทยยังเป็นอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกคือ รอยยิ้มที่อบอุ่น Street Food ที่อร่อย เดินทางสะดวก ปลอดภัยอยู่กินแบบหรูหราแต่ราคาถูก โดยที่ 6 เดือนแรกปี 65 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 1.7 ล้านคน นำโดย อินเดีย มาเลเซีย

ไทยสุดปลื้มหลังเว็บไซต์ท่องเที่ยว Travel + Leisure ยกให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ได้คะแนนจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้ (Best Cities in Southeast Asia 2022) ด้านเกาะภูเก็ต และเกาะสมุย เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Islands in Southeast Asia 2022) ในอันดับ 1 และ อันดับ 2 ตามลำดับ

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในปีนี้ หลังจากเว็บไซต์ท่องเที่ยว Travel + Leisure เปิดเผยผลการลงคะแนนจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

 

โดยในประเภทเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Cities in Southeast Asia 2022) กรุงเทพฯ ประเทศไทย ได้รับการลงคะแนนมาเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยสิงคโปร์ นครดานัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงฮานอย เมืองเชียงใหม่ เกาะฮ่องกง นครโฮจิมินห์ กรุงพนมเปญ และ
กรุงจาการ์ตา

 

โดยเหตุผลหลายประการที่ทำให้กรุงเทพฯ ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาโดยเสมอ คือ รอยยิ้มที่อบอุ่น Street food ที่อร่อย  และความรู้สึกดีของการนั่งรถตุ๊กๆ หรือมอเตอร์ไซค์ ตระเวนเที่ยวทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นเมืองที่มีความหลากหลายสามารถพบประสบการณ์การเที่ยวแบบหรูหรา พักในห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว และอาหารระดับดาวมิชลิน

 

นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ยังเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างสะดวก และสามารถเลือกเดินทางได้หลากหลาย รูปแบบ / ทางเลือก 

 20220709-a-01.jpg

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวประเภทเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Best Islands in Southeast Asia 2022) พบว่า เกาะภูเก็ต ประเทศไทย ได้รับการลงคะแนนจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย เกาะสมุย เกาะบาลี (อินโดนีเซีย) เกาะฟูโกว๊ก (เวียดนาม) เกาะลังกาวี (มาเลเซีย) เกาะลอมบอก (อินโดนีเซีย)  เกาะปาลาวัน (ฟิลิปปินส์) เกาะปีนัง (มาเลเซีย) เกาะพีพี และเกาะกงด๋าว (เวียดนาม)

 

ทั้งนี้ เว็บไซต์ Travel + Leisure มองว่า นโยบาย Sandbox ของไทย สนับสนุนภาพลักษณ์ของไทยที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาได้อย่างสะดวก ในขณะที่พื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วโลกยังคงไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกาะภูเก็ตดึงดูดนักท่องเที่ยว

 

นอกจากนี้ เกาะภูเก็ตซึ่งมีชายหาดที่สวยงาม สามารถมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวได้หลายรูปแบบสำหรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม นับตั้งแต่กลุ่มที่ชื่นชอบการสังสรรค์ริมหาดยามค่ำคืน กลุ่มครอบครัว และกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมทั้งที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายหลาย และบรรยากาศของเมืองเก่าภูเก็ต ยังช่วยทำให้เกาะภูเก็ตได้รับความนิยม 

 20220709-a-02.jpg

“นายกรัฐมนตรียินดีอย่างยิ่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยังคงให้ความสำคัญ นิยมท่องเที่ยวไทย และมองว่าสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เกาะภูเก็ต เกาะสมุย สามารถสร้างความประทับใจ และประสบการณ์ที่ดีให้นักท่องเที่ยวได้

 

นอกจากนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมดำเนินนโยบายของรัฐบาลได้สำเร็จ ทำให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการดำเนินนโยบายตามช่วงเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ทำให้ไทยมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบาย Sandbox ของรัฐบาลมีจุดมุ่งหมายกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัว

 

โดยให้เกาะภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยว และขยายไปพื้นที่อื่น ๆ ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ดำเนินมาอย่างถูกช่วงเวลา ช่วยทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น และไทยยังรักษากระแสความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง” นายธนกรฯ กล่าว

 

