พรุ่งนี้ลุ้น ศบค.ไฟเขียวสถานบันเทิงเปิด ผับ บาร์ ด้าน รร.กทม.สั่งปิด 23 พ.ค. 1 วัน บิ๊กคลีนนิ่งหลังเลือกตั้ง

พรุ่งนี้ลุ้น ศบค.ไฟเขียวสถานบันเทิงเปิด ผับ บาร์  ด้าน รร.กทม.สั่งปิด 23 พ.ค. 1 วัน บิ๊กคลีนนิ่งหลังเลือกตั้ง
Highlight

สถานบันเทิงจะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับการผ่อนคลายจากมาตรการควบคุมโควิด ดังนั้นเมื่อยอดการติดเชื้อและการเสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง จึงเป็นความหวังว่า ศบค.จะผ่อนคลายมาตรการลงในการประชุมวันที่ 20 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งการเสนอปรับพื้นที่สี และการปรับลดการเตือนภัยจากระดับ3 เป็นระดับ2 ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้านโรงเรียนในกทม.ประกาศปิด 23 พ.ค.นี้เพื่อทำความสะอาดหลังการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.


สมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิลป์หอไตร พร้อมด้วยตัวแทนสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน ได้เดินทางมาเข้าพบพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อหารือการช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานบันเทิง และการเปิดบริการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ

นายคทาวุธ ทองไทย (อ.ไข่ มาลีฮวนน่า) ประธานสมาพันธ์ฯ กล่าวภายหลังการหารือว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการ ภาคประชาชน มีความใจชื้นมากขึ้นที่ได้รับทราบว่า สถานการณ์โควิด-19 ผ่อนคลาย และประชาชนให้ความร่วมมือปฏิบัติมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ซึ่งเราเชื่อว่าเรามีความหวัง และจะรอผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งถ้าศบค.มีมติผ่อนคลายให้ เราก็สามารถเปิดให้บริการได้ทันที เรามีความพร้อม

ด้านนายวีกฤษ อุ่นอนุโลม ตัวแทนสมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหารกลางคืน กล่าวว่า เชื่อว่าน่าจะมีมาตรการในเร็วๆนี้ ซึ่งคงเป็นที่น่ายินดีต่อสมาคม จะได้ทำให้สถานธุรกิจ ผับ บาร์ ได้กลับมาเปิดให้บริการโดยเร็ว ซึ่งเราจะดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เรามีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะกลับมาเปิดให้บริการ เศรษฐกิจจะได้หมุนเวียนมากขึ้น

ขณะที่นายบริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเข้าพบเพื่อขอเสนอผ่อนคลายให้สถานบริการกลางคืนสามารถเปิดให้บริการได้ ศิลปินทั้งหลายจะได้มีงาน ผู้ประกอบการเปิดร้านได้ และได้ขอความช่วยเหลือเรื่องการลดภาษีสรรพสามิต ซึ่งได้ทราบว่าทั้งศปก.ศบค.และศบค.ชุดใหญ่จะได้มีการพิจารณาในประเด็นนี้ด้วย ซึ่งเราก็มีความหวังว่า จะได้เปิดบริการสถานบันเทิงกลางคืนทุกประเภท

อย่างไรก็ตามทางพล.อ.สุพจน์ได้เน้นย้ำใน 2 ประเด็นหลัก คือ ผู้ประกอบการ และลูกค้าผู้ใช้บริการต้องปลอดภัย

สธ.โยน คกก.โรคติดต่อจังหวัดเคาะเปิดผับ-บาร์หลัง ศบค.จ่อปรับพื้นที่สี

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้เสนอเรื่องการผ่อนคลายมาตรการ แต่จะเสนอเรื่องการปรับระดับพื้นที่สี เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในระยะขาลง โดยจะเสนอพื้นที่สี 3 รูปแบบ คือ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวสีฟ้า พื้นที่เฝ้าระวังสีเขียว และพื้นที่เฝ้าระวังสูงสีเหลือง ซึ่งแต่ละพื้นที่สีจะมีมาตรการทางสังคมที่ ศบค.กำหนดไว้อยู่แล้ว

ดังนั้น จังหวัดที่ได้รับการปรับลดระดับพื้นที่สีลงจะสามารถดำเนินกิจการ/กิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้นตามมาตรการที่กำหนดไว้ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาให้สามารถประกอบกิจการ/กิจกรรม รวมถึงการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะในพื้นที่สีเขียวด้วย ซึ่งหากเป็นกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงก็จะต้องมีข้อกำหนดมาตรการทางสาธารณสุขกำกับ เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อต่อไป

นอกจากนี้ จะมีการรายงานให้ ศบค.ทราบถึงการเข้าสู่โรคประจำถิ่นที่อาจเร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ทุกจังหวัดเตรียมมาตรการทางการแพทย์และสาธารณสุขรองรับให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์

ส่วนเรื่องจะปรับลดระดับการแจ้งเตือนภัยโควิด-19 จากระดับ 3 เป็นระดับ 2 หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับมติของที่ประชุม ศบค.

