นายกฯยกเลิกเคอร์ฟิว 31 ต.ค. เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด เพิ่มประเทศความเสี่ยงต่ำเดินทางเข้าไทยได้เป็น 46 ประเทศเริ่ม 1 พ.ย. นี้

นายกฯยกเลิกเคอร์ฟิว 31 ต.ค. เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 17 จังหวัด เพิ่มประเทศความเสี่ยงต่ำเดินทางเข้าไทยได้เป็น  46 ประเทศเริ่ม 1 พ.ย. นี้
Highlight

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามยกเลิกเคอร์ฟิว กทม.และอีก 16 จังหวัด มีผล 23.00 น. 31 ต.ค.64  พร้อมเปิดประเทศรองรับการท่องเที่ยวเริ่ม 1 พ.ย.นี้ แต่ยังไม่อนุญาตเปิดผับบาร์ คาราโอเกะในเขตนำร่องท่องเที่ยว และห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนเกิน 500 คน


เมื่อเวลา 23.30 น. ของวันที่ 21 ตุลาคม 2564  ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 36 โดยที่การระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น 

รัฐบาลจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศเพื่อประโยชน์ด้านการใช้ชีวิตความเป็นอยู่และด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน ในเบื้องต้นจึงเห็นควรให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว อันจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดยให้มีการกำหนดเขตพื้นที่นำร่อง (Sandbox) ด้านการท่องเที่ยวขึ้น เพื่อการดำเนินการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กับการกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่แบบบูรณาการ โดยพิจารณาถึงความเหมาะสม ความพร้อม และบริบทของแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อการบังคับใช้ให้เหมาะสมและเป็นการเฉพาะจากเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ออกประกาศพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ดังนี้

1. กรุงเทพมหานคร
2. จังหวัดกระบี่
3. จังหวัดชลบุรี (เฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และ อำเภอสัตหีบ เฉพาะตำบลนาจอมเทียน และตำบลบางเสร่)
4. จังหวัดเชียงใหม่ (เฉพาะอำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอดอยเต่า อำเภอแม่ริม และอำเภอแม่แตง)
5. จังหวัดตราด (เฉพาะอำเภอเกาะช้าง)
6. จังหวัดบุรีรัมย์ (เฉพาะอำเภอเมืองบุรีรัมย์)
7. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะตำบลหัวหิน และตำบลหนองแก)
8. จังหวัดพังงา
9. จังหวัดเพชรบุรี (เฉพาะเทศบาลเมืองชะอำ)
10. จังหวัดภูเก็ต
11. จังหวัดระนอง (เฉพาะเกาะพยาม)
12. จังหวัดระยอง (เฉพาะเกาะเสม็ด)
13. จังหวัดเลย (เฉพาะอำเภอเชียงคาน)
14. จังหวัดสมุทรปราการ (เฉพาะบริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ)
15. จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า)
16. จังหวัดหนองคาย (เฉพาะอำเภอเมืองหนองคาย อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ และ อำเภอท่าบ่อ)
17. จังหวัดอุดรธานี (เฉพาะอำเภอเมืองอุดรธานี อำเภอบ้านดุง อำเภอกุมภวาปี อำเภอนายูง อำเภอหนองหาน และอำเภอประจักษ์ศิลปาคม 

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้สถานที่ กิจการ หรือการดำเนินกิจกรรมในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว สามารถเปิดดำเนินการได้ ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด เช่น มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ

เลิกเคอร์ฟิวมีผล 31 ต.ค. ห้ามจัดกิจกรรมคนเกิน 500 คน

ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวซึ่งเดิมเคยกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากการจำแนกจังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ แต่ได้มีคำสั่งกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่นำร่อง ด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค.2564

การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพรโรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 500 คนในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

ยังปิดสถานบันเทิง-ผับบาร์ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว

การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ในระยะเริ่มแรกของการดำเนินการเปิดเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อนในช่วงเวลานี้

โดยให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อการผ่อนคลายมาตรการตามที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 35) ลงวันที่ 15 ต.ค.นี้ เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อไปตามแผนและกรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกำหนด

การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และการกำหนดมาตร การเพิ่มเติมของแต่ละจังหวัด ให้ผู้ว่าฯกทม. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณีเสนอต่อศูนย์ปฏิบัติการ ศปก.ศบค.เพื่อตรวจสอบ กลั่นกรอง และเสนอนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาปรับระดับความเข้มข้น หรือการผ่อนคลายของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในระดับท้องที่หรือเขตอำเภอที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัด ในความรับผิดชอบของตนได้ตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ในห้วงเวลาต่าง ๆ

ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาดำเนินการตามพ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ. 2558 โดยสั่งปีด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของสถานที่ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมอื่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มเติมจากมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19

อนุญาตนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศเพิ่มอีก 46 ประเทศ ไม่กักตัว 

กระทรวงการต่างประเทศ เปิดรายชื่อ 46 ประเทศเสี่ยงต่ำกลุ่มแรก ที่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจ

มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องมีหนังสือรับรองหรือหลักฐานการลงทะเบียนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การได้รับวัคซีนป้องกันโรคครบตามเกณฑ์ การตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อ COVID-19 การมีกรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลตามเกณฑ์ที่กำหนด และหลักฐานการชำระค่าที่พัก ให้เป็นไปตามคำสั่ง ศบค. 

โดยรายชื่อประเทศ/พื้นที่ ตามประกาศ ศปก.กต. ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ประกอบด้วย 46 ประเทศ ดังนี้ ออสเตรเลีย ออสเตรีย บาห์เรน เบลเยียม ภูฏาน บรูไนดารุสซาลาม บัลแกเรีย กัมพูชา แคนาดา ชิลี จีน ไซปรัส สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิสราเอล อิตาลี ญี่ปุ่น ลัตเวีย ลิทัวเนีย มาเลเซีย มอลตา เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ สโลวีเนีย สาธารณรัฐเกาหลี สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง

ติดต่อโฆษณา!