รายงานข่าวจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แจ้งว่า ในที่ประชุม ศบค.วันนี้ (17 มิ.ย.) ได้ระบุถึง สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ตั้งแต่วันที่ 1-15 มิ.ย.2565 พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 348,699 คน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด 5 อันดับแรก มีดังนี้

1.มาเลเซีย                จำนวน 61,486 คน

2.อินเดีย                   จำนวน 51,800 คน

3.สิงคโปร์                 จำนวน 31,580 คน

4.เวียดนาม               จำนวน 18,885 คน

5.สหรัฐ                     จำนวน 15,708 คน

 

หลังจากก่อนหน้านี้ ศบค.มีมติผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย “ไม่มีการกักตัว” แม้ว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยจะยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดแล้วแต่ยังไม่ครบโดส โดยให้แสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Pro-ATK หรือ RT-PCR ล่วงหน้า 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน “มาเลเซีย” ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น

เมื่อดูนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในช่วง 1-15 มิ.ย.ที่ผ่านมา สถิติเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20,000-25,000 คนต่อวัน เฉพาะวันที่ 15 มิ.ย. เดินทางเข้ามา 23,953 คน

 

ครึ่งปี65 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยแล้ว 1,615,913 คน เพิ่มขึ้น 3,895%

 20220709-a-03.jpg


สำหรับ สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 มิ.ย.2565 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 1,615,913 คน เพิ่มขึ้น 3,895% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สร้างรายได้ 99,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 303% โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด 5 อันดับแรกในช่วงเวลาดังกล่าว มีดังนี้

1.อินเดีย                    จำนวน 169,131 คน

2.มาเลเซีย                 จำนวน 137,969 คน

3.สหราชอาณาจักร     จำนวน 107,438 คน

4.สิงคโปร์                  จำนวน 98,701 คน

5.เยอรมนี                  จำนวน 86,480 คน

 

และเมื่อดูสถิติย้อนหลังในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 มิ.ย.2565 เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวดีของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

- เดือน ม.ค.2565             จำนวน 133,903 คน

- เดือน ก.พ.2565             จำนวน 152,954 คน (+14.2% เทียบ ม.ค.65)

- เดือน มี.ค.2565             จำนวน 210,836 คน (+37.8% เทียบ ก.พ.65)

- เดือน เม.ย.2565            จำนวน 293,350 คน (+39.1% เทียบ มี.ค.65)

- เดือน พ.ค.2565             จำนวน 476,171 คน (+62.3% เทียบ เม.ย.65)

 

อัตราการฟื้นตัวของเดือน พ.ค. กระโดดอย่างเห็นได้ชัด หลังจาก ศบค.มีมติผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย “ยกเลิกระบบ Test & Go” มีผลเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มากกว่าจำนวนตลอดปี 2564 ซึ่งปิดที่ตัวเลข 427,869 คน

- วันที่ 1-15 มิ.ย.2565              จำนวน 348,699 คน

เฉพาะแค่ครึ่งแรกของเดือน มิ.ย. ก็ทำยอดได้กว่า 80% ของเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว เป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทย "ไม่มีการกักตัว" มีผลเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2565 เป็นต้นมา

 

คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 10 ล้านในปีนี้

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุม ศบค. วันนี้ (17 มิ.ย.) ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 7.5 ล้านคน

 

หลังจากรัฐบาลไทยยกเลิกระบบ Test & Go ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา และผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยจะเร่งสปีดยอดให้ได้ถึง 10 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นไตรมาส 4 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ คาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 1.5 ล้านคนต่อเดือน หรือเฉลี่ย 50,000 คนต่อวัน

 

“จากมติ ศบค.ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การยกเลิกคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ตามความสมัครใจ แต่ยังคงแนะนำให้สวมใส่เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด และการขยายเวลาการเปิดให้บริการของธุรกิจภาคกลางคืน เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ กลับคืนสู่ภาวะปกติ ให้เป็นไปตามกฎหมายเดิม เปิดบริการได้ถึงเวลา 02.00 น. จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมากขึ้น ให้ถึงเป้าหมาย 10 ล้านคนในปีนี้”

 

ขอบคุณภาพ : Wikipedia, Thaitoptour.com

ติดต่อโฆษณา!