ศบค.ชุดใหญ่ 20 พ.ค.นี้พิจารณาผ่อนคลายมาตรการเพิ่ม-ลดระดับเตือนภัย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 8/2565 ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) เพื่อพิจารณาในประเด็นต่างๆ ทั้งการเตรียมผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมเพิ่มเติม ภายหลังสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย และมีแนวโน้มดีขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อลดลง อัตราการเสียชีวิตน้อยลง รวมทั้งอาจมีการพิจารณาปรับพื้นที่สีใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ประเมินว่าภายในปลายเดือน พ.ค.นี้ สถานการณ์โควิด-19 ของไทยจะเข้าสู่ระยะโรคลดลง และอาจพิจารณาลดระดับการแจ้งเตือนภัยจากระดับ 3 ในเวลานี้เป็นระดับ 2

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีย้ำถึงความจำเป็นที่ยังจะต้องมีมาตรการที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรค พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้กลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลง

พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมจะพิจารณาปรับพื้นที่โซนสีให้ผ่อนคลายมากขึ้นจากสีเหลืองเป็นสีเขียวเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มพื้นที่สีฟ้ามากขึ้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในบรรยากาศที่สามารถจะผ่อนคลายมาตรการได้ และจะปรับมาตรการอื่นๆ เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจเดินได้สะดวกกว่าเดิม สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้คล่องตัว ลดภาระการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย

สำหรับข้อเสนอของผู้ประกอบการ ให้เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการพิจารณาหลายรอบ แต่ทางสาธารณสุขยังมีความกังวลอยู่ แต่ในครั้งนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเห็นได้จากวิธีการจัดการตนเองเมื่อติดเชื้อก็เป็นไปด้วยดี จึงคาดว่าจะได้รับการพิจารณา

ส่วนจะให้เปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศหรือไม่นั้น พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนพิจารณา แต่น่าจะดูพื้นที่ปลอดภัยเป็นหลัก และประเมินตามปัจจัยที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบแนวทางไว้นานแล้วว่าจะต้องพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง 

หากพื้นที่ใดพร้อม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะพิจารณาจากปัจจัยที่วางหลักเกณฑ์ไว้ ซึ่งเชื่อว่าหากผ่อนคลายสถานบันเทิงจะช่วยให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นแน่นอน อีกทั้งพื้นที่ภาคการท่องเที่ยวก็จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวด้วย

ด้านการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นเมื่อใดนั้น ขึ้นกับยอดฉีดวัคซีน จำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต การบริหารจัดการของแต่ละพื้นที่ การปรับตัวของประชาชน เป็นต้น ขณะนี้ยังเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ โดยนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาอย่างค่อยเป็นค่อยไปก่อนจะประกาศ และมีโอกาสที่จะสามารถประกาศได้เร็วขึ้นหากสถานการณ์อาจเป็นไปตามปัจจัยที่วางไว้

23 พ.ค. ปิดโรงเรียนสังกัด กทม. หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทำความสะอาดพื้นที่ฆ่าเชื้อ สอนชดเชยภายหลัง

สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ออกประกาศ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง และคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศ ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2565 กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง และผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร ได้มีประกาศ ลงวันที่ 24 มีนาคม พ ศ. 2565 กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ในการปฏิบัติงานในวันดังกล่าวได้มีการใช้วัสดุอุปกรณ์และอาคารสถานที่ของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครรวมทั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานครได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อCOVD-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ตามข้อกำหนด 6 มาตรการหลัก (DMHT- RC) 6 มาตรการเสริม (SSET.CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา

จึงให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานและทำความสะอาดอาคารสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนการสอนให้ปลอดเชื้อและปลอดภัยก่อนการจัดการเรียนการสอนปกติ 

อาศัยอำนาจตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการสั่งปิดสถานศึกษาชั่วคราวเนื่องจากเหตุพิเศษ พ.ศ. 2543 ข้อ 5 (3) จึงให้ปิดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ในวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม 2565 และให้จัดการสอนชดเชยในภายหลัง

อ้างอิง : ryt9.com, infoquest ,ไทยคู่ฟ้า

ติดต่อโฆษณา!